posttoday

ห่มไหมเก๋ไก๋ไม่แก่

24 กันยายน 2557

ผู้คนสังคมส่วนใหญ่ถึงผลักไส “ผ้าไหมมัดหมี่” ให้กลายเครื่องนุ่งห่มของผู้เฒ่าผู้แก่ ของเหล่าข้าราชการ เหมาะแก่การสวมใส่ไปวัดไปวา และออกงานใหญ่

โดย...นกขุนทอง ภาพ วิศิษฐ์ แถมเงิน

ผู้คนสังคมส่วนใหญ่ถึงผลักไส “ผ้าไหมมัดหมี่” ให้กลายเครื่องนุ่งห่มของผู้เฒ่าผู้แก่ ของเหล่าข้าราชการ เหมาะแก่การสวมใส่ไปวัดไปวา และออกงานใหญ่ ทว่าหนุ่มสาวกลับร้องยี้ ถ้าต้องใส่ชุดผ้าไหมในชีวิตประจำวัน

ลายไม่สวยเก๋...

เนื้อผ้าดูมันๆ วาวๆ...

ดีไซน์เช้ย เชย...

ใส่แล้วดูสูงวัยขึ้น 5 สเต็ป...

หลายเหตุหลายผลที่พรั่งพรูออกมา ซึ่งปฏิเสธไปเสียไม่ได้ว่า มีเชื้อแห่งความจริงอยู่

ด้วยเหตุนี้ผ้าไหมมัดหมี่จึงยังเป็นที่นิยมอยู่ในวงแคบและจำกัดช่วงอายุไปโดยปริยาย ทั้งๆ ที่ผ้าไหมเป็นเส้นใยที่ถักทอมาจากธรรมชาติ เกิดขึ้นจากสองมือของคนไทย เป็นสินค้าไทยที่น่าภาคภูมิใจ แต่คนไทยส่วนใหญ่เมินเฉยไปเสียนี่

การที่จะนำผ้าไหมมัดหมี่ออกไปสู่ตลาดนอกประเทศได้ ต้องหันกลับมาดูในบ้านตัวเองก่อนว่า ผ้าไหมเป็นที่นิยม เข้าถึงผู้คนได้ทุกกลุ่มหรือไม่ การเกิดขึ้นของงาน “ขอนแก่นเมืองราชินีไหมมัดหมี่” จึงเป็นอีกหนึ่งมิติที่นำพาผ้าไหมไปสู่สายตาการรับรู้ของคนรุ่นใหม่ว่า ผ้าไหมงามกว่าที่คิด และสามารถดีไซน์ได้มากกว่าที่คาดถึง ที่สำคัญสวมใส่แล้วสวยงามสง่า ดูดี ได้ทั้งความเรียบหรู น่ารักแต่มีรสนิยม หรือจะเซ็กซี่แบบมีคลาส

ห่มไหมเก๋ไก๋ไม่แก่

 

ปลดล็อก...ผ้าไหมมัดหมี่

การที่จะลบภาพผ้าไหมมัดหมี่ที่ดูแก่ เชย ออกจากความรู้สึกของหนุ่มสาวรุ่นใหม่ได้ ต้องสร้างภาพที่เขารู้สึกประทับใจให้มาจดจำแทน และสามารถให้เขาต่อยอด ความสุขความสนุกที่จะเล่นกับผ้าไหมมัดหมี่

ในครั้งนี้ได้ 3 ดีไซเนอร์ไทย ผู้ที่จะมาแปลงผ้าไหมที่ดูเช้ยเชย ให้ผู้พบเห็นต้องร้องว้าว โดยดีไซเนอร์จาก 3 แบรนด์ดังร่วมสร้างสรรค์ชุดภายใต้แนวคิด “ไขความลับพลังไหม” (Unlock the Real Power of Silk) ซึ่งแต่ละชุดที่ออกแบบ เรียกว่าฉีกกฎของผ้าไหมมัดหมี่ที่คนมักจะมองว่าแก่ เชย ให้ทันสมัย หรูหรา และสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้จริง โดยทั้ง 3 แบรนด์ต่างผุดไอเดียเพื่อจะปลดล็อกผ้าไหม เปิดตลาดสู่คนรุ่นใหม่ได้

“หมูพลพัฒน์ อัศวะประภา” ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ “อาซาว่า” (Asava) ใช้แนวคิดการออกแบบ คือ Structure/Sport/Essential โดยผสมผสานระหว่างความเป็นแบบแผนดั้งเดิม (Tradition) ของผ้าไหมมัดหมี่เข้ากับ ซิลูเอท สปอร์ต (Silhouette Sport) โดยเน้นการตัดเย็บที่ดูทันสมัยมากขึ้น

“การทำเสื้อจากผ้าไหมมัดหมี่ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะผ้าสวยอยู่แล้ว แต่การลบภาพความโบราณของไหมมัดหมี่เป็นสิ่งที่ยากกว่า เราจึงใช้ความเป็นสปอร์ตกลมกลืนกับการออกแบบ อย่างกางเกงก็ดีไซน์มาจากกางเกงวอร์ม มีกลิ่นอายของความเป็นแอ็กทีฟ แวร์

เคยทำงานกับผ้าไหมมามากพอสมควร ซึ่งผ้าไหมถือว่าเป็นไอคอนของไทย ตอนที่ได้รับโจทย์ว่าให้ช่วยทำให้ผ้าไหมมัดหมี่เป็นที่รู้จัก มีชื่อเสียง ซึ่งมีข้อจำกัดอยู่มาก แต่เราสามารถใช้ความสร้างสรรค์ทลายข้อจำกัดได้ เป็นการเปลี่ยนฟอร์มผ้าไหมมัดหมี่ให้มีความเป็นสากลและทันสมัยมากขึ้น อีกอย่างต้องดูเทรนด์ด้วยว่าโลกต้องการแบบไหน เราต้องทำผ้าไหมมัดหมี่ไม่ให้แก่ แต่สามารถสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้ ด้วยการมิกซ์แอนด์แมตช์”

ห่มไหมเก๋ไก๋ไม่แก่

 

ด้าน “ณัฏฐ์ มั่งคั่ง” ดีไซเนอร์แบรนด์ “โคลเส็ท” (Kloset) ใช้แนวความคิดในการออกแบบมาจาก 3 คำ คือ ความเป็นเมือง (Urban) ความคล่องตัว (Sport) และความสดใส (Refresh) ซึ่ง 3 คำนี้จะแก้ไขความเข้าใจของผ้าไหม 3 ด้าน ได้แก่

“วัฒนธรรม” คนทั่วไปมักเข้าใจว่าผ้าไหมเป็นเรื่องวัฒนธรรม การที่จะปลดล็อกผ้าไหมมัดหมี่ คือ ทำให้ผ้าไหมมัดหมี่ดูทันสมัย

“ใส่ผ้าไหมไม่ดูคล่องตัว” การที่จะปลดล็อกผ้าไหมมัดหมี่ คือ ทำให้รู้สึกใส่แล้วคล่องตัว และ “ดูเก่า แก่” การที่จะปลดล็อกผ้าไหมมัดหมี่ คือ ทำให้ใส่แล้วรู้สึกสดใส

“ผ้าไหมมีเสน่ห์มาหลายร้อยปี เราอยากให้คนเห็นผ้าไหมมัดหมี่ที่ทันสมัย คล่องแคล่วขึ้น อยากทำผ้าไหมมัดหมี่ให้ดูวัยรุ่น เนื่องจากผ้าไหมมีเชิงผ้าหน้าแคบ เลยค่อนข้างยาก แต่ความพิเศษของเรา คือ แพตเทิร์นที่ดูเรียบง่ายแต่ดูไม่ธรรมดา เราจึงเอาความเรียบง่ายมาผนวกกับความเป็นสปอร์ตประยุกต์ให้เข้ากับคนเมือง เน้นความทันสมัย เรียบง่าย ใส่คล่องตัว และเน้นสีสันสดใส”

มาถึงแบรนด์ “ฮุคส บาย ประภากาศ” (Hook’s by Prapakas) โดย “ผักกาดประภากาศ อังศุสิงห์” มาในแนวโรแมนติกร็อก (Romantic Rock) เพื่อให้เห็นว่าผ้าไหมมัดหมี่สามารถออกแบบให้เป็นแนวพังก์และร็อกได้

“นำเสื้อผ้าแบบพังก์ ร็อก มามิกซ์แอนด์แมตช์กับชุดราตรีที่มีความหรูหรา สง่างาม แต่ให้ความความรู้สึกแบบพังก์ ร็อก คนปัจจุบันมักคิดว่าผ้าไหมมัดหมี่ไกลตัว เราจึงต้องการนำเสนอรูปแบบให้ใกล้ตัว ดีไซน์ทันสมัย มีกราฟฟิกมาเล่น คาแรกเตอร์ของไหมมัดหมี่มีความชัด การจะรักษาลายของผ้าลำบากมาก แต่พอโจทย์คือ ปลดล็อกข้อจำกัดทั้งหลาย เลยทำงานง่ายขึ้น”

ห่มไหมเก๋ไก๋ไม่แก่

 

ไหมมัดหมี่ เดอะ มาสเตอร์พีซ ออฟ ขอนแก่น

จากเส้นไหมสีทอง เส้นเล็กๆ ที่มัดและย้อมเป็นลวดลาย ถักทอด้วยฝีมือของชาวบ้านภาคอีสาน คือสิ่งที่สืบสานจารีตความเชื่อจากบรรพชนว่า การสวมใส่ผ้าไหมจะทำให้เกิดสิริมงคลแก่ตนและครอบครัว ลวดลายบนผืนไหมยังเป็นการสร้างสรรค์รูปแบบ ตามคติความเชื่อท้องถิ่นบนผืนผ้า ด้วยกรรมวิธีการสร้างลวดลายแบบโบราณคือ “การมัดหมี่” ซึ่งสื่อสะท้อนถึงวิถีชีวิตและภูมิปัญญาของชุมชน ชาวไทยอีสานที่สืบสานยาวนานมาหลายศตวรรษ

“กำธร ถาวรสถิตย์” ผวจ.ขอนแก่น กล่าวถึงการจัดกิจกรรม “ขอนแก่นเมืองราชินีไหมมัดหมี่” ว่า ถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าผ้าไหมมัดหมี่ที่เป็นผลิตภัณฑ์โดดเด่นของ จ.ขอนแก่น โดยการจัดงานครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างแบรนด์ผ้าไหมมัดหมี่ขอนแก่นให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างและแข่งขันในตลาดสากลได้ โดยเฉพาะเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ในปี 2558 นอกจากนี้ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดขอนแก่น ในฐานะหน่วยงานสนับสนุนส่งเสริมดูแลผลิตภัณฑ์สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอท็อป) จึงสร้างแบรนด์เฉพาะของผ้าไหมมัดหมี่ขอนแก่น ภายใต้ชื่อ “ไหมมัดหมี่ เดอะ มาสเตอร์พีซ ออฟ ขอนแก่น”

“ผ้าไหมมัดหมี่ขอนแก่นถือว่าเป็นสินค้าผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและเป็นที่รู้จักและสร้างชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศมานานแล้ว เพราะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากผ้าไหมมัดหมี่ที่อื่นๆ อีกทั้งประวัติความเป็นมาก็เป็นต้นทางประวัติศาสตร์ที่มีการบันทึกอย่างเป็นทางการเมื่อกว่า 200 ปีมาแล้ว และชาวขอนแก่นโดยเฉพาะที่ อ.ชนบท ซึ่งเป็นแหล่งผลิตผ้าไหมมัดหมี่ขอนแก่นที่มีชื่อเสียง ก็ได้อนุรักษ์ลวดลายโบราณพร้อมๆ กับการสร้างสรรค์ลวดลายใหม่กว่า 50 ลวดลายออกสู่ตลาดผ้าไหมมัดหมี่ นอกจากนี้ผ้าไหมมัดหมี่ขอนแก่นยังใช้เทคนิคการทอที่เรียกว่า 3 ตะกอ ทำให้ได้ผ้าไหมหนาและเนื้อแน่น เกิดลายบนผืนผ้าทั้งสองด้าน โดยผืนผ้าด้านนอกจะมีสีเข้มกว่าด้านใน ทั้งยังขับเน้นลวดลายมัดหมี่บนผืนไหมให้งดงามโดดเด่นและมันวาวอีกด้วย”

ห่มไหมเก๋ไก๋ไม่แก่

 

ด้าน “เพ็ญสุภา ศิริสวัสดิ์” พัฒนาการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ชุดผ้าไหมที่ 3 ดีไซเนอร์ได้ออกแบบ ได้นำมาเก็บเป็นงานต้นแบบที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด ที่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น เพื่อใช้ในกิจกรรมต่างๆ ของจังหวัด และเพื่อเป็นไอเดียต่อยอดของดีไซเนอร์ในท้องถิ่น ที่จะพัฒนารูปแบบเสื้อผ้าให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น ทำให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจ

“จากการออกแบบของดีไซเนอร์ ทำให้เราได้เห็นว่า ชุดผ้าไหมไม่จำเป็นต้องใช้ผ้าไหม 100 เปอร์เซ็นต์ แต่นำไปผสมผสานกับวัสดุอย่างอื่นได้ เช่น หนัง และตอนนี้ผ้าไหมมัดหมี่ของขอนแก่นก็มีการพัฒนาไปถึงขั้นนาโนกันยูวี สามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าได้ด้วย ซึ่งตรงนี้เราพัฒนาเพื่อให้ผู้ใช้ดูแลรักษาง่ายขึ้น ทำให้คนใช้ได้ง่ายขึ้น ลดข้อที่ยุ่งยากของผ้าไหมลง พยายามทำให้ง่ายเข้าถึงทุกกลุ่ม เพราะถ้าเราคิดว่าจะนำผ้าไหมเข้าสู่สากล ในเมืองไทยเราเองก็ยังไม่แพร่หลาย ต้องตีตลาดภายในประเทศด้วย ในเรื่องคุณภาพเราไม่ห่วง เพราะผ้าไหมมัดหมี่ของเราเนื้อแน่น มีลวดลายที่ทันสมัย ลายโบราณก็มี ตอนนี้เหลือแค่ให้คนหันมาใช้กันเยอะๆ”

ในวันที่ 29 พ.ย.-12 ธ.ค. 2557 จ.ขอนแก่น จะจัดงานไหมซึ่งเป็นงานประจำปี ทว่าในปีนี้ได้ยกระดับเป็นนานาชาติ ใช้ชื่อว่า “งานไหมนานาชาติ” มีการจัดแสดงผ้าไหมจาก 6 ประเทศลุ่มน้ำโขง ภายในงานมีนิทรรศการเส้นทางไหม ได้เห็นกระบวนการผลิต เช่น พันธุ์ไหม การเลี้ยงไหม การสาวไหม การฟอกย้อม สีไหม รูปแบบของการออกลวดลายและการสีในการทอผ้าไหม และเทคนิคในการทอผ้าไหมที่เป็นเอกลักษณ์ในแต่ละท้องถิ่น เป็นต้น งานจะจัดที่หน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น

ห่มไหมเก๋ไก๋ไม่แก่

ผ้าไหมมัดหมี่

ผ้าไหมมัดหมี่ มีถิ่นกำเนิดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วิธีการมัดหมี่ คือ การมัดเส้นไหมให้เป็นลายที่เส้นพุ่ง หรือเส้นยืนด้วยเชือก และนำไปย้อมสีทีละขั้นตอนของลายผ้าที่มัดไว้ ผ้าไหมมัดหมี่ที่มีชื่อเสียงมีเอกลักษณ์และมีศักยภาพได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ คือ ผ้าไหมมัดหมี่ อ.ชนบท จ.ขอนแก่น

ผ้าไหมมัดหมี่ อ.ชนบท เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของคนอีสาน ที่มีวิธีการสร้างลายผ้าไหม ด้วยวิธีโบราณสืบต่อกันมาช้านาน ซึ่งเรียกกันว่า ภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยนำเส้นไหมมามัดเป็นลวดลายแล้วย้อมสีต่างๆ ตามความคิดสร้างสรรค์ของแต่ละคน เมื่อนำเส้นไหมที่ย้อมเส้นทอ ก็จะได้ผ้าไหมที่มีลวดลาย สีสันสวยงาม กรรมวิธีและย้อมเส้นไหมนี้ชาวอีสานเรียกว่า “มัดหมี่” ในเรื่องของ “ลาย” ลายเก่าที่สืบทอดคือ ลายหมี่กง ลายขันหมากเบ็ง และลายขอพระเทพ หรือลายเชิงเทียน และด้วยลวดลายสีสันสวยงามวิจิตรพิสดาร ประยุกต์ให้เข้ากับสมัยนิยม ส่งผลทำให้ผ้าไหมมัดหมี่ที่ อ.ชนบท โดดเด่น ได้รับรางวัลชนะเลิศประกวดในมรดกสิ่งทอเอเชียปี พ.ศ. 2535

ห่มไหมเก๋ไก๋ไม่แก่

 

ห่มไหมเก๋ไก๋ไม่แก่

 

ห่มไหมเก๋ไก๋ไม่แก่

 

ห่มไหมเก๋ไก๋ไม่แก่