posttoday

ฟินแลนด์คนเบาบางแต่คุณภาพเข้มข้น

08 พฤศจิกายน 2557

ประเทศฟินแลนด์คือดินแดนที่มีชื่อเสียงในเรื่องความสวยงามทางธรรมชาติ และปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์เที่ยงคืน

ประเทศฟินแลนด์คือดินแดนที่มีชื่อเสียงในเรื่องความสวยงามทางธรรมชาติ และปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์เที่ยงคืน จึงเป็นหนึ่งในเป้าหมายปลายทางของนักผจญภัยทั่วโลก แต่ฟินแลนด์ไม่ได้มีดีแค่เพียงเรื่องท่องเที่ยวเท่านั้น เพราะการพัฒนาคนด้วยการยกระดับการศึกษา ที่ช่วยนำพาให้ประเทศนี้กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ผู้คนมีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก คือแรงจูงใจสำคัญที่โลก 360 องศา เดินทางไกลมาเพื่อทำความเข้าใจให้มากยิ่งขึ้น

เชื่อว่าเกือบทุกคน คงจะรู้จักหรือคุ้นชื่อกับวิดีโอเกม “แองกรี้เบิร์ดส์” ซึ่งเป็นเกมยอดนิยมที่อยู่ในกระแสโลก นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า เกมยอดนิยมนี้ ถูกสร้างและพัฒนาขึ้น โดยบริษัทฟินแลนด์ ที่ชื่อว่า “โรวิโอ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ (Rovio Entertainment)” รวมถึงโทรศัพท์มือถือที่เคยเป็นที่นิยมไปทั่วโลกอย่างโนเกีย ก็มาจากประเทศนี้เช่นกัน และยังมีสินค้าระดับโลกอีกหลายอย่างที่พัฒนาจากเทคโนโลยี และมันสมองของคนฟินแลนด์

จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะประเทศนี้มีจำนวนประชากรแค่เพียง 5 ล้านคน อีกทั้งฟินแลนด์ก็ถือว่าเป็นประเทศที่มีอายุอานามในการก่อตั้งไม่ถึงร้อยปี (ได้รับเอกราชจากจักรวรรดิรัสเซีย พ.ศ. 2460) จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจว่าเพราะเหตุใดประเทศนี้จึงสามารถพัฒนาและมีความก้าวหน้าในทุกๆ ด้าน

ฟินแลนด์คนเบาบางแต่คุณภาพเข้มข้น

 

คุณรัชนันท์ ธนานันท์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮลซิงกิ เล่าถึงภูมิหลังของประเทศฟินแลนด์ให้เราฟังว่าในอดีตประเทศนี้ผ่านความยากลำบากมายาวนาน ภายใต้ประวัติศาสตร์ในช่วงเวลาของการขยายอิทธิพลของชาติมหาอำนาจต่างๆ ซึ่งหล่อหลอมให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “จิตวิญญาณของชาวฟินแลนด์” หรือ “ซิซู่ (Sisu)”เป็นเสมือนแนวทางสำคัญในการดำเนินชีวิตของชาวฟินแลนด์ ที่จะต้องให้ความสำคัญกับความมุมานะและมุ่งมั่นในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สำเร็จ แม้ว่าจะมีอุปสรรคใหญ่แค่ไหนก็ตาม และนั่นคือบุคลิกเด่นที่มีอยู่ในชาวฟินแลนด์เกือบทุกคน ดังนั้นประเทศนี้จึงสามารถยกระดับจากประเทศยากจน สู่การเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจมั่งคั่งและเป็นรัฐสวัสดิการที่ประชาชนอยู่ดีกินดี มีสิทธิเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการรักษาพยาบาลและการศึกษา เป็นต้น

ชาวฟินแลนด์ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า การจะสร้างทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ และเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศในทุกๆ ด้าน จำเป็นจะต้องยกระดับการศึกษา โดยเปลี่ยนระบบการศึกษาภาคบังคับเป็นระยะเวลา 9 ปี คือตั้งแต่อายุ 7-16 ปี ซึ่งนอกจากจะเรียนฟรีแล้ว ยังมีสวัสดิการต่างๆ เช่น อาหารกลางวันฟรีอีกด้วย ส่วนการเรียนในระดับมัธยมปลาย ไม่มีการบังคับ แต่ส่งเสริมอย่างจริงจังทั้งในสายสามัญและอาชีวศึกษา เมื่อจบแล้วสามารถต่อในระดับอุดมศึกษา ทั้งมหาวิทยาลัยและโรงเรียนอาชีวศึกษาขั้นสูง โดยไม่มีค่าเล่าเรียนใดๆ

การที่ฟินแลนด์สามารถเป็นรัฐสวัสดิการได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีการเก็บภาษีในอัตราสูง เฉลี่ยประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ จึงมีงบประมาณสนับสนุนการศึกษาได้เต็มที่และทั่วถึง ซึ่งนั่นทำให้การสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษาเกิดขึ้นได้ไม่ยาก

ฟินแลนด์คนเบาบางแต่คุณภาพเข้มข้น

 

คุณ Jaana Palojärvi Director of international relationship Ministry of Education and Culture เล่าให้เราฟังว่า เพราะประเทศฟินแลนด์มีประชากรน้อยและไม่ได้ร่ำรวยด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ดังนั้นองค์ประกอบสำคัญในการพัฒนาประเทศ ก็คือทรัพยากรบุคคล ซึ่งการจัดให้มีระบบการศึกษาที่ดีและทั่วถึง คงไม่เพียงพอถ้าจะพัฒนาประเทศ แต่จะต้องให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมกันทางการศึกษาด้วย ดังนั้นต่อให้นักเรียนจะมาจากเชื้อชาติหรือศาสนาไหน ก็จะได้รับสิทธิในการศึกษาเท่าเทียมกับชาวฟินแลนด์ท้องถิ่น เพราะเด็กๆ เหล่านั้นเมื่อเติบโตขึ้นก็จะต้องเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศด้วย

แม้ว่าชาวฟินแลนด์ส่วนใหญ่จะมีบุคลิกเงียบขรึมและมีความเป็นส่วนตัวสูง แต่สังคมที่นี่กลับได้ขึ้นชื่อว่า มีความไว้เนื้อเชื่อใจกันสูงมาก ซึ่งคำว่า “Trust” ได้กลายเป็นปรัชญาทางสังคมที่ช่วยขับเคลื่อนประเทศในหลายด้าน รวมถึงด้านการศึกษา ซึ่งคุณ Jaana อธิบายเรื่องนี้ให้เราฟังว่า โครงสร้างของระบบการศึกษาที่นี่ เน้นการพึ่งพากันมาก ผ่านทางความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ระหว่างรัฐบาลกลางและส่วนปกครองท้องถิ่นที่รับผิดชอบดูแลระบบการศึกษาในแต่ละท้องถิ่น ในส่วนของโรงเรียนเองก็เน้นระบบบริหารที่ไม่ซับซ้อน มีเพียงบุคลากรที่คอยทำหน้าที่สนับสนุนการศึกษาให้สัมฤทธิผลมากที่สุด


ดังนั้น สิ่งสำคัญคือทุกๆ คนที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา จะต้องตระหนักรู้ถึงหน้าที่รับผิดชอบให้มากที่สุด “ความเชื่อใจ” จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่ผ่านมาทุกๆ คนก็ทำได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ฟินแลนด์ไม่จำเป็นจะต้องมีผู้ตรวจสอบการศึกษาจากรัฐบาลกลางมากว่า 20 ปีแล้ว

ฟินแลนด์คนเบาบางแต่คุณภาพเข้มข้น

 

ว่ากันว่าที่ประเทศฟินแลนด์ ไม่มีโรงเรียนไหนคุณภาพดีไปกว่ากัน ดังนั้นผู้ปกครองก็ไม่ต้องกดดันในการเลือกโรงเรียนให้บุตรหลาน ส่วนตัวนักเรียนเองก็ไม่ต้องมีความรู้สึกว่าจะต้องไปสอบแข่งขัน เพื่อให้
ได้เข้าโรงเรียนดีที่สุด เพราะว่าที่นี่มีการควบคุมมาตรฐานทุกโรงเรียนให้มีคุณภาพดีเท่าเทียมกัน ซึ่งฟินแลนด์ได้เริ่มปฏิรูปหลักสูตรใหม่ โดยเน้นการกระจายอำนาจไปยังท้องถิ่น และสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพป้อนเข้าสู่ระบบการศึกษา โดยโรงเรียนที่นี่จะอยู่ในการดูแลของเทศบาลท้องถิ่น ที่รับนโยบายจากส่วนกลาง แต่จัดสรรงบประมาณและสวัสดิการของตนเอง โรงเรียนและครูจะมีสิทธิในการออกแบบหลักสูตรการเรียนการสอนเป็นของตนเอง


แม้ว่าระบบการศึกษาของฟินแลนด์ในปัจจุบัน จะได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่ามีคุณภาพดีเยี่ยมจนสามารถผลิตทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพสู่ตลาดแรงงาน แต่ก็ไม่มีอะไรเป็นเครื่องการันตีว่า ฟินแลนด์จะยังได้ผลลัพธ์เช่นนี้ต่อไปในอนาคต ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา จึงพยายามหาแนวทางต่างๆ เพื่อรักษาคุณภาพ และปรับปรุงการศึกษาของฟินแลนด์ให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป

คุณ Marjo Kyllönen Chief of Education, Education department City of Helsinki บอกกับเราว่า ในตอนนี้รัฐบาลได้เริ่มต้นโครงการสร้างโรงเรียนแห่งอนาคตขึ้นแล้ว เพราะตระหนักดีว่าสังคมของฟินแลนด์กำลังเปลี่ยนผ่านไปอย่างรวดเร็ว และวิธีการแข่งขันในโลกก็เปลี่ยนเช่นเดียวกัน สิ่งสำคัญแรกสุดที่เริ่มทำคือ การเพิ่มศักยภาพผู้นำโรงเรียน โดยมีการจัดตั้งศูนย์พัฒนาศักยภาพขึ้นมา เพื่อคิดค้นหาแนวทาง และพัฒนาศักยภาพพวกเขาให้มีความสามารถในการสร้างผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ในแต่ละท้องถิ่นด้วย

ดังนั้น กระบวนการนี้จะต้องอาศัยความร่วมมือในหลายๆ ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นครูผู้สอน ผู้ปกครอง และผู้คนในท้องถิ่น ดังนั้นทุกๆ คนที่เกี่ยวข้องจะต้องให้ความร่วมมือและมีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน เพื่อสนับสนุนแนวทางการศึกษาที่เปิดกว้างทางหลักสูตรของฟินแลนด์


โลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปทุกๆ วินาที โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลและองค์ความรู้ต่างๆ ถ้าเราบอกกับตัวเองว่า เรามีความรู้มากพอแล้วไม่จำเป็นต้องเรียนรู้เพิ่มเติม ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่สุด เพราะนั่นหมายถึงว่าคุณกำลังปิดโอกาสในการรับข้อมูลหรือว่าองค์ความรู้ใหม่ๆ การพัฒนาประเทศโดยการสร้างคนสร้างชาติของฟินแลนด์ก็เช่นเดียวกัน ที่มองว่าองค์ความรู้ต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา ดังนั้นการเปิดกว้างทางการศึกษาในมิติต่างๆ เป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการยกระดับและพัฒนาการศึกษาของคนในชาติ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นแนวทางที่ประเทศไหนในโลกจะทำตามได้ เพราะต้องอาศัยความตระหนักรู้ ความรับผิดชอบ และความเชื่อใจกันถึงที่สุด

เรื่องราวดีๆ ของวงการการศึกษาในประเทศนี้ยังไม่หมด ติดตามชมได้ในตอนต่อๆ ไป และอย่าลืมติดตามชมรายการโลก 360 องศา ทุกคืนวันเสาร์ 3 ทุ่มครึ่ง ทางททบ.5