ตลาดเก้าห้อง ตลาด 100 ปี แห่งเมืองสุพรรณบุรี

โดย...นพพล ชูกลิ่น

ตลาดเก่าเล็กๆ แต่มีประวัติอันยาวนานอีกแห่หนึ่งของเมืองสุพรรณ ที่มีประวัติอันยาวนาน เช่นเดียวกับตลาดสามชุก ก่อนอื่นขอนำประวัติของตลาดเก้าห้องมาให้ท่านผู้อ่านได้รู้จักตลาดเก้าห้อง (ขอขอบคุณข้อมูลที่ได้จาก travel.mthai.com ที่ทำให้ผมได้คิดถึงตลาดแห่งนี้หลังจากได้ไปถ่ายภาพชุดนี้ไว้นานมากแล้ว) โดยครั้งแรกที่เห็นรูปผมนึกชื่อตลาดไม่ออกพอลองค้นหาข้อมูลดู เลยได้ข้อมูลมาเล่าให้ท่านผู้อ่านเป็นการรำลึกถึงตลาดเก่าแห่งหนึ่งที่ผมประทับใจจัง

ตลาดเก้าห้อง 100 ปี เป็นชื่อของตรอกแห่งหนึ่งที่มีเรือนไม้เก่า ตั้งอยู่ใกล้กับริมแม่น้ำท่าจีน อายุประมาณ 100 ปี สร้างประมาณต้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลบางปลาม้า หมู่ที่ 2 ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ชาวบ้านที่นี่จะนำข้าวของมาวางขาย มีทั้งเครื่องใช้เก่าๆ แต่ยังคงความคลาสสิก ขนม อาหารโบราณต่างๆ มากมายที่เราไม่เคยเห็น ซึ่งที่นี่ค่อนข้างจะเงียบและไม่วุ่นวายเหมือนตลาดสามชุก ทั้งที่มีของขายในลักษณะคล้ายๆ กัน ตลาดเก้าห้อง 100 ปี อยู่ใกล้แม่น้ำท่าจีน สายสุพรรณฯ ตลาดเก้าห้อง 100 ปี เป็นที่อยู่อาศัยและค้าขายของชุนชนคนไทยและจีน จากเอกสารที่มีผู้เขียนเกี่ยวกับประวัติ ตลาดเก้าห้อง 100 ปี และจากคำบอกเล่าของผู้สูงอายุ คำว่า “ตลาดเก้าห้อง” น่าจะนำมาจากชื่อของบ้านเก้าห้อง ซึ่งเป็นบ้านโบราณมีประวัติสืบทอดมายาวนานของตลาดเก้าห้อง

เล่ากันว่าสร้างขึ้นโดยชาวจีนคนหนึ่งชื่อ “นายฮง” อพยพมาจากกรุงเทพฯ มาทำมาค้าขายอยู่บริเวณละแวกบ้านเก้าห้อง กิจการค้ารุ่งเรืองดี ในราว พ.ศ. 2424 ได้แต่งงานกับ “นางแพ” ซึ่งเป็นหลานสาวของขุนกำแหงฤทธิ์แห่งบ้านเก้าห้อง และได้ประกอบอาชีพค้าขายที่แพ ซึ่งสร้างขึ้นไว้ 1 หลัง จอดอยู่ริมน้ำหน้าบ้านเก้าห้อง ในสมัยก่อนเป็นย่านค้าขายที่มีเรือนแพขายของสองฝั่งแม่น้ำ นายฮงหรือที่ชาวบ้านมักนิยมเรียกว่า “เจ๊กรอด” ทำการค้าขายสินค้าทุกประเภทโดยเฉพาะเครื่องบวช เครื่องมืออุปกรณ์ทำนา และเครื่องอุปโภคบริโภคทั้งหลายจนร่ำรวย และรู้จักกันในนามต่อมาว่า “นายบุญรอด เหลียงพานิช” ใน พ.ศ. 2467 โจรได้ปล้นแพของนายบุญรอด และได้ทำการประทุษร้ายนางแพจนถึงแก่กรรม หลังจากนั้นไม่นานนายบุญรอดได้สมรสกับนางส้มจีน นายบุญรอดเริ่มวางแผนผังและสร้างตลาดบริเวณฝั่งตรงข้ามบ้านเก้าห้อง โดยโยกย้ายแพทั้งหลายขึ้นไปค้าขายบนบกคือในตลาด เพื่อเป็นศูนย์กลางการค้าขายทางน้ำในบริเวณนั้น และเปิดการค้าทางบกมากขึ้นและนำชื่อบ้านเก้าห้องมาเป็นชื่อตลาด คือ “ตลาดเก้าห้อง”

นอกจากนี้ ยังมีหอดูโจรแห่งเดียวใน จ.สุพรรณบุรี คือ หอดูโจรแห่งตลาดเก้าห้อง 100 ปี เป็นหอสูงก่ออิฐถือปูนกว้าง 33 เมตร สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2477 ชั้นบนเป็นดาดฟ้า แต่ละชั้นฝาผนังเจาะรูขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 นิ้ว ใช้สำหรับเวรยาม สอดส่องดูแลว่ามีโจรมาบุกปล้นหมู่บ้านหรือเปล่า ซึ่งหอดูโจรแห่งนี้อยู่ในยุคเสือมเหศวร เสือดำ เสือหวัด เสือฝ้ายและเสือใบ จอมโจรชื่อดังในภาคกลาง ที่ออกปล้นชาวบ้านที่เป็นข่าวโด่งดังจนนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่องฟ้าทะลายโจรนั่นเอง หอดูโจรหนึ่งเดียวใน จ.สุพรรณบุรี ตลาดเก้าห้อง 100 ปี ในปัจจุบันไม่มีโจรผู้ร้ายและเหล่าเสือต่างๆ มาสร้างความวุ่นวายกันแล้ว หอดูโจรก็ยังเป็นจุดเด่นของตลาดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปดูวิวรอบๆ ได้ การเดินทางมายัง ตลาดเก้าห้อง 100 ปี จากตัวเมืองสุพรรณบุรี ใช้เส้นทางสุพรรณบุรีบางแม่หม้าย ประมาณ 9 กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายมือเข้าตลาดเก้าห้อง นอกจากนี้ยังมีรถประจำทางสายสุพรรณฯเก้าห้อง มาลงที่ตลาดเก้าห้องอีกด้วย

ตลาดเก้าห้อง 100 ปี ถือเป็นตลาดเก่าแก่และมีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี เป็นตลาดที่มีผู้คนไม่พลุกพล่านมากนักในเวลานี้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเที่ยวสุพรรณบุรีแบบชิลชิล เดินสบาย ไม่ต้องเบียดกับผู้คนเยอะ เหมือนกับตลาดอื่นๆ ในสุพรรณบุรี ตลาดเก้าห้อง 100 ปี น่าจะเป็นหนึ่งในการท่องเที่ยวตลาดเก่าๆ ที่ได้สัมผัสบรรยากาศโบราณๆ ผมได้มีโอกาสเยี่ยมชมโรงงานผลิตขนมเปียก ได้เห็นเทคนิคการกวนแป้งและไส้ขนมเปียกที่ทำมาจากฟัก ผ่านการกวนด้วยเทคนิคดั้งเดิมเติมส่วนผสมตามหลักที่ได้รับการถ่ายทอดกันมา ได้เห็นเทคนิคการย่างไส้ฮ่วน ให้ได้ความหอมสีสันชวนให้ชิมเป็นยิ่งนัก ได้พบเห็นร้านกาแฟดั้งเดิมที่มีเทคนิคการชงกาแฟด้วยถุงกาแฟผ้าฝ้ายกับผงกาแฟจากกระป๋องผ่านน้ำร้อนที่มีความร้อนสูงจนได้ความหอม แม้ตอนกระทั้งที่กำลังชง ร้านกาแฟยังคงเป็นแหล่งรวมของกิจกรรมต่างๆ ในสังคมขนาดเล็กแบบดั้งเดิม นอกจากสภากาแฟ ยังมีกิจกรรมการเล่นกีฬาหมากฮอส หมากรุก ของผู้เฒ่าผู้แก่ที่ทำให้เกิดบรรยากาศของสังคมและชุมชนที่ผมไม่ค่อยมีโอกาสได้พบแม้ในตลาดเก่าแก่ในที่อื่น ลองมาเที่ยวกันนะครับ