อร่อยดีหลวงพระบาง
ทุกหนแห่งที่ย่างผ่าน ทุกสถานที่ซึ่งไปเยือน คนหลวงพระบางมักจะส่งคำคำนี้มาทักทายผู้มาเยือนสม่ำเสมอ
โดย...รอยนวล
“สบายดี...”
ทุกหนแห่งที่ย่างผ่าน ทุกสถานที่ซึ่งไปเยือน คนหลวงพระบางมักจะส่งคำคำนี้มาทักทายผู้มาเยือนสม่ำเสมอ ก็เหมือนกับคนไทยที่เอ่ยปากบอกสวัสดีกันตลอดเวลา
“รอยนวล” ได้ไปเยือนหลวงพระบางเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา อากาศเย็นกำลังดี เมืองสงบเรียบง่าย (ต่างกับกรุงเทพฯ มาก) ไปเที่ยวต่างแดนทั้งทีก็ต้องลองเมนูเด็ดๆ แล้วก็พบว่า... อาหารลาวคล้ายคลึงอาหารในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือของไทยอยู่หลายส่วน
อาหารหลักของลาวก็คือ ข้าวเหนียว และอาหารขึ้นชื่อคือ ลาบและก้อย ซึ่งคล้ายกับที่เราได้กินกันในร้านอาหารอีสานทั่วไป แต่ส่วนใหญ่จะเป็นลาบหรือก้อยดิบ ส่วนไส้อั่วที่คนลาวรับประทานกันทุกวันก็มีรสชาติคล้ายกับไส้อั่วจากภาคเหนือ ผู้เขียนชอบกินอั่วกับส้มตำ รู้สึกว่ามันเข้ากั๊นเข้ากัน ยิ่งมีแคบหมูแนมมาด้วยล่ะ... เพอร์เฟกต์!!!
อาหารลาวยังคล้ายกับอาหารเวียดนามบางอย่าง เช่น ข้าวเปียกหรือกวยจั๊บญวนที่มีให้เลือกชิมกันทั่วทุกหัวถนน กินกันตั้งแต่เช้ายันค่ำ มีทั้งข้าวเปียกหมู ไก่ และเนื้อควาย นอกจากนี้ลาวซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสนานหลายปียังได้รับอิทธิพลอาหารมาจากฝั่งตะวันตกเช่น เมนูข้าวจี่ลาวหรือจี่ป้าเต้ ซึ่งทำจากขนมปังฝรั่งเศสมายัดไส้ หมูยอ หมูหยอง แจ่วบอง ผัก ฯลฯ เมนูนี้คล้ายกับอาหารเวียดนามและกัมพูชา
อีกหนึ่งเมนูที่ได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศสคือ “สลัดหลวงพระบาง” ซึ่งเลื่องชื่ออยู่พอสมควร ใครไปใครมาก็ต้องลอง ดูจากหน้าตาแล้วคล้ายกับสลัดจากฝั่งตะวันตก แตกต่างกันที่ผัก องค์ประกอบหลักเป็นผักน้ำหรือสลัดน้ำ (Watercress) ส่วนใหญ่เป็นผลผลิตจากริมน้ำคาน โดยมีถิ่นกำเนิดมาจากฝรั่งเศส (ในบ้านเรามีปลูกกันทางใต้แถว อ.เบตง) อาจจะมีมะเขือเทศ แตงกวา ผักกาดหอม ผักชี ฯลฯ มาเสริม เพิ่มคุณค่าด้วยไข่ต้ม สลัดหลวงพระบางจะใส่หอมและกระเทียมเจียวเพิ่มรสชาติ ส่วนน้ำสลัดนั้นทำจากไข่แดง ความอร่อยของเมนูนี้ต้องยกให้กับผักน้ำที่แม้จะดูเป็นผักก้านเล็กๆ ผอมๆ แต่รสกลับเข้มข้น มัน และอร่อยเต็มคำ
ทริปนี้รอยนวลได้ลองเมนูแปลกใหม่ รสชาติมีเอกลักษณ์ คือ “เอาะหลาม” เป็นแกงหรือต้มตำรับลาว น้ำขลุกขลิก ใส่เนื้อควาย หนังควายแห้ง (หรือเปลี่ยนเป็นเนื้อไก่หรือหมูได้) ผักต่างๆ เช่น ตำลึง ยอดพริก มะเขือ เห็ด ผักชีลาว ฯลฯ ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า ใส่แป้งข้าวเหนียวและเนื้อมะเขือเปราะที่ต้มและตำจนละเอียดใส่เข้าไปทำให้น้ำข้น ถ้าใส่ผักเยอะหลากหลายก็เรียก เอาะโฮะ (หลักการเดียวกับแกงโฮะทางภาคเหนือของบ้านเราที่มีอะไรก็ใส่ลงไป) ถ้าใส่น้ำมากก็เรียกว่า เอาะซด คือ เอาไว้ซดน้ำนั่นเอง
หัวใจหลักที่ทำให้ เอาะหลาม โดดเด่นแตกต่างและมีกลิ่นเฉพาะตัวคือ สะค้าน หรือ จะค้าน เป็นไม้เถาที่ชาวลาวจะตัดเอาข้อปล้องมาลอกเอาเฉพาะแก่นตรงกลางใส่ไปในเอาะหลามเพื่อเพิ่มความเผ็ดร้อนและให้กลิ่นหอม สะค้านยังเป็นยาแก้ลม บำรุงธาตุ แก้ไข้ แก้จุกเสียด บำรุงธาตุ ฯลฯ ได้ด้วย เมืองไทยเราก็มีสะคานซึ่งเป็นที่รู้จักในรูปของสมุนไพรที่นำมาทำยา แต่ก็มีที่ชาวเหนือหรือชาวไทยภูเขานำมาใส่ในแกงหน่อไม้หรือขนุนอยู่เหมือนกัน
ผู้เขียนได้ลองรับประทานเอาะหลาม ที่ร้านดังของหลวงพระบางคือ ตำหนักลาว ที่นี่เขาเสิร์ฟร้อนๆ ควันฉุย ควักข้าวเหนียวจากกระติบจุ่มลงไปในชามเอาะหลาม แล้วก็ใช้ช้อนตักน้ำซดตาม ได้รสชาติคล้ายกับแกงป่า น้ำแกงข้น เผ็ดอ่อนๆ กินแล้วรู้สึกชาลิ้นหน่อยๆ อาจจะเป็นเพราะรสของสะคาน เป็นเมนูสุขภาพ ใครไปหลวงพระบางต้องลอง แล้วข้าวเหนียวจะหมดกระติบโดยไม่รู้ตัว เด้อค่ะเด้อ
อาหารจานเด็ดของหลวงพระบางอีกอย่างคือ “ส้มตำหลวงพระบาง” หรือจะเรียกว่าตำหมากหุ่ง สำหรับหมากหุ่งหรือมะละกอที่นำมาตำจะซอยเป็นเส้นใหญ่ๆ ไม่ใช่เล็กๆ บางๆ เหมือนบ้านเรา ตำใส่ปลาร้าและกะปิ โรยด้วยแคบหมู รสจัดจ้านดี อีกหนึ่งเมนูแปลกที่ได้ลองในทริปนี้คือ ผัดเส้นขนมจีน รสชาติไม่ค่อยคุ้น แต่ออกมันเลี่ยนๆ ในตอนแรก แต่พอกินกับผักสดดูก็อร่อยดีไปอีกแบบ
อีกหนึ่งพืชผักของลาวที่รอยนวลได้ทำความรู้จักคือ “ไค” ซึ่งนำมาทำเป็นไคแผ่น ของว่างที่ชาวลาวนิยม ไคคือสาหร่ายน้ำจืดที่มีอยู่มากในแม่น้ำคาน นำมาทำเป็นแผ่นแล้วทอด เคี้ยวเพลินๆ สาหร่ายชนิดนี้ที่บ้านเราแถบภาคอีสานก็รู้จักกันในชื่อ เทา
ไปหลวงพระบางครั้งนี้ได้ชิมอะไรก็ “อร่อยดี” ทุกอย่าง แม้จะเคยลองอาหารลาวที่อื่นมาบ้างแล้วแต่ก็ไม่ได้รสชาติแท้ๆ แบบที่นี่ ใครอยากไปสัมผัสกับ “ความแซ่บ” เช่นนี้ก็ไปได้สะดวกดี ทางสายการบินไทยสมายล์เพิ่งเปิดให้บริการเส้นทางบินตรงกรุงเทพฯหลวงพระบาง สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน ตั้งแต่กลางเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา สนใจติดต่อ www.thaismileair.com หรือโทร. 02-356-1111
เชิญไปม่วนซื่นเมืองมรดกโลกหลวงพระบางกันตามอัธยาศัย... เด้อค่ะเด้อ