posttoday

มนต์เสน่ห์ แห่งความเรียบง่าย

06 กันยายน 2557

บางครั้งความสุขก็อาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยี หรือแสงสีเสียงที่มีให้พบเห็นอยู่รอบตัวภายในเมืองใหญ่ก็เป็นได้

โดย...กิจจา อภิชนรจเรข

บางครั้งความสุขก็อาจจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยี หรือแสงสีเสียงที่มีให้พบเห็นอยู่รอบตัวภายในเมืองใหญ่ก็เป็นได้ แต่อาจจะเป็นความเงียบสงบท่ามกลางขุนเขาและสายหมอก ในเมืองเล็กๆ ที่ธรรมชาติอยู่รอบๆ ตัวก็ได้ครับ

“สังขละบุรี” อาจจะเป็นชื่อที่คุ้นหูใครหลายๆ คน เนื่องจากที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่สวยงามควบคู่กันไป จนทำให้เมืองนี้ต้องต้อนรับนักเดินทางจำนวนไม่น้อยในแต่ละปีแต่ละวันที่เดินทางเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งมีทั้งคนไทยและคนต่างชาติในประเทศเพื่อนบ้าน หรือแม้จะไกลออกไปถึงคนละซีกโลกยังคงเดินทางมาสัมผัสความสวยงามของเมืองสังขละบุรีแห่งนี้ อยู่ใน จ.กาญจนบุรี

ด้วยความเรียบง่ายของชีวิตผู้คนในเมืองนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเชื้อสายมอญ จึงทำให้เมืองนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นชุมชนมอญที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศไทย และด้วยวัฒนธรรมประเพณีของชาวมอญ ประกอบกับความสวยงามทางธรรมชาติ จึงทำให้เมืองนี้เป็นที่กล่าวขานของนักเดินทาง

มนต์เสน่ห์ แห่งความเรียบง่าย

 

สารภาพตามตรงผมก็เคยได้ยินชื่อเมืองนี้มานานเหมือนกันครับแต่ก็ไม่เคยได้มาท่องเที่ยวหรือสัมผัส เนื่องจากคิดอยู่เสมอว่ากาญจนบุรีจะมีอะไรเที่ยวนอกจากล่องแพ เที่ยวน้ำตก ชมสะพานข้ามรถไฟสายมรณะ ซึ่งนี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้เดินทางมาเยือนยังสถานที่แห่งนี้

ในยามเช้าของทุกวันชาวไทยเชื้อสายมอญจะมาคอยเข้าแถวเพื่อรอใส่บาตร ซึ่งก็ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมมาทำกันด้วยครับ เมื่อมีโอกาสมาขนาดนี้แล้วมีหรือที่ผมจะอดใจยกกล้องถ่ายภาพขึ้นมาเก็บภาพได้ครับ ซึ่งการการเยือนสังขละบุรีแห่งนี้ จุดมุ่งหมายก็คือมาเก็บภาพสวยงามของที่นี่แหละครับ แต่ในครั้งนี้ผมขอนำเสนอรูปแบบภาพในแบบของภาพ ขาวดำ นะครับ เนื่องจากผมเห็นว่ามันจะเน้นภาพให้ดูสวยงามและมีเสน่ห์มากขึ้น

มนต์เสน่ห์ของภาพถ่าย ขาวดำ อาจจะไม่ได้สีสันที่สดใส แต่เป็นการเน้นแสงและเงา ไม่ต่างอะไรกับเมืองแห่งนี้ ที่ห่างไกลแสงสีเสียง แต่โดดเด่นด้วยธรรมชาติและวิถีชีวิต ที่ยากจะหาได้ในเมืองหลวงที่แสนวุ่นวาย

มนต์เสน่ห์ แห่งความเรียบง่าย

 

ผมใช้เวลาในช่วงเช้าเพื่อเก็บภาพวิถีชาวบ้านของที่นี่ ซึ่งโดยส่วนตัวผมว่าช่วงเช้าเหมาะสมที่สุดที่จะออกมาจากถ่ายภาพวิถีชีวิตครับ เนื่องจากวิถีชีวิตของผู้คนในเมืองนี้จะเริ่มต้นแต่เช้าตรู่ครับ และตอนเช้าอากาศยังเย็นสบายเหมาะสมกับการแบกกล้องท่องเที่ยวครับ แต่ในการเดินทางครั้งนี้ของผมประสบอุปสรรคนิดหน่อยในเมืองสายฝนที่โปรยปรายอย่างไม่ขาดสายในช่วงนี้ แต่โชคยังดีที่เป็นเพียงละอองฝนจึงไม่เป็นอุปสรรคมากนักในการเดินทาง

หลังจากเก็บภาพความประทับใจได้พอสมควร ก็ถึงเวลาที่ผมต้องเดินทางต่อเพื่อไปยังด่านเจดีย์สามองค์ที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งครับ ซึ่งหากใครเคยดูหนังเรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ก็คงคุ้นกับด่านนี้เป็นอย่างดี ซึ่งที่นี่จะเป็นจุดด่านแดนไทยพม่า ที่สำคัญอีกแห่งของ จ.กาญจนบุรี ที่นี่จึงเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวและพ่อค้าแม่ค้า ซึ่งมีทั้งชาวไทย พม่า และมอญนะครับ ซึ่งหากใครหลงใหลการถ่ายภาพวิถีชีวิต ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งที่ที่สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีครับ เนื่องจากเราสามารถขอผ่านแดนไปยังประเทศพม่าได้ โดยการขอผ่านแดนนั้นจะเสียค่าผ่านทางสำหรับชาวไทยคนละ 30 บาท ซึ่งต้องไปเสียในฝั่งของพม่านะครับ และหากเอารถยนต์เข้าไปด้วยก็จะเสียอีกคันละ 50 บาท และหากสะพายกล้องหรือถือกล้องผ่านแดนและเจ้าหน้าที่ของด่านนั้นเห็นก็จะเก็บค่ากล้องเพิ่มอีกตัวละ 50 บาทนะครับ

มนต์เสน่ห์ แห่งความเรียบง่าย

 

ซึ่งในฝั่งพม่าแห่งนี้ก็จะมีตลาดพญาตองซู ซึ่งก็จะมีขายผัดสด อาหารสด และก็ของฝากอีกด้วยครับ นอกจากตลาดสดแล้วยังมีวัดเสาร้อยต้น ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปด้วยครับ ซึ่งที่นี่ก็ทำให้ผมได้เก็บภาพมาไม่น้อย แต่ต้องระวังอย่างนะครับ ในช่วงฝนตกพื้นที่นี่จะชุ่มไปด้วยน้ำและดินเปียกๆ ครับ เนื่องจากพื้นตลาดแห่งนี้ไม่ได้มีการเทคอนกรีตหรือราดยางมะตอยนะครับ

ในการเดินทางครั้งนี้ถึงแม้จะมีอุปสรรคเรื่องฟ้าฝนที่ไม่ค่อยเป็นใจกับผมเท่าไหร่ แต่ผมก็ยังสามารถเก็บภาพความสวยงามในรูปแบบขาวดำ มาฝากท่านผู้อ่านได้นะครับ นี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางครั้งนี้ แต่ถ้ามีโอกาสผมสัญญาจะว่าจะพยายามจะเอามานำเสนอให้ได้มากที่สุดนะครับ

บางครั้งการได้ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ห่างไกลเทคโนโลยี สังคมแห่งความเร่งรีบ หรือแม้แต่แสงสีที่ไม่เคยมืดมนของเมืองใหญ่ อาจจะความรู้สึกเหนื่อยล้าได้ลดทอนลงไปบ้างไม่มากก็น้อย ผมอาจจะเป็นอีกคนหนึ่งที่มีโอกาสได้ถ่ายเข้ามาในเมืองแห่งนี้ ได้เก็บภาพความประทับใจในช่วงเวลาหนึ่งของที่แห่งนี้ ซึ่งภาพดังกล่าวไม่ได้บันทึกลงแค่เมโมรีการ์ดแผ่นเล็กๆ เท่านั้น ยังบันทึกลงในกล่องความทรงจำที่แสนดีของผมด้วยครับ สุดท้ายหากมีโอกาสผมก็อยากกลับมาสัมผัสธรรมชาติและวิถีชาวบ้านที่นี่อีกครั้งครับ เพียงแต่ภาวนาว่าอย่าให้สังคมเมืองและเทคโนโลยีและความเจริญที่นับวันมีแต่ก้าวหน้าไปทำลายสิ่งดีๆ ของเมืองแห่งนี้เลยครับ

Thailand Web Stat