เรียก(พวก)เขาว่าเซเลบริตีเชฟ
เดี๋ยวนี้คนจะดังไม่จำเป็นต้องเป็นดาราเท่านั้น ถ้าคุณเจ๋งจริงไม่ได้เป็นดาราก็ดังได้ ดูอย่างพวกเขา 3 คนนี้สิ ก็ดังไม่แพ้ดาราเหมือนกันนะ เพราะเป็นเซเลบริตีเชฟ
เดี๋ยวนี้คนจะดังไม่จำเป็นต้องเป็นดาราเท่านั้น ถ้าคุณเจ๋งจริงไม่ได้เป็นดาราก็ดังได้ ดูอย่างพวกเขา 3 คนนี้สิ ก็ดังไม่แพ้ดาราเหมือนกันนะ เพราะเป็นเซเลบริตีเชฟ
โดย...อนุสรา ทองอุไร
เดี๋ยวนี้คนจะดังไม่จำเป็นต้องเป็นดาราเท่านั้น ถ้าคุณเจ๋งจริงไม่ได้เป็นดาราก็ดังได้ ดูอย่างพวกเขา 3 คนนี้สิ ก็ดังไม่แพ้ดาราเหมือนกันนะ เพราะเป็นเซเลบริตีเชฟ หรือจะเรียกให้สั้นง่ายได้ใจความว่า (เป็น) เชฟ (แล้ว) ดัง ก็ได้ไม่ว่ากัน
สมัยก่อน ถ้าพูดถึงเชฟ อาจจะมีภาพเดิมๆ ที่เป็นผู้ใหญ่ร่างท้วม แต่งตัวเนี้ยบ ใส่ผ้ากันเปื้อน พูดขำ อำเก่ง จิกกัดตลอดเวลา แต่สำหรับ 3 เชฟรุ่นใหม่ พูดน้อย ต่อยหนัก มาดนุ่มนวล เก๋ๆ แนวๆ ดูแล้วมีองค์ความดังเห็นมาแต่ไกล
ไล่มาตั้งแต่ อิ๊ก-บรรณ บริบูรณ์ เชฟหนุ่มหน้าใสวัย 27 หลายๆ คนคงกรี๊ดไว้ก่อนตั้งแต่เห็นหน้าตาและมาดแบบแนวๆ หน้าตาขนาดนี้ เป็นดาราได้สบายๆ ก็ใช่นะ อย่าง อิ๊ก ก็เคยเล่นมิวสิกวิดีโอมาแล้ว แถมยังเป็น 1 ใน 50 หนุ่มโสดคลีโอ ปี 2007 ซะด้วย
พิธีกรรายการอาหารครัวอินดี้และรายการลีฟวิ่งมันตรา เห็นหน้าตาอ่อนๆ ใสๆ หนุ่มอิ๊กอิมพอร์ตมาจากออสเตรเลีย มีดีกรีการันตีความสามารถในการปรุงอาหารจากมหาวิทยาลัยเจมส์คุก และผ่านประสบการณ์การเป็นเชฟ เมนู ดีไซเนอร์ และถึงระดับ เฮดเชฟ ด้วยวัยเพียง 25 ปีเท่านั้น
โอ้ว! ทั้งหล่อ ทั้งเก่ง นะเนี่ย
อิ๊กบอกว่า ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นเชฟดังเชฟไฮโซอะไร แค่เป็นคนรักการทำอาหาร และคิดว่าเป็นอาชีพที่เหมาะกับตัวเองเท่านั้น งานอื่นๆ ที่เข้ามาถือเป็นของหวานในชีวิตเท่านั้น
รายถัดมา ดูจากรูปร่างหน้าตาบุคลิกก็โดดเด่น แถมทรงผมที่เรียกได้ว่า “แนว” ซะ! ถ้าไปเดินปะกันข้างถนน ใครจะคิดว่าสาวห้าวคนนี้จะมีอาชีพเป็นเชฟล่ะ แต่ก็อีกน่ะนะ
นกหวีด-ภควดี เสรีวิวัฒนา มักจะบอกกับใครต่อใครอย่างเต็มปากว่า เธอเกิดมาเพื่อเป็นแม่ครัว อินกับอาชีพขนาดนี้ ก็เลยขยันคิดค้นสูตรอาหารที่ไม่เหมือนใคร รวมทั้งออกแบบรูปลักษณ์อาหารได้สวยงาม เพราะคิดเสมอว่าอาหารก็คือการทำงานศิลปะ
เส้นทางการเป็นเชฟของนกหวีด เริ่มจากความสนใจทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก และมักจะไปขลุกอยู่กับคุณแม่ในครัวเสมอ พอไปเรียนต่อปริญญาตรีที่สวิตเซอร์แลนด์ด้านกฎหมาย เรียนได้เพียงสัปดาห์กว่าๆ ก็รู้ว่า “ไม่ใช่อ่ะกิ๊บ” เลยทิ้งตำรากฎหมายหันมาพลิกตำราทำอาหารแทนอย่างจริงจัง พร้อมๆ กับฝึกฝีมือด้วยการทำงานไปด้วย
6 ปีของการเรียนทำอาหารจาก 3 สถาบัน นกหวีดใช้ทั้งพรสวรรค์และพรแสวง กระทั่งฝีมือเป็นที่ยอมรับในต่างแดน กลายเป็นเชฟมืออาชีพสอนด้านการทำอาหารให้กับลูกศิษย์ต่างชาติ เธอกลับมาเมืองไทยและเริ่มงานใหญ่โดยการคิดสูตรและอบรมการทำอาหารให้ห้างดังแห่งหนึ่ง และมีงานต่อเนื่องมาเรื่อยๆ ปัจจุบันเป็นฟรีแลนซ์คิดสูตรอาหาร ทำอาหาร พร้อมกับเขียนหนังสือทำอาหาร
นกหวีด เล่าว่า ช่วงเรียนมัธยมเคยเป็นนางเอกมิวสิกวิดีโอกับเขาเหมือนกัน แถมเป็นวีเจให้ โซนี่ บีเอ็มจี หนังก็เล่นมาแล้ว (เรื่อง “คนจรหมอนหมิ่น”) แม้จะมีคนชวนให้เข้า|วงการบันเทิง แต่นกหวีดเลือกที่จะวิ่งตามความฝัน การเกิดเป็น “แม่ครัว” ดีกว่า
ส่วนใครจะว่าเป็นเซเลบเชฟอะไรนั่น เธอส่ายหน้า “ไม่รู้” รู้แต่ว่าเกิดมาเพื่อเป็นเชฟและสนุกกับการทำอาหารเท่านั้นค่า...
รายนี้หน้าใหม่มาแรงส์ ก็แหม!!! นอกจากจะเป็นเชฟอนาคตไกลแล้ว ยังเป็นหวานใจของสาวนุ้ย-สุจิรา อรุณพิพัฒน์ ดาราพิธีกรอีกด้วย
หนุ่มปอนด์-ชยพล หลีระพันธ์ น่ะ อบอุ่นแสนดี ใจดี น่ารัก แถมทำอาหารเก่งมั่กๆ เขาจบด้านอาหารและการโรงแรมมาจากสหรัฐอเมริกา และยังไปเทกคอร์สที่กอร์ดองเบลอมาอีก ตอนเรียนที่อเมริกาก็เรียนดีจนได้ทุนจากมหาวิทยาลัยเดนเวอร์ กลับเมืองไทยก็มาต่อปริญญาโทที่ ศศินทร์ ตอนนี้อายุแค่ 27 ก็เปิดร้านอาหารปาปาปอนด์|พิซซ่า แอนด์ พาสต้า ถึง 4 สาขาแล้ว เรียกว่าทำอาหารฝรั่งก็เก่ง อาหารไทยก็เลิศ
หนุ่มปอนด์บอกว่าตอน 10 กว่าขวบก็มาวิ่งเล่นที่ร้านอาหาร ช่วยเรื่องปิ้งเรื่องย่างมาตั้งแต่เด็ก แถมเป็นคนชอบกิน ความชอบเรื่องการทำอาหารก็ซึมลึกมากขึ้นเรื่อยๆ ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น เพราะคุณแม่มัลลิการ์นั้นมีร้านอาหารอยู่หลายแบรนด์ น้องสาวก็เพิ่งจบด้านอาหารจากอังกฤษ เรียกว่าเป็นครอบครัวที่เอาดีด้านธุรกิจอาหารอย่างแท้จริง เงินหนาดี มีความสามารถ อนาคตรุ่งไม่หยุดฉุดไม่อยู่แน่ๆ...
สำหรับตำแหน่ง “เซเลบริตีเชฟ” ปอนด์บอกว่า เขาแค่เป็นคนรักการทำอาหารและมุ่งมั่นกับอาชีพนี้จริงๆ ไม่คิดว่าจะเป็นเชฟไฮโซอะไร “แค่ทำอาหารอร่อยคนมากินแล้วชมแค่นี้ก็สุขใจแล้วครับ”