ล่าฝันสุดขอบฟ้า ไมร่ามณีภัสสร มอลลอย

23 สิงหาคม 2557

ก่อนอื่นผมคงต้องขอแสดงความเสียใจกับน้องไมร่า “มณีภัสสร มอลลอย” ที่ไม่สามารถเข้ารอบ 4 คนสุดท้าย

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร

ก่อนอื่นผมคงต้องขอแสดงความเสียใจกับน้องไมร่า “มณีภัสสร มอลลอย” ที่ไม่สามารถเข้ารอบ 4 คนสุดท้าย ในการประกวดร้องเพลงรายการ Rising Star ที่ออกอากาศทุกคืนวันอาทิตย์ ทางช่องเอบีซี ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ตามที่เธอมุ่งหวังไว้ ทำให้เธอพลาดโอกาสก้าวไปสู่รอบตัดสินที่จะมีขึ้นในคืนพรุ่งนี้ โดยผู้ชนะในรายการนี้จะได้รับเงินรางวัลเป็นจำนวนถึง 1 แสนเหรียญสหรัฐ พร้อมกับได้เป็นนักร้องออกอัลบั้มในสังกัดแคปปิตัล เรคคอร์ดส

ไม่ว่าน้องไมร่าจะตกรอบไปแล้ว แต่ในความรู้สึกของคนไทยคนหนึ่ง ผมกลับชื่นชมในความมุ่งมั่นของสาวน้อยวัย 16 ปีคนนี้ ทั้งๆ ที่เธอเป็นแชมป์รายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 1 มาแล้ว แต่เธอไม่หยุดความฝันไว้แค่นั้น เธอและครอบครัวจึงย้ายไปอยู่สหรัฐอเมริกา โดยเธอและน้องสาวเข้าเรียนที่เบเวอร์ลี ฮิลส์ ไฮสกูล ณ ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อก้าวเดินตามความฝันขั้นสูงสุด นั่นคือการได้เป็นนักร้องโด่งดังที่อเมริกา ได้มีเพลงและมีอัลบั้มเป็นของตัวเอง

ด้วยความชื่นชม ผมจึงติดต่อกับคุณแม่ของน้องไมร่า “อัมพร มอลลอย” โดยส่งคำถามไปให้คุณแม่ผ่านทางเฟซบุ๊ก และคุณแม่ของน้องไมร่าก็ได้ช่วยสัมภาษณ์ให้กับโพสต์ทูเดย์เป็นกรณีพิเศษ พร้อมส่งคลิปเสียงสัมภาษณ์และรูปถ่ายน้องไมร่ามาให้ด้วย ซึ่งต้องขอขอบคุณคุณแม่อัมพร ที่ช่วยเป็นธุระในการสัมภาษณ์น้องไมร่าในครั้งนี้ให้เป็นอย่างดี

และนี่คือความในใจของสาวน้อยวัย 16 ปี ที่ไม่อาจทำความฝันในครั้งนี้ได้สำเร็จ

ล่าฝันสุดขอบฟ้า ไมร่ามณีภัสสร มอลลอย

 

ไม่ได้หวังเป็นผู้ชนะ เพราะรู้ว่ามันยากมาก

“ถึงแม้ว่าไมร่าจะตกรอบ 4 คนสุดท้ายไป แต่ไม่ร่าคิดว่าตัวเองเดินทางมาได้ไกลขนาดนี้ก็ดีใจมากๆ แล้ว เพราะมีคนเก่งเยอะมากๆ ไมร่ายอมรับว่าเพลง Chandelier ที่ไมร่าร้องในคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (วันที่ 17 ส.ค.) ถือว่ายากมาก เครียดและกดดันมากๆ ด้วยค่ะ”

ไมร่าบอกกับเราว่า หลังจากนี้นอกจากเธอจะกลับไปเรียนหนังสือ ที่ตอนนี้เรียนอยู่เยียร์ 12 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายแล้ว เธอคงจะรอดูว่าจะมีอะไรให้ทำต่อไป ถ้ามี เธอก็จะทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด เพื่อความฝันขั้นสูงสุด

“สำหรับรายการไรซิ่ง สตาร์ ไมร่ารักรายการนี้มากๆ ค่ะ ทุกคนในรายการนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ พิธีกร กรรมการ ทีมงาน ทุกคนน่ารักและดีกับไมร่ามากๆ ไม่ร่าอยากขอบคุณรายการนี้ที่มอบโอกาสดีๆ นี้ให้ มันเป็นสิ่งที่ดีมากๆ ไมร่าอยากจะขอบคุณทุกคนมากๆ ขอบคุณแฟนเพลงและคนไทยทุกคนที่คอยให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างไม่ร่ามาโดยตลอด ที่สำคัญที่สุด ขอบคุณครอบครัวของไมร่าที่คอยมาเป็นกำลังใจให้ตลอดการแข่งขัน”

ล่าฝันสุดขอบฟ้า ไมร่ามณีภัสสร มอลลอย

 

หากย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ที่ไมร่าตัดสินใจสมัครทางออนไลน์เพื่อเข้าร่วมประกวดร้องเพลงรายการนี้ ไมร่า เผยกับเราว่า เธอเห็นว่ารายการนี้เป็นช่องทางที่ดีที่จะทำให้คนสามารถเห็นความสามารถของเธอได้ และทำให้เธอสามารถทำโปรเจกต์ต่างๆ ได้มากขึ้น หากคนได้เห็นเธอผ่านทางโทรทัศน์

“จากผู้เข้าแข่งขันทั่วทั้งประเทศเป็นจำนวนถึง 3 หมื่นกว่าคน แถมการออดิชั่นยังมีหลายรอบมากๆ กว่าจะมาถึงรอบ 6 คนสุดท้าย บอกได้เลยว่ายากหมดทุกรอบ ไมร่าเป็นกังวล แต่ก็ต้องทำให้ดีที่สุด แสดงให้ดีที่สุด ต้องซ้อมหนักอยู่ตลอดเวลา เพราะในความรู้สึกของไมร่า ผู้เข้าแข่งขันทุกคนน่ากลัวหมด ทุกคนเก่งและมีประสบการณ์มากกว่า แถมยังมีความพิเศษในแบบฉบับของตัวเอง แม้ว่าไมร่าไม่ได้หวังว่าจะได้เป็นผู้ชนะ เพราะรู้ว่ามันยากมาก แต่ก่อนทำการแสดง ไม่ร่าต้องตั้งสติ และทำให้ตัวเองใจเย็นเข้าไว้ พยายามนึกถึงเพลงที่ตัวเองกำลังจะร้อง นึกถึงแฟนเพลง นึกถึงทุกๆ คน ไหว้พระสวดมนต์ด้วยค่ะ เพื่อที่ไมร่าจะได้ทำการแสดงออกมาได้ดีสมความตั้งใจ”

ล่าฝันสุดขอบฟ้า ไมร่ามณีภัสสร มอลลอย

 


กับรูปแบบรายการ Rising Star

ใครหลายคนที่เฝ้าติดตามการแข่งขันการประกวดร้องเพลงจากรายการนี้ คงรู้ดีว่ารายการนี้มีรูปแบบเป็นอย่างไร แต่สำหรับคนที่เพิ่งติดตามรายการนี้ และอยากลุ้นว่าใครจะได้เป็นแชมป์ในคืนวันพรุ่งนี้ ก็จะขอบอกว่า รายการไรซิ่ง สตาร์ เป็นรายการที่เบส ออน มาจากรายการที่มีชื่อว่า HaKokhav HaBa มีความหมายประมาณว่า ดาวดวงต่อไป เป็นรายการที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยบริษัทแห่งหนึ่งในประเทศอิสราเอล

สำหรับรูปแบบของรายการ รายการนี้จะให้ผู้เข้าแข่งขันกับผู้ตัดสินมีกำแพงที่เป็นจอแสดงภาพกั้นอยู่ โดยเมื่อผู้เข้าแข่งขันขึ้นมาทำการแสดง ผู้ตัดสินจะเลือก “Yes” หรือ “No” ผ่านแอพพลิเคชั่นของทางรายการ โดยทางรายการมีเวลาให้เลือก “Yes” หรือ “No” เพียงคนละ 2 นาทีเท่านั้น ถ้าผู้เข้าแข่งขันมีคะแนนโหวตจากผู้ตัดสิน 70% ขึ้นไป กำแพงก็จะยกสูงขึ้น และผู้เข้าแข่งขันก็จะเข้ารอบทันที แต่ถ้าไม่ถึงก็ตกรอบทันทีเช่นเดียวกัน

ล่าฝันสุดขอบฟ้า ไมร่ามณีภัสสร มอลลอย

 

ในความรู้สึกของผู้ชม การแข่งขันที่มีกำแพงที่เป็นจอแสดงภาพกั้นอยู่นี้ ทำให้ทั้งผู้ชมและผู้เข้าแข่งขันได้รับรู้ถึงพลังของการโหวตจากผู้ตัดสิน ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก เพราะเมื่อผู้เข้าแข่งขันกำลังทำการแสดง ภาพใบหน้าของผู้ตัดสินจะโผล่ขึ้นมาบนกำแพงอยู่ตลอดเวลา ยิ่งถ้า 3 ผู้เชี่ยวชาญประจำรายการ นั่นคือ 3 นักร้องดัง Brad Paisley, Kesha และ Ludacris เลือกกดปุ่ม Yes ให้ ภาพใบหน้าอันใหญ่ยักษ์ก็จะโชว์ที่กำแพง เพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันได้รับรู้ว่าเราทำการแสดงได้เป็นที่น่าพอใจ อีกทั้งคะแนนของผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับจากการกดปุ่ม Yes ของผู้เชี่ยวชาญ ก็จะพุ่งสูงขึ้นมากกว่าเดิมอีกด้วย

สำหรับรายการนี้ เริ่มต้นออกอากาศตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยออกอากาศเป็นเวลา 10 สัปดาห์ โดยสัปดาห์ที่ 1-3 จะเป็นรอบออดิชั่น ที่ให้ 32 ผู้เข้าแข่งขันได้ทำการแสดง และคัดออกจำนวน 12 คน หลังจากนั้น 20 คนที่ผ่านการออดิชั่น จะเข้าแข่งขันในรอบต่อไป นั่นคือรอบการคัดเลือกเป็นคู่ๆ โดยใน 1 คู่ จะมีคนเข้ารอบ 1 คน และคนตกรอบ 1 คน ซึ่งทำการแข่งขันในสัปดาห์ที่ 46 เพื่อคัดเลือกให้เหลือเพียง 10 คนสุดท้าย แต่รอบนี้จะพิเศษตรงที่มีคะแนนช่วยชีวิตจากคะแนนทางฝั่งตะวันตกให้ผู้เข้าแข่งขัน 3 คนสามารถเข้าไปในรอบต่อไปได้ เมื่อถึงสัปดาห์ที่ 7 จะคัดเลือกจาก 13 ให้เหลือเพียง 8 คนสุดท้าย สัปดาห์ที่ 8 คัดเลือกให้เหลือเพียง 6 คนสุดท้าย สัปดาห์ที่ 9 คัดเลือกให้เหลือเพียง 4 คนสุดท้าย เพื่อไปชิงแชมป์ในสัปดาห์ที่ 10 นั่นเอง

ล่าฝันสุดขอบฟ้า ไมร่ามณีภัสสร มอลลอย

 

เส้นทางการแข่งขันของไมร่าในไรซิ่ง สตาร์

ในรอบออดิชั่น สัปดาห์ที่ 1 ไมร่าได้ทำการแสดงเป็นลำดับที่ 3 ในเพลง Con Te Partiro โดยเธอได้คะแนนโหวตจากผู้ตัดสินทางฝั่งตะวันออก 73% ฝั่งตะวันตก 75% ในส่วนของผู้เชี่ยวชาญ แบรด เพสลีย์ และ แคชช่า เลือกกดปุ่ม Yes ให้เธอ ส่วน ลูดาคริส เลือกกดปุ่ม No

ในรอบการคัดเลือกเป็นคู่ๆ ในสัปดาห์ที่ 6 ไม่ร่าต้องทำการแข่งขันกับเพื่อนสนิทที่สุดในรายการนี้ นั่นคือ มอร์แกน ฮิกกินส์ มาในเพลง The Edge of Glory ซึ่งได้คะแนนโหวตจากผู้ตัดสินทางฝั่งตะวันออก 45% ฝั่งตะวันตก 45% ในส่วนของผู้เชี่ยวชาญ แบรด เพสลีย์ และ แคชช่า เลือกกดปุ่ม Yes ส่วน ลูดาคริส เลือกกดปุ่ม No ในส่วนของไมร่า เธอมาในเพลง Gravity เธอได้รับคะแนนโหวตจากผู้ตัดสินทางฝั่งตะวันออก 66% ฝั่งตะวันตก 66% ในส่วนของผู้เชี่ยวชาญ แบรด เพสลีย์ เลือกกดปุ่ม No ส่วน แคชช่า และ ลูดาคริส เลือกกดปุ่ม Yes นั่นหมายความว่า ไมร่าได้เข้ารอบ 13 คนสุดท้ายไปในที่สุด

ในสัปดาห์ที่ 7 ไมร่าเลือกเพลง Stars มาทำการแข่งขัน ไมร่าได้คะแนนโหวตจากผู้ตัดสินทางฝั่งตะวันออก 68% ฝั่งตะวันตก 70% ในส่วนของผู้เชี่ยวชาญ แบรด เพสลีย์ และ แคชช่า เลือกกดปุ่ม Yes ส่วน ลูดาคริส เลือกกดปุ่ม No โดยภาพรวม ไมร่าได้คะแนนมาเป็นลำดับที่ 6 ทำให้เธอเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายไปในที่สุด

ล่าฝันสุดขอบฟ้า ไมร่ามณีภัสสร มอลลอย

 

ในสัปดาห์ที่ 8 ไมร่าเลือกเพลง Your Song มาทำการแข่งขัน ไมร่าได้คะแนนโหวตจากผู้ตัดสินทางฝั่งตะวันออก 46% ฝั่งตะวันตก 55% ในส่วนของผู้เชี่ยวชาญ แบรด เพสลีย์ และ ลูดาคริส เลือกกดปุ่ม No ส่วน แคชช่า เลือกกดปุ่ม Yes ด้วยคะแนนทางฝั่งตะวันออกอยู่ในกลุ่ม 3 คนที่ได้คะแนนน้อย ซึ่งต้องวัดดวงจากคะแนนโหวตจากทางฝั่งตะวันตก ปรากฏว่าคนที่ได้รับคะแนนโหวตเพื่อช่วยชีวิตไว้จากทางฝั่งตะวันตกคือไมร่านั่นเอง ทำให้เธอกลายเป็นผู้เข้ารอบ 6 คนสุดท้ายไปในที่สุด

ในสัปดาห์ที่ 9 เป็นสัปดาห์ที่น่าหนักใจและกดดันไมร่าเป็นที่สุด ไม่ร่าเลือกเพลง Chandelier มาทำการแข่งขัน โดยไมร่าได้คะแนนโหวตจากผู้ตัดสินทางฝั่งตะวันออก 27% ฝั่งตะวันตก 34% ในส่วนของผู้เชี่ยวชาญ แบรด เพสลีย์ และ แคชช่า เลือกกดปุ่ม Yes ให้เธอ ส่วน ลูดาคริส เลือกกดปุ่ม No และเธอก็ต้องตกรอบไป เพราะคะแนนจากทางฝั่งตะวันตกได้น้อยนิดเหลือเกิน จึงไม่อาจช่วยชีวิตเธอไว้ได้ ทำให้เธอต้องหยุดการแข่งขันในรายการนี้ไว้แต่เพียงแค่นี้

สำหรับไมร่า แม้ฝันครั้งนี้จะไม่สำเร็จ แต่เส้นทางของสาวน้อยวัย 16 ปีนี้อีกยาวไกล

Thailand Web Stat