posttoday

in my bag

24 ตุลาคม 2557

แหล่งซื้ออาหาร

แหล่งซื้ออาหาร

“มีนเป็นคนเชียงใหม่ค่ะ เพิ่งย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพฯ ตามลำพังได้เกือบ 4 ปีแล้ว ตอนนี้พักอยู่แถวแจ้งวัฒนะ เนื่องจากชอบทำขนม แหล่งซื้ออาหารที่ใกล้บ้านที่สุด สะดวกที่จะเดินทางไปบ่อยๆ และเป็นร้านประจำ ก็เป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์-ส่วนผสมเบเกอรี่ แถวเมืองทองธานีค่ะ เป็นบล็อกห้องแถวธรรมดาๆ มี 3-4 คูหาได้ ของเยอะมากค่ะ มีทุกๆ อย่างเลย ตั้งแต่อุปกรณ์เบเกอรี่ขั้นพื้นฐาน ช้อนตวง ถ้วยตวง ไม้พาย ถาด แม่พิมพ์ ฯลฯ รวมไปถึงส่วนผสมการทำต่างๆ แป้งเค้ก แยมต่างๆ ฯลฯ

ในบางครั้งแม้มีนจะมีแผ่นกระดาษลิสต์สิ่งที่อยากได้มา แต่ที่นี่ของเยอะมากจริงๆ ก็ชวนให้มีนได้เดินเพลินๆ ตื่นตาตื่นใจกับอุปกรณ์-ส่วนผสมเบเกอรี่ต่างๆ ทำให้หมดเวลาไปต่อครั้งก็หลายชั่วโมงเลยค่ะ (หัวเราะ) ซึ่งราคาที่นี้ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้มีนได้มาช็อปปิ้งอยู่บ่อยๆ เนื่องจากเป็นร้านใหญ่ ขายในราคาส่ง ก็ทำให้มีนที่เป็นมือสมัครเล่นในการทำเบเกอรี่ได้ช็อปปิ้งตุนของไว้ ในราคาประหยัด ซึ่งเซฟเงินในกระเป๋าได้มากพอควรเลยค่ะ”

การเลือกซื้ออาหาร หีบห่อ บรรจุภัณฑ์

“การที่ซื้อของในร้านใหญ่ ร้านขายส่ง ก็เป็นข้อดีมากๆ เลยนะคะสำหรับมีน เพราะมีสินค้าในประเภทเดียวกันให้เรามีโอกาสได้เลือกอยู่หลายยี่ห้อ ซึ่งก่อนมาจ่ายของในแต่ละครั้ง มีนก็จะศึกษาหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตล่วงหน้าค่ะ ว่าตอนนี้คนกำลังฮิตทำเมนูเบเกอรี่อะไร ข้อแนะนำดีๆ อะไร เพื่อจะได้ประมวลผลว่าเราควรจะพิจารณาเลือกซื้อ

อย่างแป้งเค้กมีหลายยี่ห้อ นอกจากมีนจะอ่านคอมเมนต์ทางกระทู้ต่างๆ ที่เขาแลกประสบการณ์กันแล้ว มีนก็ต้องลองเอาแป้งมาเทสต์หลายๆ ตัวเหมือนกัน เพราะแป้งบางตัวจะมีน้ำหนัก ความเบาที่ไม่เท่ากัน ก็ต้องเลือกให้เหมาะกับการทำเค้กด้วยว่าเหมาะกับเค้กชนิดไหน อย่างแป้งเบาๆ จะเหมาะกับการทำโรลล์เค้กมากกว่าเค้กอื่นๆ ซึ่งเราก็สามารถเอาแป้งหลายๆ ตัวมาลองผสมดูได้ ซึ่งมีนเป็นคนที่กล้าและสนุกกับการทดลองค่ะ หรือแม้กระทั่งเรื่องของวิปปิ้งครีมมันเหมาะกับเค้กตัวไหน เป็นต้น

in my bag

 

โดยส่วนตัว มีนไม่เคยแคร์เลยนะคะว่าของดีจำเป็นต้องอิมปอร์ตมาจากต่างประเทศเท่านั้น ของที่ผลิตในเมืองไทยมีคุณภาพ ได้มาตรฐานในเรื่องความสะอาด รสชาติ ก็ใช้ได้แล้วล่ะ เน้นในเรื่องความสดใหม่มากกว่า ซึ่งข้อดีของส่วนประกอบของเมนูเบเกอรี่เลยก็คือ เรื่องของวัตถุดิบ ที่มันสามารถเก็บได้ค่อนข้างนาน โดยเฉลี่ยเกือบ 3 ปีได้ ทั้งผงโกโก้ ผงฟู แป้งเค้กอเนกประสงค์ ฯลฯ ที่นอกจากจะดูเรื่องของฉลากวันหมดอายุ และหีบห่อที่ยังอยู่ในสภาพที่ยังไม่ถูกเปิด ซึ่งเป็นมาตรฐานการเลือกซื้อแล้ว มีนก็อยากจะแนะนำเรื่องราวหลังการซื้อ คือให้เราเป็นคนช่างสังเกตด้วยตัวเองเพิ่มขึ้นมาด้วย อย่างเช่น สังเกตว่า แป้งเปลี่ยนสีหรือยัง มีความชื้น ขึ้นราหรือป่าว อย่างกระป๋อง
บลูเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ น่ะขึ้นราได้ง่ายมาก ถ้าเราซื้อมาแล้ว ทางที่ดีก็ควรถ่ายภาชนะจากกระป๋องไปใส่โหลแก้ว ก็จะช่วยยืดการเก็บรักษาวัตถุดิบได้นานขึ้นค่ะ”

ในถุงกับข้าววันนี้

“โชคดีมาก ที่การทำเค้กจะมีส่วนผสมพื้นฐานอยู่แล้ว ซึ่งก็ทำให้เราไม่จำเป็นต้องจ่ายตลาดบ่อย ซึ่งวันนี้มีนอยากทำเมนูบราวนี่ ซึ่งมีส่วนผสมที่หาไม่ยากเลย มีแป้งอเนกประสงค์ แป้งเค้กฟู ผงโกโก้ ไข่ เกลือ น้ำตาลทราย การเลือกซื้อเหมาะสมกับที่เราทำส่วนใหญ่ เป็นคนทำขนมมาสักระยะหนึ่งแล้ว เราก็จะพอกะปริมาณถูกค่ะ ว่าเราจะใช้วัตถุดิบมากน้อยแค่ไหน

วิธีการง่ายๆ ก็คือ ดูจากสูตรค่ะ ว่าเราต้องใช้วัตถุดิบในปริมาณเท่าไรต่อครั้ง แล้วสัปดาห์นี้หรือเดือนนี้เราจะทำบ่อยแค่ไหน จะมีปาร์ตี้หรือเปล่า จะเน้นใช้วัตถุดิบไหนเป็นพิเศษ ก็คำนวณปริมาณไป ซึ่งวัตถุดิบต่างๆ มันก็มีหลายขนาดให้เราเลือกใช้ตามความต้องการ ถ้าใช้นิดหน่อยก็ห่อเล็กก็พอ เราจะได้ไม่ต้องเก็บไว้จนเหลือใช้เยอะค่ะ การเก็บรักษาก็ไม่ลำบากค่ะ

เนื่องจากวัตถุดิบการทำขนมส่วนใหญ่จะเป็นแป้ง ผงช็อกโกแลต ฯลฯ ถ้าทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องทั่วไป ก็อาจจะทำให้แป้งหรือผงช็อกโกแลตเกิดความชื้น และทำให้เกิดการจับตัวเป็นก้อน ซึ่งอาจจะมีผลในเรื่องของการใช้ในครั้งต่อไป ซึ่งเมื่อมีนเปิดบรรจุภัณฑ์เพื่อใช้งานแล้ว ก็มักจะหากล่องพลาสติกสุญญากาศ หรือถุงซิปล็อกมาใส่ แทนที่จะใส่บรรจุภัณฑ์เดิมและผูกหนังสติ๊กไว้เฉยๆ ซึ่งมีนไม่ได้เน้นในเรื่องความเป็นระเบียบความสวยงามอย่างเดียวนะคะ แต่มองว่านอกจากจะสามารถมาหยิบใช้ในครั้งต่อไปได้สะดวกมากขึ้นแล้ว การเก็บรักษาที่ดีจะช่วยยืดอายุในการใช้วัตถุดิบด้วย ซึ่งพวกเนย เม็ดช็อกโกแลตก้อน มีนก็เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ ก่อนเก็บไว้ในตู้เย็นด้วยค่ะ”