รู้จักแบบพิมพ์เขียวของชีวิตคุณ...

04 พฤษภาคม 2557

วันนี้เราจะมาคุยกันถึงเทคนิคที่ทำให้เราเข้าใจที่มาแห่งความสุขและความทุกข์ของเรากันครับ

โดย...นพดล ตังวัชรินทร์ SUCCESS Coach MAX Potentials

วันนี้เราจะมาคุยกันถึงเทคนิคที่ทำให้เราเข้าใจที่มาแห่งความสุขและความทุกข์ของเรากันครับ รวมทั้งมาคุยกันว่าจะทำยังไงถึงจะทำให้ชีวิตพวกเรามีความสุขกันได้มากขึ้นอย่างง่ายๆ

คุณเคยเห็นแบบพิมพ์เขียวที่พวกช่างเขาใช้เวลาจะสร้างตึกหรือสร้างบ้านไหมครับ

หน้าที่ของเจ้าแบบพิมพ์เขียวนี่ก็ตรงไปตรงมาเลยครับ คือ เป็นต้นแบบของตึกหรือบ้านที่เรากำลังจะสร้าง และวิศวกรก็จะมีหน้าที่ควบคุมช่างก่อสร้างให้สร้างออกมาให้ได้ตามแบบที่เขียนไว้ในพิมพ์เขียว ถ้าช่างทำออกมาได้ตามพิมพ์เขียวทุกคน ตั้งแต่คนออกแบบ คนก่อสร้าง และวิศวกรคุมงานก็จะมีความสุขกัน แต่ถ้างานก่อสร้างออกมาผิดแบบเมื่อไรละก็ งานเข้าทันที

แอนโทนี รอบบินส์ ซึ่งเป็นโค้ชผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาชีวิตคนให้มีความสุขและประสบความสำเร็จบอกเอาไว้ว่า มนุษย์เราทุกคนล้วนแล้วแต่มีพิมพ์เขียวของชีวิตอยู่เหมือนกันและมีหลายชุดด้วย เช่น พิมพ์เขียวสำหรับคำว่า “ความสำเร็จในชีวิต” พิมพ์เขียวสำหรับคำว่า “ความมั่นคง” พิมพ์เขียวสำหรับคำว่า “ความรักที่แท้จริง” และอื่นๆ อีกมากมาย

สมมติว่าเรามาลองดูพิมพ์เขียวของคำว่า “ความสำเร็จในชีวิต” คนคนหนึ่งอาจจะมีแบบพิมพ์เขียวที่บอกไว้ว่า “ฉันจะรู้สึกว่าฉันประสบความสำเร็จก็ต่อเมื่อ “ซึ่งเจ้าจุดๆๆๆนั้นก็หมายถึงเงื่อนไขหรือสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นก่อนที่คนคนนี้จะถือว่าเขาประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว”

หรือพิมพ์เขียวสำหรับคำว่า “ความรักที่แท้จริง” ของคนคนหนึ่งก็จะหมายถึงเงื่อนไขของสิ่งที่เขาต้องการจะได้มี ได้เห็น ได้ยิน หรือได้สัมผัส ซึ่งหากมีได้ครบตามเงื่อนไขที่เจ้าตัวได้กำหนดไว้ในพิมพ์เขียว เขาก็จะรู้สึกว่า “ช่ายเลย ตอนนี้ล่ะที่ฉันได้มีและได้พบกับความรักที่แท้จริงแล้ว”

ถ้าแปลกันแบบภาษาง่ายๆ เจ้าพิมพ์เขียวนี่ก็หมายถึง “ความคาดหวัง” ของเราแต่ละคนที่มีต่อด้านต่างๆ ในชีวิตของเรานั่นเอง ซึ่งแต่ละคนก็จะมีพิมพ์เขียวที่แตกต่างกันไปและเราแต่ละคนก็จะทำการเปรียบเทียบหรือประเมินอยู่ตลอดเวลาสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ ในชีวิตเรา (เสมือนกับการตรวจงาน ที่ช่างก่อสร้างได้ดำเนินการสร้างบ้านของเรา) ว่ามันเป็นไปตาม “พิมพ์เขียว” หรือ “ความคาดหวัง” ของเราหรือไม่

หากสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปตามพิมพ์เขียวหรือตามความคาดหวังของเรา เราก็จะมีแฮปปี้มีความสุข ลั้ลลากันได้

แต่หากสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ตรงกับพิมพ์เขียว นั่นเท่ากับชีวิตเรากำลังผิดแบบจากพิมพ์เขียวที่เรากำหนดไว้ แล้วเราก็จะเริ่มหงุดหงิดใจ กังวลใจ หรือโมโหกับชีวิต ส่วนดีกรีของความรุนแรงในอารมณ์ผิดหวังหรือความโกรธของเราก็จะขึ้นอยู่กับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันผิดแบบไปเยอะไหม ผิดแบบรุนแรงแค่ไหน ยังพอแก้ไขได้ไหม หรือมันผิดมานาน ทนมานานแล้วแต่แก้ไม่หายซะทีแค่ไหน

เพื่อดูว่าหลักการนี้มันจริงหรือเปล่า เรามาลองดูซิว่า ตอนนี้คุณพึงพอใจกับด้านไหนในชีวิตของคุณบ้าง เช่น หน้าที่การงาน ฐานะการเงิน ความรัก สุขภาพ ครอบครัว เพื่อนฝูง หรือความสนุกสนานในชีวิต เป็นต้น เมื่อเจอด้านที่พึงพอใจแล้วให้ลองถามตัวเองดูซิว่า “ที่เราพอใจเป็นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในด้านนั้นของชีวิตเราในขณะนี้ มันตรงกับพิมพ์เขียวหรือความคาดหวังของเราในด้านนั้นๆ จริงหรือไม่”

จากนั้นลองคิดดูอีกด้านนึงด้วยการถามตัวเองว่าขณะนี้คุณยังไม่ค่อยพอใจ หรือรู้สึกหงุดหงิดผิดหวังกับเรื่องอะไรในชีวิตของคุณอยู่บ้าง แล้วที่คุณรู้สึกอย่างนั้นน่ะมันเป็นเพราะสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่มันไม่ตรงกับพิมพ์เขียว หรือความคาดหวังของคุณจริงไหม

ดังนั้น ที่ผ่านมาชีวิตเราจะรู้สึกสุขหรือทุกข์มันก็เกิดขึ้นจากการทำงานของใจเราที่คอยเปรียบเทียบสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตกับแบบพิมพ์เขียวของเรานี่ล่ะครับ

ทุกข์ = ผลลัพธ์ที่ได้อยู่ไม่ตรงกับพิมพ์เขียวและสุข = ผลลัพธ์ที่ได้อยู่ตรงกับพิมพ์เขียว

เวลาเราสุขก็คงจะไม่มีใครเดือดร้อนอะไร ปัญหาอยู่ที่ว่า “เมื่อทุกข์แล้วจะแก้ตรงไหนดีจึงจะได้สุข” ผมว่าเพื่อให้ได้สุขอย่างแท้จริงและยั่งยืนเราต้องมาดูกันทั้ง 2 ตัวเลย คือ ทั้งพิมพ์เขียวของเราและเจ้าผลลัพธ์ที่เราได้อยู่

อันดับแรก มาดูที่พิมพ์เขียวก่อน เพราะไอ้เจ้าพิมพ์เขียวนี่ล่ะทำให้คนทุกข์มาเยอะแล้วโดยไม่รู้ตัว คุณว่ามีคนกี่คนที่เคยเช็กกับตัวเองว่าพิมพ์เขียวในด้านต่างๆ ของชีวิตเรามันมีหน้าตาเป็นยังไง แล้วมันสามารถสร้างบ้าน (ของชีวิต) ได้จริงตามพิมพ์เขียวที่กำหนดไว้หรือเปล่า??

คนบางคนไม่เคยมีความสุขกับชีวิตเลย ทั้งๆ ที่คนภายนอกต่างมองว่าคนคนนี้น่าอิจฉามาก เขาอาจจะมีธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ มีฐานะการเงินที่มั่นคง มีครอบครัวที่รักเขา แต่เขากลับไม่มีความสุขเลย เพราะอะไร?? ถ้าไม่ใช่เพราะพิมพ์เขียวของชีวิตที่เขาต้องการมันถูกเขียนไว้ซะวิเศษเลิศเลอจนไม่มีทางที่มันจะถูกสร้างขึ้นมาตามแบบได้

มีผู้หญิงโสดคนหนึ่งที่มีความเครียดกับชีวิตสูงมากทั้งที่เป็นคนประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงเงินทอง เพียงเพราะในวัย 55 ปี เธอยังมีพิมพ์เขียวของชีวิตรักและครอบครัวอยู่ว่า “ฉันจะมีความสุขก็ต่อเมื่อฉันมีผู้ชายที่จะรักฉันตลอดไป ไม่มีวันที่เขาจะโกรธฉันเลยไม่ว่าฉันจะงี่เง่าขนาดไหน และเขาต้องมีลูกที่เกิดจากท้องของฉันเอง 3 คน และลูกทั้ง 3 คนจะต้องรักฉันและอยู่กับตลอดไป ไม่มีวันที่ลูกและสามีจะทอดทิ้งให้ฉันต้องอยู่ตามลำพัง” คุณคิดว่าเธอจะสามารถพบความสุขในชีวิตได้ไหม หากนี่คือพิมพ์เขียวในอุดมคติของเธอ

ดังนั้น เพื่อให้พวกเรามีจุดเริ่มต้นที่ดีด้วยการมี “พิมพ์เขียวที่สามารถสร้างได้” คุณลองถามตัวเองในเวลานี้ดูซิว่า พิมพ์เขียวในด้านต่างๆ ของชีวิตคุณมันเป็นยังไง โดยเฉพาะด้านที่คุณยังไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไร มันเป็นเพราะพิมพ์เขียวของคุณมันมีเงื่อนไขมากมายเกินไปจนมันไม่สามารถสร้างให้เกิดขึ้นจริงได้หรือไม่ และหากคุณปรับพิมพ์เขียวของคุณได้ คุณจะปรับใหม่อย่างไร แล้วคุณจะพบว่าเพียงแค่คุณลดสเปกของพิมพ์เขียวในชีวิตลงบ้าง คุณจะมีความสุขกับชีวิตในปัจจุบันขึ้นมาได้อีกมากในทันทีเลยเชียวล่ะ

แต่ว่าอย่าเข้าใจผมผิดนะครับ ผมไม่ได้เชียร์ให้เราทบทวนพิมพ์เขียวแล้วปรับซะจนเราปลงไปหมดทุกเรื่อง และเลิกที่จะสร้างความคาดหวังดีๆ ให้กับชีวิตของเรานะครับ ทั้งหมดเพียงแค่ให้เราทบทวนดูว่าพิมพ์เขียวของเรามันมีความขัดแย้งอยู่ในตัวของมันเองจนมันสร้างไม่ได้หรือเปล่าเท่านั้นครับ

เหมือนที่ผมย้ำอยู่หลายครั้ง ชีวิตคนเราจะเดินไปข้างหน้าได้มันต้องมีความหวัง มันต้องมีเป้าหมายที่จะพาตนเองไปสู่สิ่งที่ดีกว่าที่รอเราอยู่ และพิมพ์เขียวที่ดีก็จะทำหน้าที่ของมันต่อไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เมื่อเราเคลียร์กับพิมพ์เขียวของเราแล้ว ที่เหลือก็แค่มาดูว่าเจ้าผลลัพธ์ที่เราได้อยู่ ถ้ามันยังไม่ตรงกับพิมพ์เขียวของเรา เราจะต้องปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง ต้องทำอะไรใหม่ๆ บ้าง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ใหม่ที่เข้าใกล้หรือตรงกับพิมพ์เขียวของเรามากขึ้น ปรับ ปรับ ปรับ ในสิ่งที่คุณทำจนกว่าคุณจะได้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการ และนั่นล่ะครับจะทำให้คุณได้พบกับความสำเร็จและความสุขในแบบที่คุณต้องการได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน

Thailand Web Stat