posttoday

ชวนกินดอกกระเจียว

13 มิถุนายน 2557

ฝนมาอะไรดีๆ ก็มา โดยเฉพาะคนบ้านนา ไม่ว่าจะที่ไหนฝนมักมาพร้อมความอร่อยเสมอ ดั่งที่เขาเรียกกันว่า “ของกินหน้าฝน” ยังไง

ฝนมาอะไรดีๆ ก็มา โดยเฉพาะคนบ้านนา ไม่ว่าจะที่ไหนฝนมักมาพร้อมความอร่อยเสมอ ดั่งที่เขาเรียกกันว่า “ของกินหน้าฝน” ยังไง

คนอีสานบ้านเฮา ยามเมื่อถึงหน้าฝน ดูเหมือนทุกคนจะยิ้มร่าลั่นล้าเป็นพิเศษ เพราะนี่คือเวลาการตามล่าหาของป่าที่ธรรมชาติมอบให้

เคยแต่ได้ยินผู้เฒ่าผู้แก่เล่าให้ฟัง ถ้าฟ้าร้องฝนกระหน่ำไม่ลืมหูลืมตา รอฝนซาฟ้าสาง อย่านอนอุดอู้ใต้ผ้าห่มนุ่ม จงลุกขึ้นมาเดินหน้าตามล่า “กบ” “อึ่งอ่าง”

ถ้าประกาศตัวเป็นมังสวิรัติ ก็มีโอชะหน้าฝนปลอดเนื้อสัตว์ให้สำราญลิ้น “หน่อไม้” “ผักหวาน” สารพัดเห็ด “เห็ดเผาะ” “เห็ดตับเต่า” รวมทั้ง “เห็ดระโงก” ราชาเห็ดป่าฝน

แต่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยเห็นจะเป็น “ดอกกระเจียว” แทงยอดออกจากผืนดินแตกระแหง โผล่หน้าสลอนมาให้เห็นในฐานะราชินีป่าฝน ที่บ้านเรา ใครๆ ก็น่าจะรู้จักดอกกระเจียว อย่างน้อยๆ ก็บานทั่วทุ่งอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จ.ชัยภูมิ นั่นแหละดอกกระเจียว แต่เราคงไม่บุกไปถึงป่าหินงามหรอก ขอแวะตลาดคลองเตย (ใกล้ออฟฟิศดีออก) เพราะข่าวว่า ณ ตอนนี้มีดอกกระเจียวผลิดอกออกช่อกันแล้ว (ติ๋งต่างว่าไปป่าตามล่าในป่าด้วยตัวเองไง 555)

ชวนกินดอกกระเจียว

 

ดอกตูม ดอกบาน เลือกได้ตามใจชอบ อร่อยๆ ก็ต้องดอกตูม แน่นๆ หวานๆ ดอกบานก็อร่อย แต่กากใยอาจจะเยอะไปนิด กินไม่อร่อยเท่าไหร่

ดอกกระเจียวกินได้ทั้งสด ทั้งต้ม ทั้งลวก สดๆ ก็ได้กลิ่นหอมขึ้นจมูก ความกรอบความฉ่ำอวลอยู่ในปาก นำไปต้ม หรือลวกอาจเสียอรรถรสตรงนั้นไป

บางคนครีเอต รู้จักประยุกต์ ก็นำดอกกระเจียวทำเป็นแกงส้ม ซดน้ำร้อนๆ อร่อยเวอร์ หรือจะโยนลงกระทะผัดไฟแรง คล้ายผัดไฟแดงก็ได้

แต่เมนูง่ายๆ พื้นๆ อร่อยแบบชาวบ้าน ก็ต้องจิ้มกับน้ำพริก ที่อีสานถ้าได้ดอกกระเจียวสดมา ก็จิ้มกินกับแจ่วบอง แจ่วปลาร้า แจ่งแมงดา กลิ่นหอมฉุน หรือจะเป็นน้ำพริกปลาทู น้ำพริกกะปิ ก็อร่อย เคียงด้วยข้าวเหนียวนึ่ง โอ้!!! ลืมอิ่มกันทีเดียว

เด็ดกว่านั้น บางคราก็มีคนนำมาเป็นผักแกล้มลาบ แกล้มก้อย ด้วยกลิ่นหอมอันเป็นเฉพาะของดอกกระเจียวที่ช่วยดับคาวได้ ทั้งคาวปลา คาวเนื้อ สู้ได้สบาย สรรพคุณอื่นๆ ยังช่วยขับลม แก้ท้องอืดเฟ้อ แก้มดลูกอักเสบสำหรับสตรีหลังคลอด

ดูสิ มัวแต่ห่วงกิน จนลืมบอกไปว่า ดอกกระเจียวกินไม่ได้ทุกดอกนะเออ

ชวนกินดอกกระเจียว

 

ดอกกระเจียวที่ป่าหินงาม กินไม่ได้ เพราะเป็นพันธุ์ก้านยาว สูงผอม หุ่นสเลนเดอร์เหมือนนางแบบ ควรนำไปปักแจกัน สวยๆ เก๋ๆ อย่างที่มีชื่อเป็นทางการว่า “ปทุมมา” หรือ “ทิวลิปแห่งสยาม”

ส่วนดอกกระเจียวที่กินได้ ก้านอวบอ้วนและสั้น ช่อดอกไม่สูงชะลูด ออกจะเตี้ยล่ำซะด้วยซ้ำ กลีบดอกสั้นเรียงเป็นชั้น แถมยังมีความอิ่มเอิบ ที่สำคัญก้านต้องนิ่ม หักได้อย่างง่ายดาย

เรื่องสีสันก็ต้องทำความเข้าใจให้ดี ดอกกระเจียวบานทั่วทุ่งป่าหินงาม สีชมพูก็มี สีชมพูอมม่วงก็มี สีม่วงอมแดงก็มี แบบนั้นกินไม่ได้แน่ๆ ที่กินต้องเป็นดอกสีขาว หรือสีแดงไม่จัด กินได้ ถ้าไม่มั่นใจว่าดอกไหนกินได้ ก็ให้สังเกตว่ามีแมงไต่ตอม นั่นพอจะสันนิษฐานว่าเป็นพันธุ์ที่กินได้

แม้จะมากับฝน แต่ฤดูกาลของดอกกระเจียวก็แสนสั้น ฝนมาก็โผล่หน้ามาแย้ม อยู่ได้ถึงแค่เดือนเดียว มากสุดสองเดือน จากนั้นก็หายจ้อย ต้องรอฝนหน้าฟ้าใหม่ จึงจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ณ บริเวณป่าโคก หรือป่าเต็งรัง

ฉะนั้น ใครอยากลิ้มรสดอกกระเจียวก็รีบตามหากันให้ไว จะบุกเข้าป่าหรือว่าลุยตลาดก็เชิญตามสะดวก