จินตหรา สุขพัฒน์ นางเอกผู้ปิดตำนานภาพยนตร์ไทย
ผมชื่อ ตุลย์ จตุรภัทร ผมเป็นคนหนึ่งที่ติดตามผลงานการแสดงของพี่แหม่มมาตั้งแต่ยังเรียนอยู่ชั้น ม.1 (ปี 2533)
โดย...ตุลย์ จตุรภัทร
ถึง พี่แหม่ม จินตหรา สุขพัฒน์
ผมชื่อ ตุลย์ จตุรภัทร ผมเป็นคนหนึ่งที่ติดตามผลงานการแสดงของพี่แหม่มมาตั้งแต่ยังเรียนอยู่ชั้น ม.1 (ปี 2533) ตอนนั้นภาพยนตร์เรื่อง สอว. รุ่น 2 ห้อง 44 กำลังเข้าฉายอยู่พอดี แม้จะรู้ว่าพี่เข้าวงการช่วงปลายปี 2527 และมีภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตคือ เรื่อง ผู้ใหญ่ลีกับนางมา แล้วก็ดังเปรี้ยงปร้าง ในฐานะนักแสดงหน้าใหม่อีกด้วย
แม้ว่าผมจะติดตามผลงานของพี่ช้าไปหน่อย แต่ในโอกาสที่ใกล้จะส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ปี 2557 ปีที่การเดินทางบนเส้นทางบันเทิงของพี่จะครบ 30 ปี ผมอยากขอให้พี่แหม่มช่วยเล่าเรื่องเก่าอันแสนหวาน (เหมือนชื่อภาพยนตร์เรื่อง หวานมันส์ฉันคือเธอ ที่พี่เล่นกับพี่หนุ่ม สันติสุข ตอนปี 2530 นั่นแหละ เอ หรือตอน ป.4 ผมเคยดูเรื่องนี้กันหว่า อิอิ) เอาเป็นว่า รบกวนพี่แหม่มช่วยตอบจดหมายมาเล่าสู่ให้กันอ่านหน่อยนะครับ จะเป็นพระคุณมิรู้ลืมครับ
รักและชื่นชมพี่มาโดยตลอด
ตุลย์ จตุรภัทร
ถึง น้องตุลย์ จตุรภัทร
พี่แหม่มจินตหรา สุขพัฒน์ เองนะคะ ขอบคุณที่รักและชื่นชมพี่มาโดยตลอด (เอ๊ะหรือว่าชื่นชมผลงานของพี่กันแน่ คริคริ) ถ้าให้พี่เล่าเรื่องเก่าอันแสนหวาน ก็คงจะหวานมันส์ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ตอนที่พี่แสดงหนังเรื่องแรก เรื่องผู้ใหญ่ลีกับนางมา ตอนนั้นพี่จำได้ว่าพี่ไม่ได้เรียนการแสดงอะไรเลย คุณลุงสักกะ จารุจินดา ผู้กำกับการแสดง ท่านก็ฝากฝังให้ มี้ พิสมัย ที่ร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ด้วยให้ช่วยดูแลพี่ ตอนนั้นพี่ยังไม่มีอินเนอร์ในการแสดง มี้ก็สอนให้พี่ทำตาม พอถ่ายทำไปได้สักระยะก็เริ่มจับทางได้มากขึ้น โชคดีที่ภาพยนตร์ในยุคนั้นใช้เสียงพากย์ไม่ใช้เสียงจริง คนที่พากย์เสียงให้พี่ก็คือ อาดวงดาว จารุจินดา แกพากย์แล้วช่วยทำให้การแสดงของพี่มีอารมณ์มากขึ้นมาก ทำให้เรื่องแรกของพี่สอบผ่าน คนดูให้การตอบรับและถือได้ว่าพี่แจ้งเกิดจากผู้ใหญ่ลีกับนางมาได้เลย
หวานมันส์ต่อมาน่าจะเป็นความหวานในเรื่องของการโชว์ตัว ยุคสมัยนั้นไม่มีอีเวนต์เยอะแยะมากมายเหมือนสมัยนี้ ดาราหนังส่วนใหญ่มักจะโชว์ตัวตามโรงภาพยนตร์ที่ซื้อหนังไปฉาย ไม่ว่าจะเป็นสายเหนือ อีสาน ใต้ พี่ไปเปิดรอบปฐมทัศน์หมด ไม่ว่าจะไปที่ไหน คนก็จะแห่มาดู ดูทั้งหนัง ดูทั้งพระเอกนางเอก พี่บอกได้เลยว่า การที่หนังเรื่องหนึ่งประสบความสำเร็จ ก็ให้ดูจากคนที่มาดูเยอะๆ นี่แหละ ยิ่งได้เงินเป็นล้านนี่ถือว่าสุดยอดมากเลยนะ เพราะยุคสมัยนั้นตั๋วหนังราคาสิบบาทยี่สิบบาทเอง
หวานมันส์ที่หลายคนน่าจะยังจำกันได้ ก็คงเป็นความหวานมันส์ในเรื่องของการจับคู่พระนาง ที่คนดูอยากให้เป็นแฟนกันจริงๆ อย่างพี่ก็โดนจับคู่กับพี่หนุ่ม สันติสุข เป็นเพราะเราเล่นหนังและโชว์ตัวด้วยกันเยอะมาก กับพี่หนุ่มเราเซ็นสัญญาเป็นพระนางในไฟว์สตาร์มาไล่ๆ กัน ยิ่งมาเล่นหนังเรื่องบุญชูด้วยกัน ยิ่งทำให้เราแสดงคู่กันเยอะ เพราะมันมีหลายภาค นับๆ ดูก็ 10 ภาคเข้าไปแล้ว พอเราทำงานด้วยกันเยอะ เราเลยไม่เจอใคร ก็เลยลองคบกันดู เราคบกันมาได้พักหนึ่ง ก็มีความเบื่อหน่ายเข้ามา จะไปไหนก็ลำบาก จนสุดท้ายกลายเป็นความเฉยๆ ต่างคนต่างทำงานกันไป พอจังหวะที่พี่มาเล่นละคร เราสองคนก็เลยห่างๆ กัน
เมื่อพูดถึงการลงมาเล่นละคร นี่ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ทั้งหวานทั้งมันส์ของพี่อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งพี่ลงมาเล่นละครตอนปี 2534 มีเรื่องเชลยศักดิ์ ช่อง 7 กับสี่แผ่นดิน ช่อง 3 สองเรื่องนี้ถ่ายคู่กัน แต่สี่แผ่นดินถ่ายทำยาวนานกว่า เชลยศักดิ์เลยได้ออนแอร์ก่อน ซึ่งตอนนั้นก็มีเสียงร่ำลือเหมือนกันนะ ว่านางเอกจอเงินมาลงจอแก้วสงสัยความดังจะตกลงมาเสียแล้ว แต่พอพี่เล่นสี่แผ่นดินกลับดังเปรี้ยงปร้าง เหมือนพี่เกิดใหม่อีกครั้ง ทำให้พี่เป็นที่รู้จักของคนในวงกว้าง เอาจริงๆ นะ เป็นที่รู้จักมากกว่าเล่นหนังเสียอีก เพราะสื่อโทรทัศน์ใกล้ชิดคนดูมากกว่าสื่อภาพยนตร์
ท้ายสุดสิ่งที่พี่อยากบอกก็คือ การที่ใครหลายคนยกให้พี่เป็นนางเอกคนสุดท้ายผู้ปิดตำนานภาพยนตร์ไทย พี่ว่าคนก็พูดกันไปนะ ถ้าให้พี่วิเคราะห์คงเป็นเพราะยุคสมัยก่อนนางเอกที่ดังในแต่ละยุค จะมีหนังให้เล่นอย่างต่อเนื่อง อย่างยุคก่อนพี่ก็มีพี่เปิ้ล จารุณี ซึ่งพอมาเป็นยุคพี่ คนก็พูดกันปีอีกว่าพี่จะมาแทนพี่เปิ้ล ซึ่งพี่ว่านางเอกแต่ละคนต่างก็มีระยะเวลาเป็นของตัวเอง พอพี่มาลงเล่นละคร พี่ก็ไม่ได้เซ็นสัญญาต่อกับทางไฟว์สตาร์ แล้วภาพยนตร์ไทยก็ดันมาซาในช่วงนั้นพอดี เลยทำให้ไม่ค่อยมีนางเอกที่เล่นหนังอย่างต่อเนื่อง คนเลยพูดกันว่าพี่เป็นนางเอกคนสุดท้ายผู้ปิดตำนานภาพยนตร์ไทย
เอาเป็นว่าอีกไม่กี่วัน จะเข้าปี 2557 เป้นปีที่พี่จะทำงานครบ 30 ปีแล้ว คาดว่าปีหน้า คนดูคงจะได้ดูละครที่พี่เล่นอย่างเต็มอิ่ม ไม่ว่าจะเป็นบทแรงๆ ในละครเรื่อง ไฟในวายุ และก็มีละครตลกเรื่อง พ่อไก่แจ้ ซึ่งคนดูน่าจะชอบกันมากๆ แล้วก็ยังมีละครเรื่อง บุษบาหน้าตลาด และยังมีอีกสองสามเรื่องที่ขออุบไว้ก่อน
ฉบับนี้พอแค่นี้ก่อน หวังว่าโอกาสหน้าพี่คงได้เขียนจดหมายไปเล่าเรื่องเก่าให้น้องตุลย์ จตุรภัทร ได้อ่านอีก
เอาเป็นว่า อากาศหนาวทุกวันเลย ยังไงก็รักษาสุขภาพกายและใจนะจ๊ะ
พี่แหม่ม จินตหรา สุขพัฒน์