ศุภลักษณ์บุรินทร์ แม่-ลูก หัวใจศิลปิน

โดย....จะเรียม สำรวจ

การสื่อสารที่เปิดกว้างและยอมรับฟังความคิดเห็นที่หลากหลาย เป็นสิ่งจำเป็นในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะการบริหารธุรกิจ ยิ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวการสื่อสารก็ทวีความจำเป็น ที่สำคัญต้องมีความเข้าใจในกันและกัน

ศุภลักษณ์ ตัณฑาภิชาติ ประธานกรรมการ และบุรินทร์ เหมทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิธ แอนด์ คิน คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ คอนซัลแตนท์ นอกจากจะมีสถานะเป็นเจ้านายและลูกจ้างแล้ว อีกด้านหนึ่งก็อยู่ในฐานะแม่ลูก จากความสัมพันธ์ 2 สถานะ ส่งผลให้การดำเนินชีวิตของทั้งสองคนต้องมีศิลปะในการสื่อสาร เพื่อปรับตัวเข้าหากันใน 2 ช่วงเวลา 2 สถานะ

 

‘เอก’ เขามีความเป็นศิลปินอยู่ในตัว

ศุภลักษณ์ พูดถึง เอก (บุรินทร์) ลูกชาย ว่า เป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง ดูแลตัวเองได้ดี โดยที่เราไม่ต้องไปตำหนิติเตียนอะไรเลย ตั้งแต่เล็กๆ แล้ว อย่างเรื่องเรียนก็อยู่ในเกณฑ์ดี สามารถเรียนจนจบได้รับปริญญาโท 2 ใบจากอังกฤษและอเมริกา โดยที่ระหว่างเรียน เขายังขวนขวายหางานพิเศษทำเสริมประสบการณ์ เช่น แปลซับไตเติลหนัง และจัดรายการวิทยุ

หลังจากปล่อยให้เอกได้ไปค้นหาตัวเองและทำในสิ่งที่อยากทำมาพักใหญ่ ก็ถึงเวลาที่ศุภลักษณ์ต้องวางมือให้ทายาทเจเนอเรชั่นถัดไปได้ก้าวขึ้นมาสานงานธุรกิจที่ปรึกษาและงานประชาสัมพันธ์ต่อ และเอกก็เป็นผู้ที่ได้รับโอกาสดังกล่าวในฐานนะลูกชายคนโต

“พี่เห็นว่า เอกสมควรแก่เวลาที่จะมาดูแลธุรกิจของครอบครัว ก็เลยคุยกับเขาว่าสนใจจะลองทำไหม ถ้าไม่ชอบพี่ก็จะได้หาคนอื่นมารับผิดชอบ แต่ก็ไม่ได้ไปกดดันเขา เพราะตอนนั้นเอกก็มีตำแหน่งงานข้างนอกอยู่แล้ว แต่การจะขึ้นมาเป็นเอ็มดีของบริษัทก็ไม่ง่ายเลย เขาต้องพิสูจน์ผลงานของตนเองให้เป็นที่ยอมรับของพี่ๆ ให้ได้”

ศุภลักษณ์ เล่าต่อว่า ช่วงแรกเอกเริ่มต้นทำงานโดยไม่มีตำแหน่ง ต้องทำทุกอย่างในบริษัท เพื่อปูทางให้เขาเรียนรู้และเข้าใจอย่างถึงแก่นในทุกขั้นตอนการผลิต โดยเฉพาะการเรียนรู้ที่จะทำให้ตนเองเป็นที่ยอมรับของทีม ซึ่งเขาก็ทำได้ดี พิสูจน์ตัวเองได้ มีความรับผิดชอบ จนไต่เต้าขึ้นมาเป็นกรรมการบริษัทในปัจจุบัน

นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้เขาบริหารงานเต็มที่โดยไม่แทรกแซง มีความคิดเป็นของตัวเอง จะเสริมในสิ่งที่เขามีความเข้าใจไม่เพียงพอเท่านั้น แต่บางครั้งความเป็นแม่ลูกกันก็ทำให้มีข้อจำกัดอยู่บ้าง คำแนะนำที่ให้ในบางครั้งก็อาจทำให้เขาเข้าใจว่ากำลังถูกชี้นำ ปิดกั้นทางความคิด เป็นการออกคำสั่ง ซึ่งอันนี้เราก็ต้องระวัง

“เอกยังมีความเป็นศิลปิน เขาชอบถ่ายรูปคงเห็นพี่พกกล้องถ่ายรูปตลอดตอนเป็นนักข่าว เอกคงซึมซับมาในช่วงนั้น แต่เรื่องนี้พี่จะไม่ให้คำแนะนำเขา เพราะเราต้องยอมรับมุมมองการถ่ายของเขา มันคืองาน และศิลปะเป็นที่สอนกันไม่ได้ ไม่ควรไปชี้นำ ควรปล่อยให้เขามีอิสระในการคิดจินตนาการ ซึ่งพอไปถึงสถานที่ถ่ายรูปแล้ว ก็ต่างคนต่างไปในมุมของตัวเอง เสร็จแล้วก็เอามาอวดกัน แต่ถ้าเป็นกล้องรุ่นใหม่ หรือเทคนิคการถ่ายภาพใหม่พี่ต้องถามเขา

 

‘แม่’ คือ ไอดอลทั้งงานและชีวิต

ในสายตาของ บุรินทร์ แม่มีมุมที่น่ารักทุกมุม เป็นคนเก่ง เป็นไอดอลในทุกเรื่องทั้งการใช้ชีวิตและการทำงานสำหรับใครหลายๆ คน รวมทั้งพี่ เพราะเป็นผู้หญิงเก่งทำงานตลอด เรียกได้ว่าชีวิตมีแต่การทำงาน ตั้งแต่ช่างภาพและผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดลินิวส์จนมาตั้งบริษัท คิธ แอนด์ คินฯ ซึ่งการตั้งบริษัทก็มาจากเหตุผลเดียว คือ คุณแม่เป็นคนคิดถึงคนอื่นเยอะมาก ทำงานเพื่อคนอื่นมาตลอด

สิ่งที่ได้สัมผัสทำให้บุรินทร์ได้ซึมซับพร้อมกับยึดถือและปฏิบัติมาโดยตลอดตั้งแต่เด็กๆ จนปัจจุบันได้นำมาปรับใช้กับสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันและการทำงาน โดยยึดหลักคำสอนของแม่ที่ว่า “มีแค่ไหน ให้ใช้เท่านั้น อย่าทำอะไรเกินตัวใน 2 สิ่ง คือ เกินความสามารถรับผิดชอบของเรา และเกินเลยไปสู่สิ่งที่ผิด อะไรที่รู้ว่าผิดอย่าไปทำ”

คุณสมบัติ 2 ข้อนี้ น่าจะเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้คุณแม่เป็นที่รักของนักข่าวอาวุโส เพราะไม่เคยเลือกรับผลประโยชน์ แต่ยึดบรรทัดฐานความถูกต้องเป็นหลัก ด้วยเหตุนี้ ผมจึงยึด 2 คุณสมบัติของคุณแม่มาใช้กับการทำงาน ซึ่งก็ได้ผลดีเลยทีเดียว

บุรินทร์ เล่าต่อว่า ช่วงแรกของการรับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ก็มีมุมที่เอาแต่ใจเหมือนกัน เพราะเราเป็นเด็กแนวคิดก็ฟุ้ง คิดว่าทำไมไม่ทำแบบนั้น แบบนี้ ดังนั้น จึงต้องอาศัยประสบการณ์ของคุณแม่มาจูนกันกับประสบการณ์ของเรา ด้วยการรับฟังกันและกัน ฟังเสียงผู้ใหญ่ในทีม โดยส่วนใหญ่คุณแม่จะเข้าข้างเหตุผลของคนอื่น ซึ่งผมก็ไม่เคยคิดน้อยใจคุณแม่ เพราะสุดท้ายแล้วเราต้องหาแนวคิดที่ดีที่สุด มีประโยชน์ที่สุดต่อองค์กร

“คุณแม่มีความเป็นศิลปินสูงมาก เมื่อมีเวลาว่างมักจะชวนลูกๆ ไปถ่ายรูปตามสถานที่ต่างๆ แต่คุณแม่ก็ไม่เคยสอนเทคนิคการถ่ายภาพให้ เพราะคุณแม่มองว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องของศิลปะมันสอนกันไม่ได้ ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน”

บุรินทร์ เล่าปิดท้ายว่า คุณแม่เป็นคนที่นำศิลปะเข้ามาผสานกับการใช้ชีวิตในแทบจะทุกขั้นตอน ทั้งการบริหารงาน การออกแบบตกแต่งบ้าน เพราะคุณแม่มองว่าในฐานะบริษัทผู้ให้คำปรึกษาการบริหารสื่อสารองค์กร เราต้องมีศิลปะในการนำเสนอในแบบที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อผู้รับมากที่สุด