สัตว์เลี้ยงแสนรัก เมื่อไอ้ด่าง กลายร่างเป็น น้องหมา
สุนัข สัตว์เลี้ยงผู้ซื่อสัตย์ที่อยู่ใกล้ชิดกับคนมานานนม จากไอ้ด่าง อีแดง พันธุ์ไทย พันธุ์ทาง
โดย...กองบก.โพสต์ทูเดย์
สุนัข สัตว์เลี้ยงผู้ซื่อสัตย์ที่อยู่ใกล้ชิดกับคนมานานนม จากไอ้ด่าง อีแดง พันธุ์ไทย พันธุ์ทาง นอนใต้ถุนบ้านทำหน้าที่เฝ้าทรัพย์สินให้กับผู้เป็นนาย แต่เมื่อวันเวลาแปรเปลี่ยนได้เปลี่ยนแปลงสถานะไอ้ด่าง อีแดง เหล่านั้นกลายเป็น น้องหมาผู้น่ารัก พันธุ์ชิวาว่า ชิสุ ปอมเมอเรเนียน พุดเดิ้ล หรือไม่ก็ปั๊ก พร้อมย้ายที่พำนักจากใต้ถุนบ้านไปสู่ห้องนอนติดแอร์เย็นฉ่ำของเจ้านายที่เลี้ยงเจ้าตัวน้อยเหล่านี้ในฐานะลูกรัก พร้อมๆ กับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับสุนัขตั้งแต่เกิดไปจนตายมูลค่าหลายพันล้านบาท
การที่น้องหมากลายสภาพจากสัตว์เลี้ยงเป็นลูกรักที่ถูกประคบประหงมอย่างดีนั้น สาเหตุเกิดจากสภาพสังคมเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปจากครอบครัวใหญ่กลายเป็นครอบครัวที่เล็กลง และอยู่กันแบบโสดๆ มากขึ้น หรือแม้จะแต่งงานแล้วก็มีลูกยาก การอยู่อย่างโดดเดี่ยวในสภาพสังคมที่มีแรงกดดันสูงขึ้นทุกๆ วัน ทำให้ต้องหาสิ่งมาเติมเต็มให้คลายเหงา และเหมือนได้เลี้ยงดูลูกของตัวเอง สัตว์เลี้ยงใกล้ตัวผู้ซื่อสัตย์อย่างสุนัขนี่แหละดูจะมีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด
ยิ่งโลกออนไลน์ในโซเชียลมีเดียประเภทต่างๆ ได้กลายเป็นสถานที่แสดงตัวของผู้คนมากขึ้นเท่าไร น้องหมา ในฐานะเพื่อนใกล้ชิดผู้รู้ใจก็มีส่วนติดสอยห้อยตามเจ้านายไปโลดแล่นในโลกออนไลน์มากขึ้นเท่านั้น แฟชั่นอวดหมาผ่านออนไลน์ จึงมีให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ และมีส่วนกระตุ้นให้เกิดอาการอยากเป็นเจ้าของน้องหมาแสนน่ารักมาแต่งองค์ทรงเครื่องเหมือนคนอื่นเขาบ้าง
วรภัทร อัครกุบไกรเลิศ เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงไทย กล่าวว่า การมีครอบครัวเล็กลง คนเป็นโสดมากขึ้น หรือมีลูกยากขึ้น เป็นสาเหตุให้คนเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะสุนัขที่ปัจจุบันนิยมเลี้ยงพันธุ์ที่มีขนาดเล็กที่สามารถเลี้ยงได้ในบ้านทำให้ได้อยู่ใกล้ชิดและผูกพันจนเหมือนเป็นลูกคนหนึ่ง ขณะที่การสื่อสารในออนไลน์ก็มีส่วนช่วยกระตุ้นให้รู้สึกอยากเลี้ยงสัตว์เลี้ยงอยู่บ้าง
การเติบโตของจำนวนคนเลี้ยงสัตว์เลี้ยงทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเติบโตอย่างก้าวกระโดด วรภัทร บอกว่า เฉพาะที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ เลี้ยงตั้งแต่อาหารสัตว์ ไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เคยเติบโตในหลัก 100% เพราะเริ่มจากฐานตลาดเล็กๆ จน 5 ปีที่ผ่านมาเริ่มมีอัตราเติบโตอยู่ในระหว่าง 15-20% และจะเติบโตไปอย่างนี้อีก 10-20 ปี เพราะการเลี้ยงในยุคปัจจุบันคนเลี้ยงเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากขึ้น ตลาดจึงมีโอกาสขยายตัวอีกมาก โดยมูลค่าตลาดรวมของผลิตภัณฑ์ต่างๆ เหล่านี้จากข้อมูลของสมาคมระบุว่า ปัจจุบันอยู่ที่ ราวๆ 1.2 หมื่นล้านบาท
สินค้าหรูๆ คู่สุนัขตัวโปรด
สำหรับผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงในตลาดทั้งหมด 60% เป็นของสุนัข ขณะที่แมวมีสัดส่วน 20% ปลา 10% และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ อีก 10% แสดงให้ว่า สุนัข คือ สัตว์เลี้ยงที่บ๊อปปูลาร์ที่สุด และสินค้าต่างๆ สำหรับเจ้าหมาแสนรัก ก็มีพัฒนาการไปความต้องการและกำลังทรัพย์ของคนเลี้ยง เช่น บ้านหมามีบ้านหมาที่หรูหราถึงขั้นติดแอร์ให้อยู่อย่างเย็นสบาย ข้าวของเครื่องใช้ก็มีหลากหลายยิ่งขึ้นทั้งกระเป่า เป้ รถเข็น เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ตอบสนองทั้งความต้องการใช้ และความเท่ของเจ้าของและเจ้าหมาน้อย
เกศคณี สุยะนันทน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูเดิลตันส์ แอนด์ เฟรนด์ส (Doodletons & Friends) มองว่า พฤติกรรมของผู้เลี้ยงที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะการดูแลสัตว์เลี้ยงในฐานะสมาชิกครอบครัวที่ส่งผลให้เกิดความต้องการด้านปัจจัย 4 เช่นเดียวกับคน ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับตกแต่ง อาหาร ไปจนถึงเทรนด์เพื่อสุขภาพ ทำให้เจ้าของหันมาเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับสัตว์เลี้ยงของตัวเองมากขึ้น จึงเห็นช่องว่างในตลาดพรีเมียมสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง หรือสุนัข ที่ยังมีไม่มากนัก
นอกจากนี้ยังวางแผนขยายธุรกิจด้วยการเป็นที่ปรึกษาในการออกแบบสถานที่ (Pet Friendly) ให้กับธุรกิจทั้งคอนโด โรงแรม รีสอร์ท ฯลฯ ที่ต้องการทำพื้นที่พักผ่อนให้กับน้องหมา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของด้วย ที่มีแนวโน้มขยายตัวขึ้น
เช่นเดียวกับ พรรษพร หงศ์ลดารมภ์ ผู้จัดการธุรกิจ โรงแรมที่พัก เกาะสีชัง ปารีฮัท ที่มีแนวคิด ให้นำสัตว์เลี้ยงมาพักร่วมกับเจ้าของได้ โดยคิดค่าบริการพิเศษเพิ่มขึ้นที่อัตรา 500 บาทต่อตัวต่อคืน เนื่องจากปัจจุบันคนไทยนิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงและมีความผูกพันกันมากขึ้น ซึ่งก็เชื่อว่าหากต้องเดินทางไปพักผ่อนหรือท่องเที่ยวที่ไหน ก็อยากนำสัตว์เลี้ยงมาพร้อมกันด้วย ขณะที่ ตรีชวา รีสอร์ท อ.คลองวาฬ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก็เห็นโอกาสจาก แนวโน้มการเลี้ยงสัตว์ที่เพิ่มมากขึ้น จึงเตรียมที่พักสำหรับคนและสัตว์ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขร่วมกัน
โรงพยาบาลสัตว์แข่งดุเดือด
โรงพยาบาลสัตว์ถือว่ามีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น เพราะมีคู่แข่งจากต่างชาติ ที่ให้บริการ เพ็ท เลิฟเวอร์ หรือบริการเสริมความงามให้แก่สัตว์เลี้ยงมาเปิดบริการในไทย ทั้งจากประเทศ สิงคโปร์ และญี่ปุ่น เป็นต้น แต่ทั้งนี้ การมีบริการที่ครบวงจร และให้บริการอย่างใกล้ชิด รวมถึงมีสัตวแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะโรค ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการให้บริการโรงพยาบาลสัตว์
สัตวแพทย์บุญชู ทองเจริญพูลพร” กรรมการผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ กล่าวว่า ได้ขยายธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงให้ครบวงจร ไม่จำกัดเฉพาะด้านรักษาโรคให้แก่สัตว์ เพราะได้ให้บริการทั้งด้านการเสริมความงาม (เพ็ท แคร์) การมีสินค้าเกี่ยวกับสัตว์แบรนด์ ดร.ชอยส์ การมีบริการ เพ็ท แท็กซี่ การเทรนนิ่ง และทำพิธีเผาให้แก่สัตว์เลี้ยงที่เสียชีวิต เพื่อเสริมจุดแข็งให้มากที่สุด
ขณะที่แนวโน้มสัตว์เลี้ยงถือว่ามีโรคเพิ่มขึ้น เพราะเฉลี่ยแล้วในแต่ละวันจะมีสัตว์เลี้ยงเข้ามารักษา ประมาณ 250-300 ตัวต่อวัน เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อน รวมถึงบริการด้านเพ็ท แคร์ ก็มีรายได้เพิ่มขึ้น 30% เช่นกัน เพราะคนไทยสนใจดูแลสัตว์เลี้ยง และให้ความสำคัญเสริมสวยมากขึ้น
หมอบุญชูทิ้งท้ายว่า การที่จะทำให้สัตว์เลี้ยงไม่มีการเจ็บป่วย และต้องเข้ามารักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น ต้องมีการดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างใกล้ชิด 7 ด้านคือ ได้แก่ 1.ป้องกันและกำจัดเห็บหมัด 2.ป้องกันพยาธิหนอนหัวใจ 3. อาหารที่เหมาะสม 4. ฉีดวัคซีนตรวจภูมิคุ้มกันและสุขภาพ 5.แปรงฟันและดูแลช่องปาก 6.อาบน้ำ เช็คหู ตัดเล็บ และบีบต่อม และ 7.ใส่ใจพฤติกรรม เป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้สัตว์เลี้ยงไม่เจ็บ ไม่ป่วย และอยู่เป็นเพื่อนกับคนเลี้ยงไปได้นานแสนนาน
ที่สังสรรค์ประสาหมาๆ
มิอาจไม่สะดุ้ง เมื่อมีผู้มาเล่าถึงไลฟ์สไตล์สุดชิกของหมาเมืองกรุงว่า เดี๋ยวนี้วันหยุดวันไม่หยุด เหล่าน้องหมาก็ได้เที่ยวท่องล่องลอยในสถานประมาณต่าง ๆ ซึ่งเปิดกว้างมากขึ้นสำหรับสมาชิก 4 ขา วันนี้ขออัพเดตถึงสถานที่ที่คู่เลิฟตะลอนทัวร์ สามารถพากันไปได้ทุกที่ที่ไหนบ้าง
เดี๋ยวนี้ไปได้ทุกย่าน ร้านที่เป็นแหล่งฮอตฮิต ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น...
1.เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์
ถ้าบ้านอยู่ใกล้เจริญกรุง ก็ต้องพาน้องหมามาโครงการไลฟ์สไตล์ริมน้ำที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย น้องหมาจะสนุกสนานกับลานกิจกรรมกลางแจ้งที่กว้างขวางถึง 2,000 ตารางเมตร สามารถพาน้องหมามาเดินชิลล์ ๆ ณ ทางเดินริมน้ำที่ยาวที่สุดของเมืองไทย กินลมชมวิว และกินอาหาร(หมา)ที่มีร้านโดยเฉพาะ สุดชื่นมื่นและคึกคักสุดช่วงแดดร่มลมตกไปแล้วหลัง 17.00 น. หมาแมวเดินเยอะ
2.เดอะ ไนน์
โครงการกึ่งโอเพน เดอะ ไนน์ มอลล์กลางเมืองที่ใหญ่ถึง 14 ไร่ บนถนนพระราม9 หลังคาที่ยกสูงและต้นไม้จำนวนมาก ช่วยให้อากาศเย็นสบายถ่ายเท โครงการอนุญาตให้พาน้องหมาไปเดินเล่นได้ เข้าร้านอาหารได้ (แต่ต้องนั่งในที่ทางที่ร้านจัดให้นะ) ส่วนใหญ่จะจัดโต๊ะพิเศษไว้ให้ด้านนอก (มีพัดลมให้) คึกคักตั้งแต่บ่ายแก่ ๆ ถึงเย็นย่ำ
3.โอโซโน่ พาร์ค
สวนสาธารณะ 5 ไร่ในซอยพร้อมพงษ์ ย่านสุขุมวิท เอาใจคนรักสุนัขด้วยโมเดลกึ่งบ้านกึ่งสวน ทั้งโซนส่วนตัว(เฉพาะเมมเบอร์) และโซนสาธารณะ (ฟรี) ถือเป็นสถานที่นัดพบคนกับหมา(แฮ่) ที่อยากพาน้องหมามาวิ่งเล่นได้แบบชิลชิล ประกอบด้วยร้านกาแฟสุดชิก ร้านอาหารหลายเชื้อชาติ หรืออยากจะช็อปปิ้ง ทำเล็บทำผม ล้างรถ เนิร์สเซอรี สถานฝากน้องแมวหมา
ที่สำคัญคือพาน้องเข้าได้ทุกหนแห่ง ตอนเย็น ๆ แดดร่มลมดีแล้ว โอโซโน่จะกลายเป็นสถานที่รวมตัวของน้องหมาทุกสายพันธุ์ ที่พร้อมใจกันออกมาวิ่งเล่นเผ่นกระโจน อดยิ้มไม่ได้เมื่อได้เห็นเสน่ห์ระหว่างมิตรภาพหมา ๆ ณ ที่แห่งนี้
4.ต้นซุง แอฟเวนิว
ต้นซุง แอฟเวนิวมีบรรยากาศร่มรื่น ที่รายล้อมด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ มีร้านบริการรับตัดขนสุนัขและอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงแสนรักมากมาย ที่นี่อนุญาตให้พาน้องหมาตัวน้อยตัวใหญ่มาเดินเล่นวิ่งเล่นออกกำลังกายด้วยกันได้ ตั้งอยู่บริเวณเลียบทางด่วนอาจณรงค์รามอินทรา ร้านอาหารพาสุนัขเข้าได้ ช่วงเย็น ๆ มักได้เห็นกิจกรรมประเภทโยนจานฟริสท์บี้อะไรงี้ คึกคักมาก
5.เควิลเลจ
พลาซาใหม่คนเมือง ตั้งอยู่ที่สุขุมวิท 26 ที่ดึงดูดคนรักสัตว์ ด้วยการอนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยง หมาแมวและอื่นใดเข้าไปใช้บริการสถานที่ได้ ไม่ว่าจะเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต กรูเม่ต์มาร์เก็ต ตึกเอ ตึกบี และระหว่างตึกที่หลายจุดสามารถพาน้องหมาชมชิลด์ โดยในวันหยุดหรือช่วงเทศกาล ก็มักจะมีกิจกรรมสนุก ๆ เพื่อเอาใจคนรักหมาโดยเฉพาะด้วย
6.ซัมเมอร์ ด็อก พูล น้องใหม่ล่าสุดสำหรับแกงค์คนรักหมาแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่สุขุมวิท 71 ที่ที่จะได้ยินเสียงกระโดดน้ำตู้ม ตู้ม ตู้ม ตลอดเวลา ไม่ใช่ใครอื่น ก็น้องหมาที่มักจะมาปาร์ตี้สระน้ำกันที่นี่อย่างสนุกสนาน บ้างออกกำลังกาย เดินบ้างวิ่งบ้างในบริเวณที่นี่มีสวนหย่อมของน้องหมาโดยเฉพาะ คาเฟ่และร้านอาหารน้องหมา ร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง แต่ส่วนใหญ่จะกระโดดน้ำและเล่นกันอยู่ในสระน้ำ (อ้อ!มีการ์ดข้างสระที่ทำหน้าที่เฝ้าสังเกตและระวังภัยน้องหมาจมน้ำด้วยล่ะ)
ซัมเมอร์ ด็อก พูล มีพื้นที่ 1 ไร่ในซอยปรีดี พนมยงค์ 42 ประกอบด้วย โรงแรมน้องหมา ร้านอาหาร สนามวิ่งเล่น และสระว่ายน้ำสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด 5 x 10 เมตร ลึก 1.4 เมตร โดยบริการหลักคือสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ข้าง ๆ สระเป็นสวนหย่อมขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่เพียงพอสำหรับการวิ่งและออกกำลังกาย เติมเต็มชีวิตหมาในเมืองอย่างน่าอิจฉา
ลลดา วีระคณาวุฒิ ผู้จัดการซัมเมอร์ ด็อก พูล เล่าว่า กรุงเทพฯมีพื้นที่ให้หมาน้อยมาก นี่คือปัญหาของคนเลี้ยงหมาทุกคน ไม่อยากให้หมาต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้าน แต่อยากให้หมาได้ผ่อนคลาย คนและสุนัขใช้ชีวิตด้วยกันนอกบ้านบ้าง ซัมเมอร์ด็อกพูลจึงเกิดขึ้น ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 600 ตัว ดูแลให้บริการอย่างเข้าใจ(ธรรมชาติของ)หมา
“จำนิสัย จำความชอบ ความไม่ชอบของหมาที่มาใช้บริการได้หมด รวมทั้งต้องมีความรู้เรื่องสายพันธุ์ หมาบางสายพันธุ์ไม่ถูกกัน เวลารับจองคิวสระ ต้องสับหลีกไม่ให้เจอกัน”พิมเล่า
นี่เป็นเหตุผลที่ซัมเมอร์ด็อกพูลเป็นระบบจอง ใครจะใช้บริการต้องจองก่อน เพื่อที่ว่าจะได้จัดให้บริการเป็นรอบ ๆ สำหรับหมาที่เข้ากันได้หรือพลังพอกัน นอกจากนี้ก็เพื่อไม่ให้กัดกัน เอ๊ย ไม่ให้แออัด ในสระมีของเล่นต่าง ๆ ส่วนใหญ่เป็นบอลหลากสี ความปลอดภัยเต็มร้อย เพราะมีพนักงานพี่เลี้ยงประจำสระ คอยคอยดูแลความปลอดภัยใกล้ชิด
“สระน้ำที่นี่ลึก 1.4 เมตร ถือว่าลึก เพราะต้องการให้หมาใหญ่ได้ว่ายน้ำด้วย ถือเป็นจุดแข็ง เพราะสระว่ายน้ำสุนัขทั่วไปจะตื้น มีบริการอาบน้ำเป่าขนแห้ง สุนัขกลับบ้านด้วยหน้าตาเนื้อตัวที่แห้งสะอาด มีความสุข”
ตบท้ายด้วย คมกฤช รัตนราช กรรมการผู้จัดการบริษัท โอโซโน่ เจ้าของโอโซโน่ พาร์ค ด็อคปาร์คแห่งแรก ๆ ย่านสุขุมวิท ดำเนินธุรกิจนี้มากว่า 7 ปี เป็น 7 ปีที่เจ้าตัวระบุว่า ไม่ประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือรอยยิ้มและความสุขของผู้มาเยือน
"เราภาคภูมิใจครับ ที่อย่างน้อยก็เป็นส่วนเล็ก ๆ ในการสร้างวินัยของคนเลี้ยงสุนัขให้เกิดขึ้น"
วินัยน้องหมาและจิตสำนึกของคนเลี้ยง คือ คำตอบสุดท้ายที่ยังต้องพัฒนาอีกเยอะ นี่คือจากใจคนทำธุรกิจสวนพักผ่อนสุนัข การดูแลต้องใกล้ชิด และบุคลากรที่เกี่ยวข้องก็ต้องทำด้วยใจรัก นี่แหละ...จึงจะเป็นด็อกปาร์กในฝันของเหล่าน้องหมาอย่างแท้จริง...โฮ่ง โฮ่ง
มารยาทเจ้าของหมา&หมา
ข้อปฏิบัติในการนำสุนัขออกมาเดินในที่สาธารณะ
1.สุนัขไม่มีอาการป่วย ไม่อยู่ในอาการติดสัด และควรได้รับการฉีดวัคซีนสม่ำเสมอ
2.สุนัขดุ เจ้าของไม่สามารถควบคุมได้ ไม่ควรพามา
3.เจ้าของต้องดูแลใกล้ชิด ไม่ให้รบกวนผู้อื่นนำไปด้วยทุกครั้งคือ สายจูง สายรัดอก
4.เมื่อสุนัขอึ-ฉี่เจ้าของต้องเร่งรุดไปทำความสะอาดให้เร็วที่สุด โดยใช้ถุงพลาสติกเก็บให้เกลี้ยงเกลา และมัดถุงเพื่อกันกลิ่น กรณีเป็นการขับถ่ายเบา ใช้ชามหรือขวดน้ำแบบพกพา เทตามลงในทันที (โดยมารยาทแล้วต้องราดให้ชุ่มชื้นเพียงพอ)