"แหม่ม-จินตหรา"รำลึกถึง โรบิน วิลเลียมส์

โดย...Magz ออนไลน์

แหม่ม-จินตหรา สุขพัฒน์ นักแสดงชื่อดังของไทยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการจากไปของ โรบิน วิลเลียมส์ นักแสดงชื่อดังฮอลลีวู้ดว่า คาดไม่ถึงและรู้สึกเศร้าอย่างมาก เพราะตอนที่เคยร่วมงานในหนัง “กู๊ด มอร์นิ่ง เวียดนาม” ที่ออกฉายเมื่อปี 1987 หรือพ.ศ.2530 นั้น รู้สึกประทับใจถึงความอารมณ์ดีและมิตรภาพที่มีให้นักแสดงหน้าใหม่ของไทยในขณะนั้น โดยไม่ถือตัวว่าเป็นดาราฮอลลีวู้ดที่โด่งดังระดับโลก

“ได้เจอกับคุณโรบิน วิลเลียมส์ ตอนเข้าฉากด้วยกันในหลายๆ ฉาก ทั้งที่ถ่ายทำในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต เวลาแสดงเขาจะจริงจังแต่อารมณ์ดี ตอนนั้นแหม่มก็ยังเป็นนักแสดงหน้าใหม่ เขาก็พูดคุยด้วยดีแถมยังชมว่า เวลาเล่นบทร้องไห้สามารถร้องไห้ออกมาได้ทันทีทุกเทก ซึ่งเขาทึ่งมาก”

จินตหรายังบอกว่า โรบิน วิลเลียมส์ อารมณ์ดีและตลกกับทุกคนในกองถ่าย เธอไม่ได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับเขามานักในขณะนั้น เพราะภาษาอังกฤษไม่ดีมาก ได้แต่ทักทายถามสารทุกข์สุกดิบกันเฉยๆ

“เวลาแสดงเขาจะเพิ่มบทพูดของเขาเองเข้ามา ซึ่งผู้กำกับการแสดง แบรี่ เลวินสัน ก็ไม่ได้ว่าอะไร บางทีแหม่มก็งง เพราะท่องบทมาเพื่อจะรับประโยคที่เขาจะพูดออกมาอย่างนี้ พอเขาเห็นเราไปไม่ทัน เขาก็พูดประโยคตามบทออกมาเพื่อให้เราต่อบทได้”

เมื่อได้รับทราบข่าวการจากไปของ โรบิน วิลเลียมส์ จินตหราบอกว่า เธอรู้สึกเศร้ามาก เพราะเวลาเห็นเขาผ่านทางหนังหรือทีวีก็ยังระลึกถึงอยู่เสมอ ไม่คาดคิดว่าเขาจะเลือกใช้วิธีการนี้ในการจากไป

“อ่านที่หลายคนโพสต์ในเฟสบุ๊กแล้วก็เศร้า แหม่มก็ไว้อาลัย RIP ในหน้าเฟซบุ๊กของตัวเอง เราก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนี้ ชีวิตส่วนตัวชีวิตครอบครัวของเขาเป็นอย่างไร แต่เท่าที่สัมผัสเขาเป็นคนอารมณ์ดีแต่จริงจังกับชีวิต อย่างฝรั่งเขาเป็นครอบครัวเดี่ยว เพราะฉะนั้นที่ปรึกษาหรือคนคอยปลอบประโลมคงมีน้อย เพราะนั้นเมื่ออยู่คนเดียวจึงมีผลอย่างมาก”

แม้เวลาจะผ่านไปถึง 27 ปี หนัง “กู๊ดมอนิ่ง เวียดนาม” ก็ยังอยู่ในความทรงจำของคนทั่วโลก เรื่องราวของดีเจหนุ่มที่ถูกส่งตัวมาเพื่อทำหน้าที่จัดรายการวิทยุ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ทหารในกองทัพที่ประจำการรบในสงครามเวียดนาม โดย จินตหรา สุขพัฒน์ รับบท ตรินห์ สาวเวียดนามที่ เอเดรียน โครเนอร์ ซึ่งนำแสดงโดย โรบิน วิลเลียมส์ หลงรัก โดยเขาได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ นักแสดงชายยอดเยี่ยม สาขาหนังตลก / เพลง รางวัล BAFTA ในสาขานักแสดงชายยอดเยี่ยม และรางวัลพิเศษจาก Political Film Society, USA ในฐานะภาพยนตร์เพื่อสันติภาพ พร้อมเข้าชิง Oscar ในรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยม ปี 1988 จากหนังเรื่องนี้ด้วย