เมฆ-หมอก กาญจนะโภคิน ความต่างในความเหมือน
ถ้าจะกล่าวถึงผู้บริหารฝาแฝดแห่งวงการธุรกิจอีเวนต์ คงไม่มีใครไม่นึกถึงคู่พี่น้องฝาแฝด
โดย...จะเรียม สำรวจ
ถ้าจะกล่าวถึงผู้บริหารฝาแฝดแห่งวงการธุรกิจอีเวนต์ คงไม่มีใครไม่นึกถึงคู่พี่น้องฝาแฝด เมฆเกรียงไกร กาญจนะโภคิน และหมอกเกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน แห่งบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ด้วยความที่เป็นฝาแฝด จึงทำให้พี่น้องคู่นี้แทบจะไม่แยกจากกัน และชอบอะไรที่มีความแตกต่างกันน้อยมาก
ตลอดระยะเวลาที่ เมฆ เกรียงไกร ลืมตามาดูโลกพร้อมกับ หมอก เกรียงกานต์ สองศรีพี่น้องใช้ชีวิตร่วมกันมาโดยตลอดนับตั้งแต่ตอนเรียนจนกระทั่งทำงาน จะมีแยกจากกันบ้างเพื่อค้นหาตัวเองก็ช่วงเริ่มต้นชีวิตทำงาน เมฆ เกรียงไกร ทดสอบการใช้ชีวิตแยกกันด้วยการเลือกทำงานในบริษัทเล็กๆ อย่าง เจเอสแอล ขณะที่ หมอก เกรียงกานต์ เลือกทดสอบด้วยการเข้าร่วมงานกับบริษัทขนาดใหญ่อย่าง การบินไทย
พี่เมฆ จะคอยเป็นห่วงเสมอ
หมอก เกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ เล่าว่า ตั้งแต่เล็กจนโตเราอยู่ด้วยกันมาตลอด ทำอะไรเหมือนกัน แต่งตัวเหมือนกัน เรียนโรงเรียนเดียวกัน เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน มีช่วง 34 ปีที่เราแยกกัน ก็ทำให้เราเริ่มทำอะไรที่มีความแตกต่างกัน
ช่วงระยะเวลาที่แยกจากกันทำให้สองพี่น้องเริ่มมีความคิดที่ต่างกัน โดยเฉพาะในด้านของการทำงานที่ หมอก เกรียงกานต์ จะลงรายละเอียดของงานมากกว่า เมฆ เกรียงไกร ที่จะไม่เน้นลงรายละเอียดของงานเน้นมองภาพใหญ่โดยรวม
“ความแตกต่างที่เกิดขึ้นกับเราสองคนพี่น้องทำให้คนในออฟฟิศ บอกว่าพี่เมฆ เป็นฟังก์ชั่นนอล ส่วนพี่เป็นอีโมชั่นนอล เพราะมีความแตกต่างในเรื่องของการคิดงาน ซึ่งตัวพี่เองจะลงรายละเอียดของงานมากกว่าพี่เมฆ และเวลาที่ประชุมงานกันส่วนใหญ่พี่จะไม่ค่อยเครียด พี่เมฆจะเครียด แต่เราสองคนชอบทำงานเหมือนกัน และตื่นมาทำงานแต่เช้า ทำให้เราเป็นบริษัทที่ทำงานตรงเวลามากที่สุด ”
ในด้านของไลฟ์สไตล์ส่วนตัว หมอก เกรียงกานต์ เล่าว่า พี่จะเป็นคนที่ชอบแต่งตัว ส่วนพี่เมฆจะไม่ชอบแต่งตัว และเมื่อถึงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ พี่จะชอบไปดูหนัง ไปสถานที่แปลกๆ สิ่งดังกล่าวอาจเป็นเพราะพี่มีลูกสาว จึงทำให้มีเทสต์ในด้านของความรู้สึกและมีความละเอียดอ่อนเพิ่มขึ้นมา
ถ้าพูดถึงการท่องเที่ยว พี่จะชอบโรงแรมในสไตล์บูติก ขณะที่พี่เมฆจะชอบพักโรงแรมหรูแบบโบราณ เช่น โรงแรมดุสิตธานี หรือรีเจ้นท์ นอกจากนี้เรายังมีความต่างกันในด้านของการการใช้เวลาว่าง ถ้าว่างพี่ก็จะไปดูหนัง ดูละคร
“พี่เมฆไม่ชอบดูหนัง เรื่องสุดท้ายที่จำได้พี่เมฆเคยดูหนังน่าจะเป็นเรื่องอินทรีแดง ซึ่งถือว่านานมาก นอกจากนี้พี่เมฆยังไม่ชอบออกกำลังกาย เลยทำให้ตอนนี้พี่เมฆอ้วนกว่าพี่ ทุกวันเวลา 05.55 น. พี่จะไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสวันละชั่วโมงกว่าๆ”
ถ้าพูดถึงสิ่งที่พี่เมฆสร้างความประทับใจให้กับพี่คือ เราเป็นห่วงกัน คอยช่วยเหลือกัน ด้วยความที่เราเป็นฝาแฝด จึงทำให้เรามีความใกล้ชิดกันมากกว่าพี่น้องทั่วไป แต่สิ่งที่ประทับใจคือ ตอนพี่แต่งงาน พี่เมฆเข้ามาช่วยเหลืองานแต่งอย่างเต็มที่เพราะอยู่เจเอสแอลมาก่อน มีประสบการณ์ในด้านของการจัดงาน
เราสองคนยังแบ่งเบาความทุกข์ซึ่งกันและกัน เพราะเรามีความผูกพันกันตั้งแต่เด็ก ช่วงที่ภรรยาพี่เมฆแท้งลูก พี่ก็จะให้กำลังใจและคอยช่วยเหลือแบ่งเบาความทุกข์ ซึ่งความช่วยเหลือที่มีให้กันเราจะทำกันเลยโดยไม่ต้องบอกหรือขอ
พี่หมอก ผูกพันแต่ไม่แสดงออก
เมฆ เกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ เล่าว่า ด้วยความที่พี่และพี่หมอกเป็นฝาแฝดกัน จึงทำให้ทุกอย่างแทบจะไม่มีความแตกต่างกัน เพราะอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ในท้อง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ 99% สามารถตัดสินใจแทนกันได้ เพราะความคิดและรสนิยมของเราส่วนใหญ่จะเหมือนกัน
“ด้วยความที่เราเป็นฝาแฝด จึงทำให้การใช้ชีวิตของเราแตกต่างไปจากพี่น้องทั่วไป โตมาก็เข้าโรงเรียนเดียวกัน พอเข้ามหาวิทยาลัยก็อยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน จากสิ่งแวดล้อมที่เราเติบโตมาด้วยกัน จึงทำให้ความชอบและไม่ชอบของเรามีความใกล้เคียงกันมาก”
เมฆ เกรียงไกร เล่าว่า หลังจากเรียนจบเริ่มทำงาน มีช่วงหนึ่งที่แยกกันไปประมาณ 3-4 ปี เพื่อไปทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำ และจากการแยกกันครั้งนั้น อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราสองคนเริ่มมีความแตกต่างกัน เนื่องจากช่วงเวลาที่เราแยกกัน พี่ได้เข้าร่วมงานกับบริษัทขนาดเล็ก ขณะที่พี่หมอกได้เข้าร่วมงานกับบริษัทขนาดใหญ่
จากปัจจัยดังกล่าวจึงทำให้เราเริ่มมีความต่างกัน พี่จะมีความเป็นวาไรตี้มากกว่า เราอยู่องค์กรขนาดเล็กจึงทำอะไรได้หลายอย่าง ขณะที่พี่หมอกอยู่องค์กรขนาดใหญ่ จะเน้นไปที่ภาพใหญ่และการกำหนดกลยุทธ์
“พี่จะเป็นคนสมาธิสั้น พี่จะไม่ชอบทำอะไรที่เกิน 1 ชั่วโมง ไม่ลงดีเทลของงาน และชอบอะไรใหม่ๆ ขณะที่พี่หมอกสามารถประชุมในระยะเวลาหลายๆ ชั่วโมงได้ อยู่กับโปรเจกต์หรือทำอะไรได้ในระยะเวลานานๆ และลงดีเทลของงาน”
เมฆ เกรียงไกร เล่าต่อว่า ตลอดระยะเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน ทำให้เราไม่รู้สึกว่าขาดอะไรไป แต่เราเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงออกว่าเป็นห่วงกัน ทั้งที่เป็นห่วงกัน เนื่องจากฟอร์มเยอะ เวลาคุยกันก็จะคุยกันแบบปกติ และออกแนวกวนๆ การแสดงออกแบบนี้อาจเป็นเพราะความเบื่อในตอนเด็กที่อยู่ใกล้ชิดกัน เรียนด้วยกัน นอนห้องเดียวกัน ใส่เสื้อผ้าเหมือนกัน
“ตอนที่พี่หมอกไปเยอรมนีเจอกีต้าร์เบสที่พี่ชอบ พี่หมอกรู้ว่าพี่ชอบกีต้าร์แบบนี้ก็ซื้อมาฝาก ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่เวลาไปเมืองนอกจะซื้อของมาให้กัน ตอนให้ก็จะวางไว้บนโต๊ะ เป็นที่รู้กันว่าซื้อของมาให้ เพราะเราไม่ถนัดแสดงออก ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าเราเป็นผู้ชายกันทั้งคู่”
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แฝดสองพี่น้องเริ่มมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่แตกต่างกันไป เมื่อก้าวสู่วัยผู้ใหญ่นั่นก็คือ การที่ต่างคนต่างมีครอบครัว หมอกจะมีลูกสาว ขณะที่เมฆยังไม่มี และแม้ว่าระยะเวลาจะทำให้แฝดพี่น้อง เมฆ เกรียงไกร และหมอก เกรียงกานต์ จะมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันไป แต่โดยลึกๆ แล้วสองศรีพี่น้องยังคงมีความเหมือน เพื่อทำให้ความแตกต่างที่เกิดขึ้นเป็นจิ๊กซอว์ที่ต่อกันได้อย่างลงตัว เห็นได้จากความสำเร็จของธุรกิจอีเวนต์ อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ที่สองพี่น้องนั่งบริหาร ปัจจุบันกลายเป็นบริษัทอีเวนท์ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ และระดับภูมิภาคอาเซียนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว