ลายแทงแห่งความเป็นมนุษย์

03 มิถุนายน 2557

มนุษย์เกิดมาพร้อมกับสัญชาตญาณอย่างสัตว์ เช่น สัญชาตญาณในการเอาตัวรอด สัญชาตญาณในการสืบพันธุ์ เป็นต้น

โดย...ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย

มนุษย์เกิดมาพร้อมกับสัญชาตญาณอย่างสัตว์ เช่น สัญชาตญาณในการเอาตัวรอด สัญชาตญาณในการสืบพันธุ์ เป็นต้น สัญชาตญาณเหล่านี้ มักแปรออกมาเป็นพฤติกรรมในชีวิตซึ่งเราสังเกตเห็นได้ง่ายๆ เป็นต้นว่า กิน กาม หลับ สืบพันธุ์ กลัวภัย เห็นแก่ตัว สัญชาตญาณพื้นฐานดังกล่าวมานี้ หากไม่ได้รับการฝึก หัด ขัดเกลา อบรม บ่มนิสัย หรือไม่ได้รับการศึกษาที่ถูกต้อง ก็จะยังคงมีอิทธิพลครอบงำชีวิตของคนไปจนแก่จนเฒ่าหรือจนตาย เหมือนที่ท่านกล่าวไว้ในสุภาษิตบทหนึ่งว่า

“โน เจ อสฺส สกา พุทฺธิ วินโย วา สุสิกฺขิโต วเน อนฺธมหึโสว จเรยฺย พหุโก ชโน”

แปลว่า “หากไม่มีพุทธิปัญญาและไม่ได้ศึกษาระเบียบวินัย คนทั้งหลายก็จะดำเนินชีวิตดุจดังกระบือบอดในกลางป่า”

ถอดความเป็นกวีนิพนธ์ว่า

หากไม่มีปัญญาพาคิดอ่าน อีกสันดานไม่เคยฝึกไม่ศึกษา

คนทั้งหลายอาจบอดใบ้ไร้จรรยา กิเลสพามืดบอดตลอดกาล

ถึงเป็นคนก็แต่กายส่วนใจนั้น ตกต่ำชั้นง่อยเปลี้ยเดียรฉาน

เฝ้าสมสู่นอนหลับทับวิชาน ไม่วิจารณ์ไม่วิตกไม่ยกใจ

กินกามหลับสืบพันธุ์อยู่นั่นแล้ว วันคืนแผ้วผ่านเลยยิ่งเชยใหญ่

อายุมากปัญญาน้อยกินกลอยไพร ยังชีพไปก็เพียงเพื่อเลี้ยงเนื้อนวล

แต่เพราะมีการศึกษามาฝึกหัด ปรีชาชัดช่วงฉายคลายกระสวน

อีกวินัยอบร่ำย้ำกระบวน จิตเรรวนจึงสว่างกระจ่างรู้

วางสัญชาตญาณการเป็นสัตว์ พ้นวงวัฏเวียนว่ายในสมสู่

เป็นมนุษย์ทรงค่าอย่างตราตรู เพราะเป็นอยู่ด้วยปัญญาอย่างถาวร

การที่มนุษย์แตกต่างจากสัตว์ทั่วไป ก็เพราะมนุษย์มีการฝึกหัดขัดเกลาเพื่อเอาชนะสัญชาตญาณเหล่านี้ได้สำเร็จ (เช่น พระอริยบุคคลทั้งหลาย ที่ตัดกิเลสได้เด็ดขาด สามารถลอยพ้นเหนือแรงดึงดูดของสัญชาตญาณได้สำเร็จ เป็นต้น) หรือมิเช่นนั้นก็รู้จักควบคุม บริหารจัดการให้สัญชาตญาณเหล่านี้มีการแสดงออกภายในขอบเขตและกาละที่เหมาะสม ไม่เลย ไม่ลาม ไม่ล้น ไม่ไหล ไม่กระฉอกออกมาจนนำความเดือดร้อนมาสู่ตัวเอง คนอื่น และสังคม

อย่างไรก็ตาม การเอาชนะสัญชาตญาณไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องยากที่ต้องใช้สติปัญญาในการฝึก หัด ขัดเกลา อย่างต่อเนื่อง ยาวนาน และมีวิธีการที่แยบคาย ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้เห็นตัวอย่างของบุคคลที่ตกเป็นทาสของสัญชาตญาณอยู่ทั่วไปในแต่ละวัน ยิ่งในยุคข้อมูลข่าวสารเช่นทุกวันนี้ เราจะพบว่า ตัวอย่างในทางเลวเหล่านี้มีให้อ่านให้เสพกันอย่างมากมายทุกต้นชั่วโมงก็ว่าได้ เป็นต้นว่า

บางคนเมื่อถูกกระตุ้นให้โกรธ หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ชวนให้โกรธ ก็ตกอยู่ในอำนาจของความโกรธ จนขาดสติ ลุแก่โทสะ ลุกขึ้นมาทำร้ายตน ทำร้ายคนอื่นถึงแก่ชีวิต บางคนแค่เพียงรถติดอยู่บนทางด่วนเป็นเวลานาน ถูกคนขับรถคันหลังบีบแตรขอทางเท่านั้นก็ถึงกับบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนยิงคนที่บีบแตรไล่หลังจนถึงแก่ปางตายหรือถึงตายในที่เกิดเหตุ

บางคนเมื่อประสบกับสิ่งเร้าทางกามารมณ์ไม่ว่าจะไหลมาทางสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อออนไลน์ สื่อโทรทัศน์ หรือที่ตนเผชิญเข้าเฉพาะหน้าในสถานเริงรมย์หรือในเรือนชานบ้านช่องและ/หรือในสวนสาธารณะ กระทั่งบางทีบนรถประจำทาง ก็ถึงอดรนทนไม่ไหว ยอมให้กิเลสตัณหาเข้ากลุ้มรุมจิตใจจนสิ้นสภาพของความเป็นปกติมนุษย์ปกติ ลุกขึ้นมากระทำชำเราคนอื่นเพื่อบำบัดความใคร่ที่กลุ้มรุมดวงจิตอย่างหนักหนาสาหัสโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว เขาปล่อยให้ตัวเองมีมีสภาพไม่ต่างอะไรกับดวงตะวันที่หลุดเข้าไปอยู่ท่ามกลางมวลหมู่เมฆดำทมึน หมดสภาพที่จะเริงแรงสายฉาย (แม้แสงนั้นจะยังมีอยู่ แต่ก็ถูกบดบัง) หรือไม่ต่างอะไรกับเศษหญ้า เศษบ้าน เศษไม้ รถยนต์ ที่ถูกดูดกลืนเข้าไปหมุนวนอยู่ตรงใจกลางของพายุทอร์นาโด ใครก็ตามที่ถูกราคะดำฤษณากลุ้มรุมจิตใจจึงมักลืมตัวลืมตายไปชั่วครั้งชั่วคราว เมื่อความรู้สึกผิดชอบชั่วดีขาดหาย จึงปล่อยให้สัญชาตญาณแห่งการดำรงเผ่าพันธุ์ที่ซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึกหลุดออกมาทำหน้าที่โดยอัตโนมัติเหมือนเสือดุตะกุยตะกายจนหลุดออกมาจากรงขัง แต่เพราะเป็นการทำหน้าที่ที่ปราศจากสติควบคุม ปราศจากการยับยั้งชั่งใจ จึงกลายเป็นการประทุษร้ายทั้งตัวเองและคนอื่น ในบางกรณีก็ถึงกับมีการตายเกิดขึ้นหลังการกระทำชำเราด้วยสัญชาตญาณอย่างสัตว์อันรุนแรงและเข้มข้นถึงขีดสุด

บางคนเมื่อถูกกระตุ้นให้โลภให้หลง ก็มองเห็นแต่เงินทองของมายาเป็นสาระสำคัญของชีวิต จนมองข้ามความถูกผิดทางศีลธรรม ไม่เคาพยำเกรงกฎหมาย มองเห็นสมบัติของคนอื่น ของส่วนรวม ของประเทศชาติประชาชน ก็เข้าใจผิด เผลอคิดไปว่า เป็นสมบัติของตัว เกิดความหน้ามืดตามัว โลภโมโทสันมากล้นพ้นประมาณจนกระฉอกออกมาเป็นการทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง ครั้นวันหนึ่งได้สติคืนกลับมาถึงรู้ว่า ตัวเองทำในสิ่งที่ไม่สมควร เกิดความละอายแก่ใจ ไม่อาจอยู่สู้หน้าใครในสังคม แหงนหน้าก็อายฟ้า ก้มหน้าก็อายดิน จึงตัดสินใจทำอัตตวินิบาตด้วยมือตัวเองก็ยังเคยมี เช่น นักการเมืองในบางประเทศที่กระทำการทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงเป็นเงินมหาศาล เมื่อถูกศาลตัดสินให้ต้องรับทัณฑ์เป็นเวลายาวนานตลอดอายุขัย ก็ตัดสินปลิดชีวิตตัวเองเพื่อหนีความอับอายขายหน้า เป็นต้น

สัญชาตญาณอย่างสัตว์ที่แฝงอยู่ในจิตใต้สำนึกของเราทุกคน คือ ด้านอันมืดดำที่เราทุกคนจะต้องเรียนรู้เพื่อที่จะเอาชนะให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด หรือถึงแม้ไม่อาจเอาชนะได้อย่างถึงที่สุด ก็ต้องไม่ปล่อยปละละเลยจนกลายเป็นการปล่อยเลยตามเลยในลักษณะยอมจำนนหรือถือว่าเป็นเสรีที่จะตามใจกิเลสโดยอ้างเหตุว่าเป็นเสรีภาพชนิดหนึ่ง (ซึ่งไม่ใช่เสรีภาพแท้ เพราะเบื้องหลังเสรีภาพอย่างนี้คือการตกเป็นทาสของกิเลสที่ปั่นหัวอยู่ข้างใน) หากแต่ต้องเรียนรู้ที่จะหาวิธีบริหารจัดการให้สัญชาตญาณได้รับการแสดงออกมาอย่างมีสติ มีความเหมาะสม มีความงดงามสอดคล้องแก่กาลเทศะและบุคคล ด้วยการศึกษา ด้วยระเบียบวินัย ด้วยการฝึกหัดขัดเกลา ด้วยกิริยามารยาท และด้วยธรรมเนียมอันดีงาม

หากเราไม่สามารถเอาชนะสัญชาตญาณอย่างสัตว์ได้ ความเป็นมนุษย์ของเราก็จะลดน้อยถอยลงไปทีละนิดๆ จนแทบไม่เหลือ ในทางกลับกัน หากใครก็ตามสามารถเอาชนะสัญชาตญาณอย่างสัตว์ได้มากเท่าไหร่ เขาก็จะมีความเป็นมนุษย์เพิ่มมากขึ้นได้เท่านั้น ความเป็นมนุษย์ของเราแต่ละคนจึงเป็นปฏิภาคผกผันกับสัญชาตญาณที่ถูกลดทอนลงไปตามสัดส่วน หรือสัญชาตญาณที่ถูกปล่อยให้เพิ่มพูนขึ้นมาในจิตใต้สำนึกอย่างเสรีโดยไม่มีการควบคุม

กุศโลบายอันสำคัญที่สุดที่จะทำให้มนุษย์สามารถเอาชนะสัญชาตญาณอย่างสัตว์ได้ก็คือ การศึกษา หากปราศจากการศึกษา มนุษย์ก็จะไม่ต่างอะไรกับสัตว์ดิรัจฉานชนิดหนึ่งที่ห่อหุ้มตัวเองไว้ในเสื้อผ้าแพรพรรณอันงามวิจิตรชวนให้หลงใหลจากภายนอก แต่ทว่าข้างในกลับซ่อนพิษร้ายแรงเอาไว้อย่างน่ากลัวเป็นที่สุด

การศึกษาที่จะทำให้ปัจเจกบุคคลสามารถยกระดับตัวเองขึ้นมาจากสัตวโลกจนกลายเป็นมนุษย์ที่น่าสรรเสริญ ก็คือ ศีล 5 หรือเบญจศีลเบญจธรรม (ศีล เน้นไปยังสิ่งที่ควรลด ละ เลิก ธรรม เน้นไปยังสิ่งที่ควรพัฒน์ เพิ่ม พูน หรือ ศีล มุ่งเชิงลบ/ลด ธรรม มุ่งเชิงสร้างสรรค์พัฒนา)

Thailand Web Stat