อัญมณีแห่งท้องทะเลการเรียนรู้ที่ไม่หยุดอยู่แค่เปลือก
ห้วงแรกที่เดินเข้ามาที่นี่เข้าใจไปเองว่าเรามาเสียเที่ยวหรือเปล่า กะไอ้แค่เปลือกหอยมันจะน่าสนใจตรงไหน
โดย...พงศ์ พริบไหว
ห้วงแรกที่เดินเข้ามาที่นี่เข้าใจไปเองว่าเรามาเสียเที่ยวหรือเปล่า กะไอ้แค่เปลือกหอยมันจะน่าสนใจตรงไหน เอาเข้าจริงๆ พอคิดได้อีกที ผมก็เดินหลงเข้าไปในโลกของหอยเกือบ 2 ชั่วโมง ด้วยเพราะไอ้สิ่งมีชีวิตที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายไปกับธรรมชาติ เช่น เหล่าหอยเบื้องหน้า มีหลายสิ่งที่น่าอัศจรรย์ชวนให้หยุดชื่นชมได้มิรู้เบื่อ
สถานที่แห่งนั้นที่ผมกำลังพูดถึงคือ “พิพิธภัณฑ์หอยกรุงเทพฯ” จากคำบอกกล่าวของเจ้าหน้าที่ผู้ให้ความรู้ ที่นี่มีความเป็นมาเช่นนี้ครับ สืบเนื่องจากความชื่นชอบในความมหัศจรรย์และความสวยงามของเปลือกหอย ทำให้คุณอรพิน ศิริรัตน์ นักธุรกิจด้านอัญมณี ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นร่วมกันกับเพื่อนอย่างคุณ สมหวัง ปัทมคันธิน สุดยอดแชมป์จากรายการแฟนพันธุ์แท้เรื่องเปลือกหอย 2 สมัย ทั้งคู่หวังว่าเมื่อเอาสิ่งที่รักมาจัดแสดงจะเปิดโลกทัศน์ในการเรียนรู้ให้กับนักเรียน นักศึกษา และนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี เสมือนเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้
ทั้งคู่ศึกษาเรื่องหอยกันมายาวนาน จึงเข้าใจเรื่องของเปลือกหอยเป็นอย่างดี และด้วยความชอบจึงเก็บรวบรวมหอยชนิดต่างๆ ทั่วโลก สะสมไว้เป็นจำนวนมาก ก่อนนำออกแสดงเป็นรูปแบบพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ใจกลางกรุงเทพฯ อย่างที่เห็น ภายใต้แนวความคิดที่ว่าเปลือกหอยมิใช่แค่เปลือกของสิ่งมีชีวิตเล็กๆ หากแต่เป็นอัญมณีแห่งท้องทะเลที่มีค่า
ก่อนอื่นต้องขอเล่าถึงการเดินทางมาพิพิธภัณฑ์แห่งนี้กันเสียหน่อย ที่นี่ค่อนข้างจะหาไม่ยากแต่หากไม่สังเกตก็จะไม่เห็น เพราะตัวอาคารถูกกลืนไปกับตึกพาณิชย์อื่นๆ เอาพอเข้าใจง่ายๆ ว่า ที่นี่อยู่หัวมุมถนนสีลมซอย 23 เลย เยื้องสี่แยกโรงพยาบาลเลิดสิน หากจะมาให้ง่ายแนะนำนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีสุรศักดิ์ จากนั้นเดินมาอีกนิดหน่อยก็จะเจอกับป้ายพิพิธภัณฑ์รูปหอย ซึ่งที่นี่มีค่าใช้จ่ายนิดหน่อยคนละ 100 บาท ในการเข้าชม แต่สำหรับนักเรียนนักศึกษามากันเป็นกลุ่มราคาค่าเข้าก็จะถูกลงมาก
ในส่วนของตัวพิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็น 3 ชั้น เริ่มกันตั้งแต่ชั้นแรกซึ่งจัดแสดงเปลือกหอยขนาดใหญ่หลากหลายชนิด รวมถึงหอยหายากอย่างหอยมือเสือยักษ์หอยสองฝาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีหอยสังข์ทะนานมงกุฎจากออสเตรเลีย หอยเท้าช้างชนิดต่างๆ และบรรดาเม่นทะเลสีสันสวยงาม ซึ่งมีเพื่อเรียนรู้ในเรื่องของห่วงโซ่อาหารของหอย ถัดไปชั้น 2 เป็นส่วนจัดแสดงเปลือกหอยสีสันสวยงามจากทั่วโลก เช่น หอยแครงหัวใจ หอยแต่งตัว หอยพระอาทิตย์ หอยเกลียวชั้นญี่ปุ่น หอยเชลล์ เป็นต้น บริเวณชั้นนี้เล่นเอายืนมองอยู่นาน โดยเฉพาะกลุ่มหอยแต่งตัว ซึ่งพวกนี้จะมีลักษณะของเปลือกเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้งสีสันและความสวยงาม
นอกจากนี้ ยังมีหอยสังข์ที่มีความสำคัญในพิธีทางศาสนาพราหมณ์ ซึ่งหอยแต่ละประเทศมีรูปร่างต่างกันไป รวมถึงหอยสังข์ที่มีการขมวนไปทางซ้าย ซึ่งเป็นลักษณะที่เรียกได้ว่าสามารถพบเห็นได้ยากมาก จากนั้นเดินขึ้นไปอีกหน่อยก็จะเป็นชั้นสุดท้าย จัดแสดงเปลือกหอยทะเลน้ำลึก เปลือกหอยหายาก กลุ่มหอยนักล่าทั้งมีพิษและไม่มีพิษ เปลือกหอยน้ำจืด และเปลือกหอยทากบก ทากต้นไม้ ไปจนถึงหอยทาก หอยทะเลน้ำลึก ในชั้นนี้ความเด่นจะอยู่ที่ หอยนมสาวน้ำลึก ซึ่งรู้จักกันในนามหอยมรณะ บอกเลยว่าเห็นสวยๆ แต่แอบร้ายยิ่งกว่างู เพราะสามารถฆ่าชีวิตมนุษย์ได้ภายในเวลาเพียงไม่ถึงสามนาที สำหรับหอยน้ำจืดก็จัดแสดงพวก หอยกาบแม่น้ำ หอยทากที่มีสีสันสวยงามดูน่ารักน่าเอ็นดู
ด้วยเพราะความหลากหลายของพิพิธภัณฑ์หอยกรุงเทพฯ ตรงนี้เองเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ผู้เข้าชมเพลินเพลิน เรียกได้ว่าหากใครมาสัมผัสบรรยากาศหอยๆ ของที่นี่ จะทึ่งกับความสำคัญและวิวัฒนาการที่สืบเนื่องมานับล้านปี อีกทั้งต้องบอกเลยว่าทุกพื้นจัดแสดงมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยที่สามารถดึงดูดให้เข้าไปทำความเข้าใจเยอะมาก ทำให้เพลินเพลินและได้ความรู้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งที่นี่ก็จะระบุข้อมูลสำคัญๆ ของหอยชนิดต่างๆ และแบ่งแยกประเภทของหอยไว้อย่างชัดเจน หากใครสงสัยอะไรสามารถสอบถามหาความรู้จากวิทยากรประจำพิพิธภัณฑ์ได้เลย เพราะสามารถให้ความรู้ได้ครอบคลุมและทำให้เข้าใจความเป็นมาของเปลือกหอยชนิดต่างๆ ที่มาจากทั่วโลก
คงไม่ง่ายหลอกครับที่ครั้งหนึ่งเราจะได้เห็นสิ่งมีชีวิตหนึ่งมีความหลากหลายและมหัศจรรย์ได้เช่นนี้ หากยังคิดไม่ออกว่าวันหยุดอันใกล้นี้จะพาลูกๆ ไปไหน ที่นี่เปิดทำการทุกวันไม่มีวันหยุด เข้าชมกันได้ตั้งแต่เวลา 10.00-18.30 น. ที่สำคัญเด็กอายุไม่เกิน 4 ขวบดูฟรี