พระพุทธมหาจักรพรรดิ...
ก่อนที่พระพุทธองค์จะเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ได้ทรงวางเงื่อนไข 3 ประการ
โดย...ดนัย จันทร์เจ้าฉาย CEO DC Consultants & DMG Books
ก่อนที่พระพุทธองค์จะเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ได้ทรงวางเงื่อนไข 3 ประการ ต่อมาครั้งสุดท้าย พญามารก็มาอาราธนาขอให้ปรินิพพานอีก โดยทวงว่าเงื่อนไขที่พระองค์ได้ทรงวางไว้นั้นสมบูรณ์แล้ว ขอนิมนต์ปรินิพพานได้ พระพุทธเจ้าก็ทรงสำรวจดู ปรากฏว่าเงื่อนไขที่พระองค์ทรงกำหนดไว้ 3 ประการนั้น ครบแล้วจริง พระพุทธองค์จึงทรงรับอาราธนาปรินิพพาน แล้วทรงปลงพระชนมายุสังขาร คือ ตกลงพระทัยว่าจะปรินิพพาน สิ่งที่น่าสนใจสำหรับสาธุชน คือ เงื่อนไข 3 ประการที่พระพุทธเจ้าทรงวางไว้มีอะไรบ้าง
ก่อนมหาปรินิพพาน หรือเริ่มต้นนับพุทธศักราชที่ 1 นั้น พุทธบริษัท 4 ได้แก่ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา จะต้องมีความสามารถที่จะดำรงพระศาสนาได้ มิฉะนั้น พระพุทธองค์จะต้องทำหน้าที่ของพระศาสดาต่อไป หมายความว่าพระพุทธองค์ได้ทรงฝากพระศาสนาไว้กับพุทธบริษัท 4 ผู้มีความสามารถ 3 ประการ ได้แก่
1.ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา รู้เข้าใจธรรมวินัย และปฏิบัติได้ถูกต้องด้วยตนเอง
2.มีความสามารถและเอาใจใส่ที่จะบอกกล่าว ชี้แจงสั่งสอนธรรมแก่ผู้อื่น
3.เมื่อมีลัทธิคำสอนที่ผิดพลาดแปลกปลอมขึ้นมาก็สามารถกล่าวชี้แจง ปกป้องพระธรรมและพุทธศาสนาไม่ให้ถูกบิดเบือน
นับจากพุทธศักราชที่ 1 เป็นต้นมา จนถึงพุทธศักราชที่ 2500 หรือช่วงก่อนกึ่งพุทธกาล หน้าที่หลักของการดูแลพุทธศาสนาเป็นของพุทธบริษัทที่มีความมั่นคง เข้มแข็ง เปี่ยมด้วยศรัทธาและปัญญาในการปกป้องพระศาสนาให้อยู่รอดปลอดภัย แต่ในช่วงหลังกึ่งพุทธกาล ปรากฏว่าศาสนาอยู่ในความเสี่ยง ทว่าไม่ใช่จากบุคคลภายนอก แต่ล้วนเกิดจากบุคคลที่อยู่ในศาสนาด้วยกันเอง ด้วยความย่อหย่อนต่อพระธรรมวินัย ย่อหย่อนต่อสัจธรรมแท้จริงแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงทำให้ศาสนาหลักของชาติไทยกำลังอยู่ในภาวะที่ท้าทายอย่างยิ่ง
หลังกึ่งพุทธกาล หรือพุทธศักราช 2500 ปีล่วงมา เป็นที่เชื่อกันว่าหน้าที่ในการดูแลประคับประคองพระพุทธศาสนาให้อยู่ครบ 5,000 ปี เป็นของพระพุทธมหาจักรพรรดิ ซึ่งเป็นพระองค์แทนในการรองรับพระพุทธานุภาพจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ รวมถึงพระศรีอริยเมตไตรยพระโพธิสัตว์ พระอริยสงฆ์สาวกและพระบารมีของเทพยดาทุกสวรรค์ชั้นฟ้าในการสืบทอดพระพุทธศาสนาและพระธรรมคำสอนให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ โดยเฉพาะในดินแดนสุวรรณภูมิที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้น้อมถวายเป็นพุทธบูชา หลังจากที่ได้กอบกู้เอกราชจากพม่าได้โดยใช้เวลาเพียง 7 เดือน ผืนแผ่นดินไทยที่เราอาศัยอยู่นี้จึงมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก
ในโอกาสนี้ มูลนิธิพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ร่วมกับมูลนิธิธรรมดี และปุญญภาคีผู้มีบุญสัมพันธ์ จึงดำริจัดสร้าง “พระพุทธมหาจักรพรรดิ (พระเจ้าทองทิพย์)” ปางวิสุทธิเทพประทานพร ครั้งแรกของโลก เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และร่วมสืบสานพระพุทธศาสนาให้เจริญมั่นคงในแผ่นดินไทยสืบไป โดยจะมีพิธีสมโภชองค์พระพุทธมหาจักรพรรดิในวันมาฆบูชา 14 ก.พ. 2557 เวลา 09.09 น. ณ พุทธสถานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ต.สีกาย อ.เมือง จ.หนองคาย
พระพุทธรูปปางมหาจักรพรรดิมีที่มาจากตำนานพุทธประวัติที่หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เล่าว่า สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเนรมิตองค์เป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้มีฤทธานุภาพยิ่งใหญ่ ไม่มีภยันตรายใดมากล้ำกรายได้ เพื่อให้พญาชมพูบดี ผู้ปกครองเมืองปัญจาลราษฐ คลายความกระหายอำนาจและทิฐิมานะอันเกิดจากอิทธิฤทธิ์ของอาวุธวิเศษคู่กาย แล้วจึงทรงแสดงพระธรรมเทศนาโปรดพญาชมพูบดีและเหล่าเสนาอำมาตย์เห็นสิ่งที่เป็นสาระและไม่ใช่สาระ เห็นโทษแห่งการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร จนเกิดความเลื่อมใสขออุปสมบทในพระพุทธศาสนาและสำเร็จอรหัตผลในที่สุด
พระพุทธมหาจักรพรรดิปางวิสุทธิเทพประทานพร (พระเจ้าทองทิพย์) มีขนาดหน้าตัก 1.89 เมตร สูง 5.55 เมตร เนื้อโลหะ วรรณะสีขาว ทรงเครื่องมหาจักรพรรดิ ประทับนั่งบนบัลลังก์ ห้อยพระบาททั้งสองข้าง ยกพระหัตถ์ทั้งสองขึ้นประทานพร มีจักรแก้ว 7 ตำแหน่ง คือ พระนลาฏ พระอุระ พระนาภี กลางฝ่าพระหัตถ์ทั้งสอง และรองรับพระบาททั้งสองข้าง สื่อถึงพระบารมีอันยิ่งใหญ่ พระปัญญาธิคุณ และพุทธานุภาพแห่งพระพุทธองค์ เมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์จะมีเทวรูปพญานาค 9 เศียร เป็นบริวารทั้งซ้ายขวา
สำหรับพระนาม “พระเจ้าทองทิพย์” หมายถึง ความเจริญรุ่งเรืองด้วยคุณความดีอันวิเศษสูงยิ่ง มีที่มาจากพระพุทธรูปเก่าแก่แห่งกรุงศรีสันตนาคนหุต (หลวงพระบาง) ประเทศลาว มีอายุกว่าพันปี เป็นที่เคารพสักการะมาแต่โบราณ และเชื่อกันว่าสามารถดลบันดาลให้ผู้ที่ไปขอพรสมความปรารถนา พระพุทธมหาจักรพรรดิ (พระเจ้าทองทิพย์) จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งการประทานพรมงคลทั้งปวง และจะเป็นพระพุทธรูปคู่แผ่นดินสุวรรณภูมิในยุคหลังกึ่งพุทธกาล เพื่อค้ำจุนพระพุทธศาสนาให้รอดพ้นจากกลียุคสืบต่อไปจนถึง 5,000 ปี ตามพุทธพยากรณ์
การสร้างพระพุทธรูปพระพุทธมหาจักรพรรดิ ยังเป็นการอัญเชิญพระบารมีของพระศรีอริยเมตไตรและพระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ที่จะมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาล ให้อำนวยความสุขความเจริญแก่แผ่นดินไทยและสาธุชนทั้งหลายผู้ยึดมั่นในคุณงามความดี รวมถึงน้อมนำจิตใจของพุทธบริษัท 4 ให้ระลึกถึงพุทธานุภาพแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ร่วมกันทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ เพื่อให้เกิดเป็นมหาบุญบารมีอันยิ่งใหญ่ ดลบันดาลให้เกิดความสงบร่มเย็นและสรรพสิ่งมิ่งมงคลทั้งปวงแก่ผืนแผ่นดินสุวรรณภูมิประเทศไทย อันเป็นที่ตั้งแห่งความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาในยุคปัจจุบัน
พิธีสมโภชองค์พระพุทธมหาจักรพรรดิ (พระเจ้าทองทิพย์) ณ พุทธสถานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ต.สีกาย อ.เมือง จ.หนองคาย ในวันศุกร์ที่ 14 ก.พ. 2557 เวลา 09.09 น. อันตรงกับวันมาฆบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 วันแห่งการรำลึกถึงความรักที่บริสุทธิ์และยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งพระพุทธองค์ ผู้ทรงเผยแผ่พระธรรมโปรดมวลมนุษย์ให้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร
ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคสมทบทุนสร้างพระพุทธมหาจักรพรรดิได้ที่ บัญชีออมทรัพย์ “มูลนิธิธรรมดี” ธนาคารกสิกรไทย สาขาสยามสแควร์ เลขที่บัญชี 026-2-25377-7 (กรุณาลงท้ายยอดโอนด้วยเลข 14) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-610-2364 หรือ www.dodfoundation.com