posttoday

เมย์-รัชนก...ทำไมแชมป์แล้วชอร์ต!

04 พฤษภาคม 2557

“เกิดอะไรขึ้นกับน้องเมย์” นี่คือคำถามที่เจอบ่อยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดย...นูโน่

“เกิดอะไรขึ้นกับน้องเมย์”

นี่คือคำถามที่เจอบ่อยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกเหนือจากประเด็นลุ้นแชมป์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่เป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะ วีก”

เพราะนับตั้งแต่สร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมป์โลกคนแรกของไทย และแชมป์โลกอายุน้อยที่สุด เมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันมือ 1 ของไทย ยังไม่ได้สัมผัสแชมป์เลย

ผลงานดีที่สุดในรอบ 8 เดือนที่ผ่านมา คือ การเข้าชิงชนะเลิศศึกโคเรีย โอเพ่น เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ก่อนพ่ายต่อ หวังยี่ฮาน มือ 3 ของโลกจากจีนในขณะนั้น 2 เกมรวด

เมย์-รัชนก...ทำไมแชมป์แล้วชอร์ต!

 

ขณะที่ล่าสุดพลิกล็อกพ่าย ทาคาฮาชิ ซากายะ มือรองจากญี่ปุ่น จอดแค่รอบสอง รายการแบดมินตัน เอเชีย แชมเปี้ยนชิพ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน หลังได้บายในรอบแรก

มีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้นกับน้องเมย์ ทั้งที่ถูกจับตามองว่าจะเป็นอนาคตมือ 1 โลก และคู่ต่อกรชั้นดีของนักแบดแดนมังกร

จิตใจ...เรื่องใหญ่ที่ยังต้องใช้เวลา

“การคว้าแชมป์ว่ายากแล้ว การป้องกันแชมป์ยากยิ่งกว่า”

ประโยคนี้น่าจะเข้ากับเมย์ ได้เป็นอย่างดีในตอนนี้ เพราะหลังจากประสบความสำเร็จในฐานะแชมป์โลกแล้ว สิ่งหนึ่งที่เพิ่มเข้ามานอกเหนือจากชื่อเสียงดังก้องโลกอย่างชัดเจน นั่นก็คือ ความคาดหวัง และความกลัว

เมย์-รัชนก...ทำไมแชมป์แล้วชอร์ต!

 

คาดหวังว่าต้องชนะ และกลัวจะแพ้!!

“ทุกคนพยายามเอาชนะฉัน และฉันก็กดดันตัวเอง และกลัวจะแพ้” อดีตแชมป์เยาวชนโลก 3 สมัย ยอมรับในศึกออล อิงแลนด์ โอเพ่น เดือน มี.ค.ที่ผ่านมา

จากที่เคยตีกับใครก็ได้ ไม่หวั่นเกรง ไม่ว่าจะเป็นมือเหนือกว่าหรือรองบ่อน เพราะไม่มีอะไรจะเสีย ก็กลายเป็นคนคิดมาก คิดเยอะ ในการเล่น จนเป็นอุปสรรคในการเล่น

เรื่องนี้ยังได้รับการยืนยันจาก “มุกกี้” คณิศรา เงินศรีสุข ผู้บริหารโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด และผู้จัดการส่วนตัวของรัชนก

“เรื่องใจสำคัญเลย เมย์คิดมากขึ้นเยอะ กลัวจะแพ้ เพราะเป็นแชมป์โลก หลายๆ แมตช์ไม่ค่อยตีแบบสบายใจ ชอบคิดมาก คิดเยอะ ต่างกับสมัยก่อนที่เล่นกับใครก็ได้ เล่นไปตามเกม” คณิศรา กล่าว

นี่คือปัญหาหลักที่ทีมโค้ชก็เห็นตรงกัน ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะวัยที่ยังต้องการเวลาในการเรียนรู้ที่จะจัดการกับความกดดัน และรับมือกับความคาดหวังที่แบกไว้เต็มบ่า ในฐานะความหวังของประเทศ

“ตอนเริ่มออกแข่งระดับนานาชาติใหม่ ก็มีปัญหาผิดหวังกับการแพ้บ่อย เพราะก่อนหน้านั้นแข่งในประเทศชนะตลอด หรือแม้แต่ตอนสมัยแชมป์เยาวชนโลก ก็กลัวแพ้จนไม่พูดเลยตลอดทัวร์นาเมนต์ จนกระทั่งแข่งเสร็จคว้าแชมป์ก็พูดเป็นต่อยหอยเลย เราก็พยายามบอกไม่ให้คิดมาก แต่ความเป็นเด็กก็ยังคิดมาก และสนใจกับเรื่องที่เข้ามา ก็คงต้องแพ้ให้ชิน เพื่อปลดล็อกความกดดัน และเรียนรู้วัฏจักรของการแข่งขัน” ผู้จัดการส่วนตัว กล่าว

เรียนรู้ที่จะสลัดคำว่า “กลัว” ออกไป

ความฟิต...อุปสรรคบั่นทอนฟอร์ม

ไม่ว่ากีฬาชนิดใดในโลกนี้ หากไม่มีความฟิตเพียงพอทั้งร่างกายและจิตใจ ก็ยากจะประสบความสำเร็จได้ โดยเฉพาะการเจอกับคู่แข่งระดับท็อปโลก

อย่างที่ทราบกันว่า หลังจากแจ้งเกิดในเวทีโลก เมย์มีปัญหาบาดเจ็บเรื้อรังรบกวนอยู่เรื่อยมา แม้กระทั่งก่อนคว้าแชมป์โลกปีที่แล้ว แต่ช่วงนั้นเธอโชคดีไร้อาการบาดเจ็บและมีเวลาฝึกซ้อมเต็มที่ตลอด 1 เดือนเต็มก่อนเดินทางไปแข่งขันชิงแชมป์โลก

เมย์-รัชนก...ทำไมแชมป์แล้วชอร์ต!

 

ตอนนั้นแม้พละกำลังยังเป็นรอง ลีซือรุ่น มือ 1 โลก แต่ความพร้อมของร่างกายที่ได้ฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องก็มีความฟิตเพียงพอที่จะยืน 3 เกมได้ ก็สามารถต่อกรกับสาวจีนได้

ทว่า หลังคว้าแชมป์โลกกลับมา รัชนกก็มีปัญหาบาดเจ็บหลัง ต้องถอนตัวจากการแข่งขัน 2 รายการติดในเดือน ก.ย. ทำให้ฝึกซ้อมได้ไม่เต็มที่ เมื่อหายเจ็บกลับมา ย่อมส่งผลต่อฟอร์มการเล่นที่ยังไม่เข้าที่เข้าทาง

เช่นเดียวกับล่าสุด ที่ได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อน่องจากศึกออล อิงแลนด์ เดือน มี.ค. ซึ่งโดนลีถอนแค้น ในรอบรองชนะเลิศ เพราะไม่ฟิตเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์

“ตอนนั้นฝืนเจ็บตี คือ ถ้าเจอมือรองอาจจะพอสู้ได้ แต่การเจอกับมือท็อป 3 ของจีน ต้องพร้อมสุดๆ ต้องพร้อมทุกด้าน ทั้งร่างกายและจิตใจ แต่วันนั้นร่างกาย เมย์ไม่พร้อม ถ้าพร้อมอาจจะสูสีกว่านี้” มุกกี้ กล่าว

หลังจากกลับมา ก็ต้องมารักษาอาการบาดเจ็บน่อง และมีเวลาได้ลงซ้อมเต็มๆ ไม่ถึงสัปดาห์ ก่อนคืนสนามลงแข่งสิงคโปร์ โอเพ่น และต่อด้วยแบดมินตัน เอเชีย แชมเปี้ยนชิพ ที่ตกรอบอย่างรวดเร็ว

แม้จะหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่า การหยุดซ้อมไป 3 สัปดาห์ ย่อมส่งผลต่อเกมการเล่นแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพละกำลัง ความคล่องตัว หรือรูปแบบการเล่น ดังนั้น เมื่อต้องสู้กันถึง 3 เกม เมย์จะมีปัญหาเรื่องหมดแรง และทำให้ขาดความแน่นอน

เมย์-รัชนก...ทำไมแชมป์แล้วชอร์ต!

 

“ถ้าพูดถึงเรื่องพละกำลัง ไม่มีชาติไหนฟิตเท่าจีนอีกแล้ว เพราะเขาเป็นประเทศหนาว มีสถานที่ฝึกซ้อมในสภาพอากาศหนาว ที่ทำให้ร่างกายแข็งแรงกว่า จึงยากที่จะปีนไปเท่าเขา แต่เรามีสมองและฝีมือ สำคัญต้องฟิตให้เพียงพอที่จะยืน 3 เกมให้ได้”

ชื่อเสียง...มีดีก็มีเสีย

ความสำเร็จมักจะมาคู่กับชื่อเสียงเสมอ และเมื่อมีชื่อเสียงก็ย่อมได้รับความสนใจ ไม่ว่าจะทำอะไร อยู่ที่ไหน ก็มีคนอยากรู้ อยากเห็น จนบางครั้งนำมาสู่ความไม่สะดวกในชีวิตและอาชีพ

แม้ว่าทางโรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอด จะมีนโยบายชัดเจนไม่รับงานอีเวนต์ หรืออัดรายการนอกสถานที่ของเมย์ แต่คณิศราก็ยอมรับว่า หลายครั้งก็ต้องปฏิเสธสื่อ เพราะกินเวลาเกินที่กำหนดไว้ ซึ่งอาจจะไม่กระทบเวลาซ้อม แต่กระทบเวลาพักผ่อน ขณะที่เจ้าตัวก็รู้สึกอึดอัดบ้าง

“เขาเป็นนักกีฬาไม่ใช่ดารา บางครั้งก็ไม่อยากตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว หรือเป็นคำถามที่ฟังแล้วรู้สึกไม่ดี เข้าใจว่าทุกคนอยากได้เมย์ แต่ทั้งเจ้าตัวและโค้ชก็บอกว่ามันเยอะเกินไป” ผู้จัดการส่วนตัว กล่าว

ส่วนเรื่องความรักที่เปิดตัวมี รังสิยา นิสัยสม เป็นเพื่อนสนิทนั้น คณิศรา ยืนยัน ไม่ใช่ปัญหา เพราะรัชนกยังมีสมาธิและโฟกัสกับแบดมินตันเป็นสำคัญ และฝึกซ้อมหนักเหมือนเดิมหากไม่บาดเจ็บ แม้อาจจะขยันวิ่งผ่านมือถือใน “คุกกี้รัน” อยู่บ้างก็ตาม

ขณะที่ในวงการขนไก่นาทีนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก รัชนก อินทนนท์ กันแล้ว เพราะฉะนั้น เรื่องการศึกษาฟอร์มการเล่นมาอย่างดีคงไม่ต้องพูดถึง

“ตอนนี้ต่างชาติดูวิดีโอของเมย์ทะลุปรุโปร่งหมดแล้ว เราเลยต้องมีการปรับเปลี่ยนวิธีการเล่น ซ้อมใหม่ เห็นได้จากการเจอกับจีน เขาจะใช้วิธีการเล่นแบบไม่รีบร้อน ตียื้อเพราะเหนือกว่าเรื่องพละกำลัง และให้เมย์ใจร้อน ตีเสียเอง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต้องปรับ”

เพราะเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วว่า รัชนกเป็นนักแบดจอมเทคนิค แต่หลายต่อหลายครั้งการเล่นลูกเทพ หรือตีเสี่ยง กลับเป็นดาบสองคมทำให้เสียเอง และเมื่อยิ่งยื้อก็มีจุดอ่อนเรื่องพละกำลัง ก็ยิ่งทำให้ขาดความนิ่งและแน่นอน

นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เมย์ตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ตลอดเมื่อโคจรมาเจอกับคู่แข่งมือท็อป 3 ของจีน อย่าง ลีซือรุ่ย, หวังซีเซียน และ หวังยี่ฮาน

ไม่มีใคร “ชนะ” โดยไม่รู้จักคำว่า “แพ้” ฉันใด การรับมือกับความกดดันก็ต้องให้เวลาเป็นครูของรัชนกฉันนั้น สำคัญคือ แฟนกีฬาต้องเข้าใจและเอาใจช่วยไปพร้อมๆ กัน

สู้ต่อไปนะ เมย์ รัชนก!!