หลงเสน่ห์เครื่องประดับ ม.ล.ชนิกา พัฒน์พงศ์พานิช
บางครั้งการแต่งกายก็บ่งบอกรสนิยมที่ดีเลิศ เช่นเดียวกับความชื่นชอบในเครื่องประดับ คุณนิม.ล.ชนิกา พัฒน์พงศ์พานิช แบรนด์เมเนเจอร์แพนดอร่า แบรนด์เครื่องประดับสุดหรู
โดย...วราภรณ์ ภาพ : ภัทรชัย ปรีชาพานิช
บางครั้งการแต่งกายก็บ่งบอกรสนิยมที่ดีเลิศ เช่นเดียวกับความชื่นชอบในเครื่องประดับ คุณนิม.ล.ชนิกา พัฒน์พงศ์พานิช แบรนด์เมเนเจอร์แพนดอร่า แบรนด์เครื่องประดับสุดหรู ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่ละเมียดละไมในการเลือกเครื่องประดับเช่นเดียวกับเสื้อผ้า หลังจากที่ห่างหายจากวงการแฟชั่นไปนานกว่า 5 ปี เพราะต้องไปสวมบทคุณแม่ดูแลลูกน้อยวัยกำลังน่ารักทั้งสองคน แต่เมื่อโอกาสลงตัวที่แบรนด์เครื่องประดับสัญชาติเดนมาร์กต้องการทีมงานมาดูแลการตลาดและสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ ม.ล.ชนิกา จึงไม่ลังเลที่จะมาร่วมงานด้วย
“นิหยุดทำงานไป 5 ปี เพราะต้องไปดูลูก แต่ในที่สุดพอโอกาสเหมาะ นิก็เลือกมาเป็นแบรนด์เมเนเจอร์ให้กับแบรนด์เครื่องประดับที่มีความประณีตในการทำ เพราะนิก็เป็นแฟนแพนดอร่าอยู่แล้ว ที่ชื่นชอบเพราะโปรดักต์สวย มีความหมายที่ดี เดิมก็ซื้อให้ลูกๆ และตัวเองใส่ ซื้อสะสมแล้วก็ใส่มาตลอด เพราะการออกแบบเครื่องประดับก็เป็นตัวเรา คือ เรียบๆ ไม่หวือหวา อย่างซื้อให้ลูกใส่ก็ซื้อเม็ดอัญมณีเป็นปีหมูกับไก่ เพราะเป็นปีที่ลูกเกิด เป็นเครื่องประดับที่ใส่ติดตัวได้ตลอด” เมื่อรู้จักกับแบรนด์และคุ้นชินกับคอนเซปต์แบรนด์อยู่แล้ว การทำงานด้านการตลาดจึงไม่ใช่เรื่องยาก เพราะหน้าที่ใหม่ก็มีขอบข่ายงานที่เคยทำมาแล้ว คือ งานด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์
“จากที่เคยทำงานทั้งดิออร์และเฟนดิ นิค่อนข้างคุ้นชินกับแผนการตลาดด้านแฟชั่นอยู่แล้ว เช่น ไฮแอนด์แบรนด์ก็ต้องเดินทางไปซื้อของมาจำหน่ายในประเทศไทย อีกทั้งแพนดอร่าเป็นแบรนด์ที่มีลูกเล่นเยอะมากๆ พอต้องทำงานร่วมกันทางแบรนด์ก็ส่งนิไปเทรน ไปเรียนรู้วิธีทำคริสตัลแต่ละชิ้น ที่แต่ละชิ้นต้องผ่านขั้นตอนการทำเยอะมากๆ ที่สำคัญทุกชิ้นทำจากมือ เรียกว่าแฮนด์ฟินิชหมดเลย เลยเป็นงานที่ประณีต เหมือนงานอาร์ต เช่น การฝังพลอยแต่ละเม็ดก็ฝังมือหมด บางชิ้นทำที่เดนมาร์ก บางชิ้นบางดีไซน์เช่นงานเครื่องแก้วก็ทำที่อิตาลี เป็นต้น”
การทำงานด้านการตลาดของสินค้าไฮเอนด์เสื้อผ้า กระเป๋า และเครื่องประดับก็เหมือนกัน เพราะต่างก็ออกมาเป็นคอลเลกชั่น มีฤดูกาลเป็นตัวกำหนดการออกแบบและการให้สีสันเช่นเดียวกับเสื้อผ้า
“บางคนคิดว่าแพนดอร่ามีแต่สร้อยข้อมือ แต่จริงๆ แล้วเรามีต่างหู แหวน เรียกว่าเครื่องประดับทั้งหญิงและชายเรามีหมด แม้จะเป็นเครื่องประดับแต่ก็มีเรื่องของแฟชั่นมาเกี่ยวข้อง นิรู้สึกสนุกกับการทำงานกับทั้งเสื้อผ้าและเครื่องประดับ เราสามารถคิดเรื่องการปรับใช้เครื่องประดับกับการแต่งตัวได้ เช่น เครื่องประดับไปทะเลก็แบบหนึ่ง ช่วงคริสต์มาสก็มีเครื่องประดับออกมาเป็นการเฉลิมฉลอง เรียกว่ามีแผนการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้เราเล่นเยอะมากกว่าทำแบรนด์เสื้อผ้าเสียอีก ซึ่งตลาดเครื่องประดับก็แข่งขันกันสูงระดับหนึ่ง และแข่งขันกันสูงกว่าเมื่อก่อน แต่ก็ดีกับลูกค้า เพราะมีแบรนด์ให้เลือกเยอะ แต่เราก็ต้องทำแผนการตลาดให้มากขึ้น และต้องทำแบบไม่มีขีดจำกัด แต่เราก็จะมีชาร์ม (แก้วมูราโน่เม็ดกลมๆ ที่ตกแต่งประดับด้วยอัญมณี) ที่มีเอกลักษณ์ใครอยากให้สร้อยข้อมือตัวเองสไตล์ไหนก็สามารถเลือกได้ตามความชอบ ซึ่งชาร์มแต่ละเม็ดจะมีการออกแบบที่สวยงามแตกต่างกัน เพราะประดับด้วยอัญมณีที่หลากหลาย ก็แล้วแต่คอลเลกชั่นจะใช้อัญมณีชนิดไหน เช่น ชาร์มเป็นรูปช้างก็จะขายดีเป็นอันดับ 1 รวมทั้งพระสังกัจจายน์ก็ได้รับความนิยม เพราะเป็นเครื่องรางได้ด้วย อย่างต่างชาติก็ชอบนกฮูก เพราะเป็นสัญลักษณ์ของความฉลาด ลูกค้าเรามีทั้งชาวต่างชาติและคนไทยอย่างละครึ่งค่ะ”
แต่ใช่ว่าชาร์มจะมีให้เลือกเฉพาะสัญลักษณ์ความเชื่อ แต่สำหรับผู้หญิงหวานๆ ก็เลือกชาร์มสีหวาน หรือสุภาพบุรุษก็ใส่เครื่องประดับได้ เช่น เลือกชาร์มที่ทำจากไม้หรือเส้นเงิน เช่น คอลเลกชั่นเอสเซนต์ออกแบบมาเพื่อคุณผู้ชายโดยเฉพาะ เพราะชาร์มทำจากหินที่ตามความเชื่อจะช่วยเรื่องสุขภาพและความรัก
“นิชอบต่างหู แต่สร้อยข้อมือก็ชอบเพราะเปลี่ยนชาร์มได้ตลอด เราจึงสามารถเลือกชาร์มให้เข้ากับชุดที่เราสวมใส่ได้ เราจึงสนุกกับการเลือกมิกซ์แอนด์แมตช์ได้ทุกวัน แค่เราเปลี่ยนชาร์มสร้อยข้อมือก็กลายเป็นสร้อยอีกเส้น เพราะเราสามารถเปลี่ยนได้เองที่บ้าน อย่างลูกค้าที่ชื่นชอบสไตล์ของเรา ได้แก่ คุณพลอย เฌอมาลย์ คุณคริสติน่า เศรษฐบุตร รินทร์รตา อินทามระ ก็เป็นลูกค้าของเรา เพราะแพนดอร่าเป็นเครื่องประดับเหมาะกับผู้หญิงทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงสีผิวแบบไหน และไม่จำกัดอายุ แรงบันดาลใจในการออกแบบแต่ละคอลเลกชั่นคีย์เวิร์ดก็คือ อยากให้เห็นคุณค่าของผู้หญิงที่มีอยู่ล้ำลึกมากๆ สังเกตผู้หญิงที่มาเป็นนางแบบให้แบรนด์ก็ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่มีคุณค่าและช่วยเหลือสังคม เพราะเราอยากให้แพนดอร่าเป็นแบรนด์เครื่องประดับที่ไม่ฉาบฉายแต่ทรงพลัง ”
ม.ล.ชนิกา เล่าว่า แม้เป็นเครื่องประดับ แต่ก็มีการออกแบบแตกต่างกันในแต่ละคอลเลกชั่น เช่น เทรนด์เครื่องประดับฤดู ออทัมน์/วินเทอร์ หรือสปริง/ซัมเมอร์ 2014 ก็มีลักษณะคล้ายๆ กัน แต่ช่วงซัมเมอร์จะเน้นสีสันสดใสหน่อย เช่น เขียว ฟ้า โดยนักออกแบบได้รับแรงบันดาลใจมาจากป่าทางแถบแอฟริกาเหนือ เช่น ชาร์มออกแบบมาเป็นลูกสับปะรด ฟาร์มิงโก้ หรือชาร์มรูปดอกไม้ ซึ่งบรรจุในคอลเลกชั่นชื่อว่า “ทรอปิเคิล พาราไดซ์” ที่ออกแบบมาให้ทั้งกลุ่มลูกค้าที่เป็นทั้งผู้หญิงและผู้ชายได้เลือกใส่
สำหรับเทรนด์เครื่องประดับฤดูนี้ ม.ล.ชนิกา บอกว่า ให้เลือกที่เข้ากับบุคลิกของตัวเอง เช่น เราเป็นผู้หญิงเท่ก็ให้เลือกแบบที่เรียบๆ เช่น ตัวสร้อยข้อมือเป็นทูโทนลงยากับทองก็ช่วยให้ดูเก๋และบ่งบอกบุคลิกของผู้สวมใส่ได้ แต่หากเป็นผู้หญิงหวานๆ ก็ให้เลือกชาร์มลายหัวใจสีชมพู สายหนังสีชมพู ชาร์มรูปหัวใจหรือดอกไม้ หรือจะเลือกชาร์มที่เป็นตัวอักษรก็กำลังฮิตสุดๆ
ม.ล.ชนิกา พัฒน์พงศ์พานิช
แบรนด์เมเนเจอร์แพนดอร่า
การศึกษา : มัธยม 3 โรงรียนจิตรลดา และเข้าเรียนต่อมัธยม 4 โรงเรียนเตรียมอุดม และติดตามคุณพ่อ พล.อ.ม.ร.ว.กฤษต กฤดากร ไปเป็นทูตทหารบก ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอจึงเรียนต่อชั้นมัธยมปลายที่โรงเรียนประจำจนถึงชั้นมัธยม 6 และเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่บอสตัน ยูนิเวอร์ซิตี ด้านกราฟฟิก ดีไซน์ แต่มาศึกษาจบปริญญาตรีสาขาเดียวกันที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เนื่องด้วยไม่สบาย
การทำงาน : ด้วยหลงรักศิลปะ เธอจึงทำงานในแวดวงแฟชั่นมาตลอด เริ่มที่ทำงานด้านการตลาดที่ดิออร์ ประเทศไทย 2 ปี และย้ายไปเป็นแบรด์เมเนเจอร์ที่เฟนดิ 4 ปี
ดีไซเนอร์คนโปรด : คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ ที่ชอบเพราะสองแบรนด์ทั้งเฟนดิกับชาแนลที่เขาออกแบบก็ทำได้แตกต่างกันคนละสไตล์เลย ดีไซน์มีความสวยงาม แฟชั่นโชว์ของเขาก็สวยตลอด ถึงแม้เขาจะอยู่ในวงการแฟชั่นโลกมานานมากๆ แต่ก็ยังไม่โดนนักออกแบบรุ่นใหม่ๆ กลบกระแสไปเลย ซึ่งน่าทึ่งมากๆ
สไตล์แต่งตัว : นิชอบแต่งกายสไตล์ความเรียบเก๋ เน้นคัตติ้งและเนื้อผ้าดีเป็นหลัก
แบรนด์เสื้อผ้า : ชอบสไตล์เสื้อผ้าของดีวีเอฟของอเมริกา ชอบเสื้อผ้าที่มีลายพรินต์เท่ๆ ไม่ใช่ผู้หญิงจ๋า หรืออย่างคาลวิน ไคลน์ ของอเมริกา ก็ชอบที่ความเรียบเท่ ใส่ง่าย ใส่ได้ทุกวัน เสื้อผ้าของนิเน้นสีเอิร์ทโทนและเทา ดำ ขาว แต่ช่วงซัมเมอร์ก็ขอมีสีสันบ้าง แต่ต้องเป็นสีที่ไม่ฉูดฉาด สีไม่แปร๊นเกินไป
เครื่องประดับ : ก็ต้องของแพนดอร่า เพราะใส่ได้กับเสื้อผ้าทุกชุด จะใส่เส้นเดียวหรือหลายเส้น หรือในหนึ่งเส้นจะสลับเปลี่ยนเม็ดก็เปลี่ยนได้เรื่อยๆ ทำให้สร้อยข้อมือเส้นนั้นกลายเป็นอีกเส้นหนึ่ง ทำให้เรารู้สึกไม่จำเจ หรือจะเอาชาร์มมาทำต่างหูก็ได้
กระเป๋า : นิชอบกระเป๋าของชาแนล แต่ที่ชอบมากๆ คือปราด้า เฟนดิ และดิออร์ อย่างชาแนลชอบเพราะความคลาสสิกที่เก็บไว้ใช้ได้เรื่อยๆ ไม่ตกยุค ปัจจุบันกระเป๋าชาแนลตั้งแต่คุณแม่ของนิยังสาวก็ยังถือได้ในปัจจุบัน เพราะดีไซน์เรียบๆ ใช้ได้เรื่อยๆ และใช้ได้กับทุกชุด อย่างปราด้ามีเสน่ห์ตรงความเรียบง่ายและคุณภาพดี หนังใช้และเก็บได้นาน ดูมีค่าในตัวเอง แม้จะราคาสูงแต่ก็เก็บนาน สามารถส่งต่อไปถึงลูกสาวเราได้
รองเท้า : แบรนด์โปรดต้อง คริสเตียน เลอบูแตงส์ ดีไซน์เรียบใส่ได้เรื่อยๆ หรือทอรี เบิร์ต มีให้เลือกตั้งแต่รองเท้าแตะยันรองเท้าทำงาน ความเก๋ของทอรี เบิร์ต อยู่ตรงหนังคุณภาพดี ใส่สบาย โดยเฉพาะรองเท้าส้นเตี้ย ราคาก็ใช้ได้แค่หมื่นต้นๆ เท่านั้น