อิศริยา สายสนั่น...สุขใจในบทบาทผู้จัดละคร
มีคนเคยพูดกับผมไว้ว่า “คนเรามีโอกาสดีๆ เข้ามาในชีวิตเพียงไม่กี่ครั้ง เมื่อเข้ามาจงรีบคว้าไว้”
โดย...ตุลย์ จตุรภัทร ภาพ วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี
มีคนเคยพูดกับผมไว้ว่า “คนเรามีโอกาสดีๆ เข้ามาในชีวิตเพียงไม่กี่ครั้ง เมื่อเข้ามาจงรีบคว้าไว้” ตอนแรกก็เชื่อในคำพูดนี้ แต่พอได้มาพูดคุยกับนางเอกสาวที่เอาดีทางด้านละครแนวดราม่าที่ผันตัวมาเป็นผู้จัดละครทางช่อง 8 อย่าง “เอ๊ะ อิศริยา สายสนั่น” เธอกลับทำให้ผมเปลี่ยนความเชื่อ ด้วยคำพูดของเธอที่ว่า “คนเรามีโอกาสดีๆ เข้ามาในชีวิตเสมอ อยู่ที่เรามองเห็น และคว้ามันไป”
“เอ๊ะผันตัวมาเป็นผู้จัดละครทางช่อง 8 ได้ 2 เรื่องแล้วค่ะ เรื่องแรกคือ ข้าวนอกนา เรื่องที่สองคือ ผัวชั่วคราว ซึ่งตอนนี้กำลังเข้มข้นเลยทีเดียวค่ะ”
ด้วยโอกาสดีๆ ที่เธอได้รับจากผู้ใหญ่ทางช่อง 8 อย่าง เฮียฮ้อสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ และ ดร.โด่งองอาจ สิงห์ลำพอง ให้ผลิตละครที่แซ่บโดนใจคนดู ทำให้เธอเลือกที่จะทำละครที่มาจากบทประพันธ์จากนักเขียนชื่อดัง ทั้งสีฟ้า (ม.ล.ศรีฟ้า มหาวรรณ) และ นันทนา วีระชน ซึ่งเป็นละครแนวดราม่า แต่ให้ข้อคิดที่ดีแก่คนดูทั้งสิ้น
“ต้องบอกเลยว่าเอ๊ะเป็นคนชอบละครแนวดราม่า และเกิดจากละครแนวนี้ เอ๊ะว่าละครแนวนี้มีเสน่ห์ พอมีโอกาสได้มาเป็นผู้จัดละคร เลยเลือกที่จะทำละครแนวดราม่าเข้มข้น โชคดีที่เอ๊ะได้ทำละครที่มาจากบทประพันธ์ของแม่สีฟ้า และอาป๊อก นันทนา ทำให้เอ๊ะมั่นใจว่า ความสนุกของละคร คนดูได้รับแน่นอน และนักเขียนรุ่นนี้ไม่มีทางปล่อยแน่นอน นั่นคือข้อคิดที่ดีที่แทรกอยู่ในละครของพวกเขา”
สำหรับบทประพันธ์เรื่อง ผัวชั่วคราว อิศริยาเผยว่า เธอได้สิทธิในการทำเรื่องนี้มาด้วยความบังเอิญ “ตอนแรกเอ๊ะติดต่ออาป๊อกเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ ณ ตอนนั้นติดสัญญากับช่องอื่นอยู่ แล้วโลกกลมมาก อาป๊อกเป็นเพื่อนคุณป้าเอ๊ะ คุณป้าอยู่อเมริกา พอคุณป้ากลับมา ก็พากันไปหาอาป๊อกที่อยุธยา อาป๊อกกรุณาเอ๊ะมาก พอคุยแนวทางการทำงานกันไปมา อาป๊อกก็นำเสนอเรื่องนี้ เพราะคิดร่วมกันว่าเรื่องนี้น่าจะแซ่บ จัดจ้าน และให้สาระกับคนดู จำได้ว่า พอได้บทประพันธ์เรื่องนี้มา เอ๊ะอ่านรวดเดียวจบ อ่านไม่ถึงวันด้วยซ้ำ ยิ่งจินตนาการไปได้ไม่มีเบื่อ เอ๊ะเลยคิดว่าถ้าเราเอามาทำเป็นละคร คนดูต้องชอบแน่ๆ”
อิศริยากล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า ละครเรื่องนี้มันเป็นมุมมืดที่คนไม่ค่อยกล้าพูดกัน แต่มันมีจริงๆ ในสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของชายหนุ่มที่ทำงานในบาร์โฮสต์ หรือชีวิตของผู้หญิงสองคนที่เป็นแม่ลูกกัน แต่ต้องมาเกี่ยวพันกับผู้ชายคนเดียวกัน
“เอ๊ะสงสารความเป็นแม่ของตัวละครในเรื่อง เอ๊ะไม่เคยเป็นแม่ แต่เอ๊ะสัมผัสความรู้สึกของเขาได้ ในเรื่องของแม่กับลูกมีแฟนคนเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้มันเกิดขึ้นในสังคมไทยได้จริงๆ อีกทั้งทุกตัวละครมีปมหมด พอปมของแต่ละตัวละครมาปะทะกัน โหย เรื่องมันเข้มข้นมาก (หัวเราะ)”
สำหรับคนที่จะมารับบทเป็นแม่ในเรื่อง ไม่ใช่ใคร คุณแม่ลูกสองอย่าง นุสบา ปุณณกันต์ นั่นเอง “ตอนแรกที่เอ๊ะได้อ่านบทประพันธ์ เอ๊ะถามแม่ว่า แม่นึกถึงใคร แม่ของเอ๊ะบอกว่า ต้องเป็นนุสบาเท่านั้น พอเอ๊ะไปคุยกับพี่โด่ง ผู้บริหารช่อง พี่โด่งก็บอกว่าต้องเป็นนุสบา ซึ่งพี่นุสมันใช่หมด มีความเป็นแม่ สวย สง่า และมีความเป็นนักแสดงนำ และไปด้วยกันกับนักแสดงคนอื่นๆ ได้ อย่างบทพระเอก เราก็เรียกคนมาแคสเยอะมาก จนพี่โด่งบอกว่าลองเอาฟลุค จิระ มาแคสมั้ย ซึ่งเขาก็ทำได้ แต่สิ่งที่เขามี คือความอยากที่จะเล่น ซึ่งเอ๊ะว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้านักแสดงไม่มีความอยากที่จะเล่น ก็จะเล่นแบบเล่นไปเรื่อยๆ ไม่มีพลังในการแสดง ส่วนคนรับบทลูกสาว เป็นนักแสดงใหม่ ชื่อ ฟ้า อริสรา ตอนแคสครั้งแรก เขายังพูดเป็นเด็กน้อยอยู่ เอ๊ะเลยให้เขาฝึกพูด แต่เขาเล่นซีนอารมณ์ได้ดีนะ ร้องไห้ได้สวยมากด้วย เอ๊ะเลยแอบบอกคนเขียนบทให้ใส่บทร้องไห้ไปเยอะๆ เพราะน้องฟ้าเล่นซีนนี้ได้ถึงใจ
ในส่วนของการถ่ายทำ บอกได้เลยว่า กองละครเรื่องนี้ทำงานกันได้ราบรื่นมาก กลับบ้านทีไร สบายใจทุกครั้ง เอ๊ะว่าเอ๊ะโชคดีที่นักแสดงทุกตัวแสดงได้อย่างใจหมด ทำงานด้วยแล้วมีความสุข”
สำหรับละครเรื่อง ผัวชั่วคราว ตอนนี้ก็ผ่านไปแล้ว 12 ตอน อิศริยาเผยว่า ความเข้มข้นของเรื่อง คือ ตัวแม่กับลูกกำลังจะรู้แล้วว่าเป็นแม่ลูกกัน “ขอบอกว่าตอนที่แม่กับลูกรู้ว่าทั้งคู่เป็นแม่ลูกกัน มันพีกมาก แล้วเรื่องราวในบาร์โฮสต์ก็พีกมากๆ เช่นกัน คนดูพลาดไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว (หัวเราะ)”
สำหรับหลักการทำงานของผู้จัดละครสาวสวยท่านนี้ เธอเผยว่า หากเราชัดเจนในสิ่งที่เราเลือกทำ เราจะทำงานด้วยความสุข ไม่เหนื่อย แม้บางงานเราเลือกทำไม่ได้ แม้บางงานเราไม่อยากทำ แต่หากเราหาข้อดีในงานนั้นๆ เราจะทำงานนั้นได้ดีขึ้น
“นอกเหนือจากการทำงาน เอ๊ะก็พยายามออกกำลังกาย ตอนนี้ก็ออกกำลังกายกับที 25 ยิ่งเราขยันออกกำลังกาย ยิ่งทำให้เราหลับสบายมากขึ้น ทำให้เอ๊ะคิดว่า เราขยันออกกำลังกายหน่อย เราจะมีสุขภาพดี ออกกำลังกายได้เองที่บ้าน ไม่เสียเงินด้วย ร่างกายแข็งแรงด้วย”
กับความรัก อิศริยาเผยว่า ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม “แม่ไม่ได้หวงนะ เพราะเราโตแล้ว ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพียงแต่เอ๊ะไม่ชอบคนที่ชอบจุกจิก และเอ๊ะยอมรับว่าเอ๊ะติดแม่ เอ๊ะมีแม่อยู่ด้วย เลยไม่รู้สึกขาดอะไร แต่ถ้าวันหนึ่งมันจะมี ก็คือมี เอ๊ะไม่กลัวขึ้นคานนะ คานสำหรับเอ๊ะ มันแค่ไม่แต่งงานแค่นั้นเอง เป้าหมายชีวิตของเราไม่ได้อยู่ตรงนั้น เราไม่ได้แอนตี้ผู้ชายด้วยนะ ถ้ามีแล้วโอเคก็ดี แต่อยากมีมั้ย ก็เฉยๆ”
กับคุณแม่ของเธอ เธอเผยว่า ตั้งแต่เป็นผู้จัดละคร คุณแม่ของเธอช่วยเธอในเรื่องของมุมมองการดำเนินธุรกิจได้มากที่สุด “อย่างตอนยกกอง เราต้องทิ้งเงินไปเลยวันละแสน แม่ก็บอกเอ๊ะว่า ถ้ามีปัญหาก็แก้ไขไป ถ้าต้องตัดใจเรื่องเงินก็ตัดใจไป แม่ถามว่าสิ่งที่เราทำเรามีความสุขมั้ย ถ้ามี เราจะมัวไปทุกข์ทำไม แต่ถ้าเรามัวแต่ไปเครียด มันจะเสียสุขภาพจิต มันจะดีกับตัวเราได้ยังไง พอแม่เตือนสติอย่างนี้ เอ๊ะก็ปล่อยวางขึ้น ทำให้คิดได้ว่า ทุกปัญหาแก้ไขได้จริงๆ”
อิศริยาเผยว่า ตอนนี้เธอมีความสุขกับการเป็นผู้จัดละคร ทั้งภูมิใจ ทั้งดีใจ ที่ได้ทำงานนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย “แต่ทุกอย่างก็อยู่ที่คนดู อยู่ที่ช่อง ภายในสามปีห้าปีนี้ เอ๊ะจึงขอสะสมประสบการณ์การเป็นผู้จัดให้ดีที่สุด และพยายามหาสิ่งที่แปลกใหม่มามอบให้กับคนดู ส่วนการแสดง ถ้าจังหวะเหมาะสม เอ๊ะกลับไปเล่นแน่นอนค่ะ”
กับคำว่า...โอกาส
“เอ๊ะไม่เคยคิดจะมาเป็นดารา แต่โชคดีที่เราได้เจอพี่ๆ หลายๆ คนที่ให้โอกาสเรา อย่างพี่อุ๊บ วิริยะ (พงษ์อาจหาญ) พี่ตุ๊กตา (จิตรลดา ดิษยนันท์) กันตนา พี่หน่อง อรุโณชา (ภาณุพันธุ์) เฮียฮ้อ สุรชัย กับพี่โด่ง องอาจ ทำให้เอ๊ะได้รับโอกาสที่ดีจริงๆ ในเมื่อเราสามารถให้โอกาสดีๆ กับน้องๆ รุ่นหลังๆ ได้ เราก็ให้อย่างเต็มที่ แต่คนสำคัญที่สุดที่ให้โอกาสเอ๊ะมาตลอดทั้งชีวิต คือคุณแม่ ขอบคุณคุณแม่ที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอดค่ะ"