ประสบการณ์ล้ำค่า จองอูซอง

ปี 2014 ที่กำลังจะผ่านไปยังคงเป็นอีกหนึ่งปีทองของ “จองอูซอง” เขามีหนัง 3 เรื่องคือ The Divine Move, Scarlet Innocence และ Don’t Forget Me โดยเรื่องแรกนั้นทำให้ชื่อเขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมในหลายเวที

นักแสดงหนุ่มใหญ่ยังกลายเป็นประเด็นพูดคุยเมื่อเขาประกาศกร้าวว่า ไม่ยินดีรับงานตัวประกอบหรือบทผู้ร้ายในหนังฮอลลีวู้ด เขาต้องการบทแสดงนำ แต่โอกาสที่ดาราจากเอเชียจะได้รับบทนำในฮอลลีวู้ดนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ การที่จะได้เห็นเขาโกอินเตอร์จึงเท่ากับศูนย์

นอกจากงานแสดง จองอูซอง ก็พัฒนาเส้นทางอาชีพของเขาขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ เขาเพิ่งจะมีผลงานในฐานะผู้กำกับออกมาเมื่อกลางปีด้วยหนังสั้นเรื่อง The Killer andThe Old Man ซึ่งเล่าเรื่องราวของนักฆ่าที่ไม่มีทางเลือก นอกจากจะต้องฆ่าชายชราคนหนึ่ง หนังเรื่องนี้รวมทั้ง ColdEyes งานปีที่แล้วของ จองอูซอง ถูกเลือกไปฉายที่เทศกาลหนังในต่างประเทศด้วย

หนุ่มใหญ่วัย 41 ปีคนนี้ยังคงรักษาระดับความฮอตไว้ได้อย่างสม่ำเสมอ ปีนี้ จองอูซอง ถูกเลือกให้เป็น “Black CollarWorker” ของนิตยสารอะรีน่า ออม พลัส ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับผู้ชายที่โดดเด่นที่สุดของปี นอกจากนี้เขายังได้รับอีก 6 รางวัลจากนิตยสารผู้ชายและไลฟ์สไตล์หรูหราของแบรนด์มองต์ บลังค์ เกาหลี โดยพิธีจะจัดขึ้นในโซล วันที่9 ธ.ค.นี้

 

ฮอตขนาดนี้และอายุขนาดนี้แล้ว ใครจะเชื่อว่าเขาคนนี้ยังโสด… ตลอด 20 ปีในวงการบันเทิง จองอูซอง มีข่าวเรื่องรักๆ ใคร่ๆ น้อยมาก ที่โด่งดังเป็นที่รู้จักกันทั่วก็คือความรักระหว่างเขากับดาราสาว อีจีอา ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างถ่ายละครเรื่อง Athena: Goddess of War เมื่อ 3 ปีก่อน หลังจากปาปาราซซี่ถ่ายภาพทั้งสองขณะอยู่ที่ปารีสด้วยกัน ฝ่ายชายก็ออกมายอมรับว่า พวกเขากำลังคบหาดูใจกันอยู่ ต่อมาความลับของ อีจีอา เรื่องที่เธอเคยแต่งงานและหย่าขาดแล้วกับ ซอแทจิ นักร้องเพลงป๊อปชื่อดังก็เปิดเผยออกมา นั่นเป็นชนวนให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาถึงอันสิ้นสุดและ จองอูซอง ก็ยังโสดมาจนถึงวันนี้

เมื่อกลางปี 2014 มีข่าวว่า จองอูซอง เดทกับสาวสวยนอกวงการคนหนึ่ง ซึ่งทางเอเยนซีของเขาก็ออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง “ผมเคยพูดว่าอยากจะแต่งงานตั้งแต่ตอนอายุ 20 แน่นอนถึงตอนนี้ผมก็ยังอยากแต่ง แต่เรื่องนี้มันเป็นอะไรที่วางแผนไม่ได้

“ตอนนี้ผมคิดว่าควรจะแต่งงานตอนอายุ 40 กว่าๆ แต่ก็ยากที่จะไปสนใจเรื่องโลกภายนอกขณะที่ผมกำลังทำงานอยู่ ดูเหมือนผมจะพลาดเพราะว่าอาชีพ แต่ผมก็พร้อมเสมอที่จะแต่งงาน”

ที่แน่ๆ เขาไม่อยากแต่งเพราะเหงาหรือไม่อยากอยู่คนเดียว “ทุกคนก็คงรู้สึกเหงาบ้างบางขณะ แต่ผมก็ไม่ได้เหงาขนาดนั้นนะ ผมพยายามที่จะไม่เหงา”

สเปกสาวของ จองอูซอง คือ อย่างน้อยที่สุดเธอน่าจะคิดคล้ายๆ กับเขา “คนที่สามารถเชื่อมต่อกับผมได้ทางอารมณ์ ผมไม่ได้ตัดสินใจจากรูปลักษณ์ภายนอกของใคร เสน่ห์ของคนเราสามารถมาได้จากหลายแง่มุมที่แตกต่างกัน เช่น วิธีที่พวกเขาพูดหรือการกระทำ เสน่ห์จากสิ่งเหล่านี้มันดึงดูดมากกว่า”

 

เพราะไม่มีครอบครัวต้องดูแล จองอูซอง จึงมีเวลาสำหรับสังคมและโลก ในปีหน้าเขาจะกลายเป็นดาราเกาหลีคนแรกที่ถูกตั้งให้เป็นทูตสันถวไมตรีของข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR อย่างเป็นทางการ พระเอกหนุ่มผู้นี้สนับสนุนงานของ UNHCR มาระยะหนึ่งแล้ว เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมาเขาได้เดินทางไปเยือนผู้อพยพจากภูฏานในเนปาล “นี่เป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าสำหรับผม”

การทำงานร่วมกับ UNHCR เป็นบทบาทใหม่ที่ทำให้ จองอูซอง ตื่นเต้นมาก คืนก่อนวันเดินทางไปเนปาลเขาถึงกับนอนไม่หลับ “มันเหมือนกับตอนเป็นเด็กๆ ผมมักจะนอนไม่หลับในคืนวันก่อนมีคิวถ่ายหนัง เพราะผมมักตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราพร้อมจริงๆ ไหม เราจะทำได้หรือเปล่า”

แต่เมื่อเดินทางไปถึงเนปาล จองอูซอง รู้สึกมั่นใจที่จะเรียนรู้ปัญหามากมายของผู้อพยพ เพื่อช่วยขยายเสียงของพวกเขาให้ได้ยินไปทั่วโลก

“คนเหล่านี้ต้องเผชิญกับความยากลำบากอย่างมากที่อาศัยอยู่โดยไร้สัญชาติ ไม่มีสิ่งจำเป็นพื้นฐานและไม่สามารถที่จะกลับไปยังประเทศบ้านเกิดของพวกเขาได้ การที่ได้ไปเห็นสถานการณ์โดยตรง ผมได้รู้ว่าเหตุผลที่คนกลายเป็นผู้ลี้ภัยอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง การกดขี่ทางศาสนาหรือเชื้อชาติ แต่ในเรื่องรายละเอียดนั้นก็ยังไม่ชัดเจนเสียทีเดียว แต่ผมเชื่อว่าขั้นตอนแรกที่จะช่วยให้ผู้ลี้ภัยคือเข้าใจให้ลึกมากขึ้นเกี่ยวกับพวกเขา”

ระหว่างอยู่ที่เนปาล จองอูซองได้พบกับเด็กชายคนหนึ่งซึ่งเคยดูหนัง A Moment to Remember ของเขาและฝันอยากเป็นนักแสดง ซึ่งทำให้พระเอกหนุ่มถึงกับน้ำตาซึม “ผมสัญญากับตัวเองว่าจะทำงานอย่างหนักและต่อเนื่อง”