posttoday

เจ้าที่

18 พฤษภาคม 2553

...ปู โลกเบี้ยว

อย่าเล่นกับความเชื่อของคนเลย สงสารเขา จิ้งจกทักคนเรายังเชื่อเลย แล้วนี่ถ้ามีคนมาทักกันจะจะ เห็นๆ เป็นใครก็ต้องคิดติดอยู่ในสมองในใจไปตลอดนั่นแหละ

ปูกำลังจะเล่าถึงพวกไร้มารยาททางสังคมที่ชอบทำตัวอวดเก่งว่าข้าแน่ คอยชี้แนะ โอ้! ไม่ ไม่ ไม่เรียกว่าชี้แนะ เรียกว่าบังคับบงการจะดีกว่า ปูล่ะเกลียดนักเชียว ก็พวกที่ชอบทำตัวเป็นเจ้าแม่เจ้าพ่อเห็นนั่นเห็นนี่น่ะซิ แล้วชอบทักให้ชาวบ้านเขาหวั่นไหว

มีน้องที่รู้จักคนหนึ่งโทร.มาปรึกษากับปูว่าบ้านที่เขาอยู่น่ะมีเจ้าที่แรงมั้ย พอปูถามบ้านเลขที่ และวันเดือนปีเกิดของน้องเขาแล้วก็หัวเราะใหญ่บอก ถามทำไมเนี่ยบ้านนี้ดีนี่ต้นไม้ก็เยอะดีร่มรื่นสงบสุขไม่ค่อยมีใครเข้ามาวุ่นวายด้วย ถ้าถามพี่ พี่ชอบนะน่าอยู่จะตายไป น้องเขาก็บอกว่าบังเอิญไปรู้จักผู้หญิงคนหนึ่งเป็นพวกคนทรงเจ้านี่แหละ ขอมาดูบ้าน พอเข้ามาในบ้านก็ทักเลยว่าบ้านนี้เจ้าที่แรงนะ ใครก็อยู่ไม่ได้ หนูกลัวมากเลยพี่ปูหนูจะทำยังไงดีล่ะ

ปูก็ถามไปว่า แล้วหนูเชื่อเขาเหรอ” “เชื่อซิพี่ ก็เนี่ยแม่ก็ไม่อยู่ ย้ายกลับไปบ้านนอกแล้ว น้องสาวทะเลาะกับแฟนก็เลยออกไปอยู่หอกะเพื่อน เหลือหนูอยู่คนเดียวนี่แหละ หนูไม่อยากอยู่เลยหนูจะไปซื้อคอนโดอยู่ดีมั้ยพี่” “แล้วหนูอยู่บ้านนี้มากี่ปีแล้วล่ะ” “ก็ตั้งแต่หนูเกิดน่ะพี่ปูนี้ปรี๊ดเลย ในใจคิดนะว่า เป็นใครกัน มามีอำนาจอะไรมาบงการลิขิตชีวิตชาวบ้านแบบนี้น่ะ พออารมณ์เย็นลงเลยพูดกับน้องเขาว่า ถ้าเจ้าที่แรงจริงทำไมไม่ไล่แกกับครอบครัวไปตั้งแต่ยี่สิบกว่าปีที่แล้วอ่ะ ทำไมพึ่งจะมาไล่ล่ะ

น้องเขาก็คอตกเลยบอกว่าทำไงล่ะไปจองคอนโดไว้แล้วด้วย ปูเลยปลอบไปว่าไม่เป็นไรหรอกถือซะว่ามันเป็นสมบัติ เพราะยังไงหนูก็เก็บเงินไม่ค่อยอยู่อยู่แล้วอ่ะ ถ้ามีเงินก็ใช้สุรุ่ยสุร่ายซะเปล่าๆ และอย่าคิดมากที่แม่ไปอยู่ต่างจังหวัดก็ดีต่อสุขภาพแม่ แล้วไม่ต้องมาผจญกับฝุ่นควันในกรุงเทพฯ ส่วนน้องคงไม่อยากให้แฟนมารังควานก็เลยย้ายไปอยู่กับเพื่อนเดี๋ยวพอได้แฟนใหม่ก็กลับมาอยู่กับหนูเองแหละ อยู่บ้านนี้ต่อไปเถอะอย่าไปคิดมาก

อีกราย คุณพี่คนนี้ไปดูหมอ ดูกะเพื่อนซี้หมอดูก็ทักเรื่องของเพื่อนซึ่งถูกทุกอย่างเลย และดันมาทักคุณพี่เขาว่า คุณมีวิญญาณตามอยู่นะ โอ้โห! พูดถึงวิญญาณใครมั่งล่ะที่จะไม่หวาด แต่ถ้าจะให้ชัดๆ ต้องพาคุณหมอดูเนี่ยไปดูที่บ้าน นั้นปะไรล่ะ ไม่ใช่ไม่เชื่อดันพาหมอดูเข้าบ้านซะด้วย หมอดูก็เดินดูทั่วบ้านเลยอ่ะ พอเข้าห้องนอนก็ทักว่าห้องนอนเนี่ยเหมือนโลงจำปาเลย โอ้โฮ! ยังไม่พอ ดันทักว่าวิญญาณที่ตามอยู่นะเป็นผู้ชายชื่อ... นามสกุล... ได้ฟังดังนั้นลมแทบจับตกใจกลัวทั้งๆ ที่เป็นบ้านตัวเองแท้ๆ เชียว

พอหมอดูกลับไป ถึงกับนอนไม่ได้ซิ สามีก็ทำงานกะดึกกว่าจะกลับบ้านก็เกือบสว่าง ตัวเองนอนไม่หลับเพราะหวาดระแวงตลอดเวลาไปทำงานนี่ตาโบ๋เชียว จนเพื่อนพี่น้องถามถึงได้เล่าให้ฟัง พอปูไปกินข้าวที่บ้านพี่เขา พี่เขาดีใจใหญ่บอกภาวนาในใจขอให้ปูมา เพราะอยากจะให้ดูบ้านและช่วยแนะนำหน่อย นี่ก็ไปทำบุญให้วิญญาณคุณผู้ชายนั้นแล้วนะ แต่ก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี

อีกแล้วกะคนเลวๆ ปากพล่อยๆ ที่พวกเขาหวังผลประโยชน์จากเจ้าของบ้านอ่ะดิ?? ถึงได้ชอบพูดให้ไม่สบายใจ ตัวพูดอยู่ไม่กี่ประโยคแล้วก็ไป ปล่อยให้เจ้าของบ้านที่ต้องอยู่บ้านหลังนั้นๆ ไปตลอดชีวิตคิดมากเพราะมันติดอยู่ในใจในความคิดตลอดเวลา พอปูได้เดินดูบ้านถึงได้ อ้อ! ห้องนอนพี่เขาใช้โทนสีน้ำตาลพอเข้าไปจะดูทึมๆ แต่ถูกต้องแล้วถ้าห้องนอนสีสดใสสว่างเกินจะทำให้นอนไม่หลับ ควรเป็นสีทึมๆ เหมือนถ้ำจะทำให้สงบนอนหลับได้ง่ายกว่า แล้ววิญญาณใครน่ะซึ่งไม่ได้เป็นญาติโกโหติกาอะไรกับเจ้าของบ้านเลย เจ้าของเดิมก็ไม่ใช่เพราะเป็นบ้านจัดสรรที่พี่สาวของเจ้าของบ้านซื้อมานานแล้วและเจ้าของบ้านปัจจุบันก็เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้สักสามปี ตกแต่งใหม่ทันสมัยมาก นอนมาตลอดสามปีไม่เคยมีเรื่องอะไร จู่ๆ หมอดูบ้าที่ไหนก็ไม่รู้เดินเข้ามาทัก ทักแล้วก็จากไปทิ้งความกลัวให้เป็นปริศนาซะยังงั้น

แต่เจ้าของบ้านก็ไปทำบุญตามที่ถูกทักอ่ะนะ ก็ดีเพราะปูก็บอกไปว่าการที่ได้ทำบุญนั้น บุญจะเป็นเกราะป้องกันความกลัวของพี่ยังไงละคะ พี่เขาก็ว่าสบายใจขึ้นนะ แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงแค่คำปลอบใจจากปูไง เพราะไม่ว่าจะเป็นคุณน้องเจ้าที่แรงหรือคุณพี่ห้องโลงจำปา พวกเขาต้องอยู่บ้านหลังนั้นไปอีกนาน ยังไงซะเขาก็ยังคงหวาดระแวงเพราะคำพูดพล่อยๆ ของคนบางคนอยู่ดีแหละ