posttoday

อัญศศิร์ หงษ์คณะรักษ์ มองปัญหาให้เป็นเรื่องท้าทาย

24 ธันวาคม 2557

นักคิดและผู้บริหารสาวมือทอง อัญศศิร์ หงษ์คณะรักษ์ หรือลูกหมี เอ็มดีบริษัท อยู่เย็นเป็นสุข แอสเซ็ท ที่นอกจากความสามารถด้านการทำงานซึ่งเป็นที่ยอมรับแล้ว

โดย...ภาดนุ

นักคิดและผู้บริหารสาวมือทอง อัญศศิร์ หงษ์คณะรักษ์ หรือลูกหมี เอ็มดีบริษัท อยู่เย็นเป็นสุข แอสเซ็ท ที่นอกจากความสามารถด้านการทำงานซึ่งเป็นที่ยอมรับแล้ว เธอยังดูแลตัวเองให้มีสุขภาพและผิวพรรณที่ดีอยู่ตลอด เรียกได้ว่าเธอครบเครื่องสมเป็นเวิร์กกิ้งวูแมนยุคใหม่จริงๆ

“ถ้าพูดถึงธุรกิจที่เป็นของตัวเอง ดิฉันมีตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท อยู่เย็นเป็นสุข แอสเซ็ท ซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ทำคอนโดมิเนียมและหมู่บ้านจัดสรรทางภาคใต้ของไทย และยังเป็นซีอีโอของบริษัท เอช แอนด์ โค เทรดดิ้ง ซึ่งทำธุรกิจด้านสกินแคร์แบรนด์โกลว์โมริ (Glowmori) นอกจากนี้ยังเป็นที่ปรึกษาทางด้านการตลาดให้กับบริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ ให้กับเพื่อนที่สนิทกันด้วยค่ะ”

ลูกหมี เล่าว่า เธอคร่ำหวอดอยู่ในวงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาเป็นสิบๆ ปี ก่อนหน้านี้ ไม่เคยคิดจะมาจับทำธุรกิจสกินแคร์เลย แต่พอดีน้องชายของเธอบุกเบิกมาก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อคุยกันไปมาทั้งคู่จึงตัดสินใจทำธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ซึ่งเป็นแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาซะเลย

“ตอนนี้ก็เพิ่งจะเปิดตัวโปรดักต์ไปได้แค่ 3 เดือนเองค่ะ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากการที่เราเป็นคนรักสวยรักงามเป็นทุนเดิม และดิฉันเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนก็รักสวยรักงามเช่นกัน จึงเป็นแรงผลักดันให้สร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นมา ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่สกัดจากรังไหมสีทองที่มีในประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งสารสกัดที่ได้จากรังไหมสีทองนี้ผ่านการวิจัยจากห้องแล็บและผ่าน อย.ถูกต้อง ซึ่งกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นหญิงสาวอายุ 25-30 ปีค่ะ”

อัญศศิร์ หงษ์คณะรักษ์ มองปัญหาให้เป็นเรื่องท้าทาย

 

ลูกหมี บอกว่า การขายสินค้าแบบ Traditional Trade ในโลกออนไลน์นั้น แบรนด์โกลว์โมริได้ขายสินค้าสกินแคร์มาได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว แถมยังได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมอีกด้วย ส่วนการขายสินค้าแบบ Modern Trade หรือขายตามร้านวัตสัน ร้านขายยา และตามห้างร้านทั่วไปนั้น ตอนนี้สินค้าของโกลว์โมริก็เริ่มวางขายทั่วประเทศแล้วเช่นกัน

แม้จะทำธุรกิจมานาน หากการทำงานทุกอย่างย่อมมีอุปสรรคเสมอ “สำหรับตัวดิฉันเองก็มีลูกน้องอยู่เกือบ 100 คน ก็จะบอกกับลูกน้องอยู่เสมอว่า ถ้ามีอุปสรรคหรือปัญหาอะไรเกิดขึ้น อย่าคิดว่ามันเป็นปัญหา แต่ให้คิดว่ามันคือสิ่งท้าทาย เป็นประสบการณ์หนึ่งที่ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าวันนี้เราเจอเรื่องแบบนี้ เราต้องแก้ไขแบบนี้ ถ้าวันหน้าเราเจอเรื่องแบบนี้อีกก็จะสามารถจัดการกับมันได้ทันที”

ลูกหมีเสริมว่า ทัศนคติที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในการทำงาน เพราะการทำงานทุกอย่างย่อมต้องมีปัญหามากบ้างน้อยบ้าง อาจจะรู้สึกท้อได้ในบางครั้ง แต่ถ้าเรามีทัศนคติที่ดีหรือคิดบวกอยู่เสมอ ทีมที่เราทำงานด้วยคิดบวกอยู่เสมอ พลังด้านบวกเหล่านี้ก็จะยิ่งทวีคูณมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้การทำงานมีทีมเวิร์กและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นไปด้วย

เป็นเวิร์กกิ้งวูแมนสาวที่งานล้นมือ เธอมีวิธีจัดการตารางชีวิตตัวเองยังไงหนอ... “วันจันทร์-ศุกร์ ดิฉันทำงานหนักมาก คิวงานแน่นเอี้ยด เลขาของดิฉันยังถึงกับพูดว่า ‘พี่คะ พรุ่งนี้พี่จะไหวเหรอคะ’ เพราะบางครั้งตารางงานของดิฉันมีตั้งแต่แปดโมงเช้าจนบางครั้งเที่ยงคืนยังประชุมอยู่เลย ก็ตอบเลขาไปว่า ‘ไหวสิ’ แต่พอถึงวันเสาร์-อาทิตย์ ดิฉันจะชัตดาวน์ตัวเองเลย ใครจะชวนคุยเรื่องงาน ไม่คุยแล้วค่ะ ขอใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัวและพ่อแม่พี่น้องก่อน เพราะแม้จะคุยกันตอนเที่ยงคืนมันก็แก้ปัญหาอะไรไม่ได้แล้ว สู้นอนเอาแรงไว้แก้ปัญหาในวันพรุ่งนี้ดีกว่าค่ะ”

อัญศศิร์ หงษ์คณะรักษ์ มองปัญหาให้เป็นเรื่องท้าทาย

นอกจากการพักผ่อนแล้ว ในวันหยุดช่วงวีกเอนด์ ลูกหมียังใช้เวลาให้มีค่าด้วยการออกกำลังกายหลายๆ อย่าง ทั้งชกมวยที่ยิมทุกสัปดาห์ วิ่งที่สวนลุม และไปดำน้ำถ้ามีวันหยุดยาว ซึ่งกีฬาเหล่านี้เป็นตัวช่วยที่ดีให้เธอฟื้นตัวจากโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึ่งรักษาจนเกือบหายขาดแล้วได้ดีเชียวล่ะ เพราะกีฬาอย่างการต่อยมวยนั้นเป็นกีฬาที่ได้ทั้งสมาธิ ได้ทั้งคาร์ดิโอ อีกทั้งยังช่วยเสริมกล้ามเนื้ออีกด้วย

เป็นสาวสวยบุคลิกดีขนาดนี้ ถ้าไม่ถามถึงสไตล์การแต่งตัวของเธอก็ดูกระไรอยู่ “ถ้าเป็นวันทำงานปกติทั่วไป ดิฉันมักจะแต่งตัวแบบไม่เป็นทางการเท่าไรค่ะ ยกเว้นว่าจะต้องไปงานที่เป็นทางการก็จะให้เกียรติงานนั้นๆ ชุดประเภทสูทสำหรับผู้หญิงนี่จะใส่น้อยมาก ถ้าจะใส่สูทก็ต้องเป็นสูทที่ค่อนข้างมีสไตล์เป็นของตัวเอง ดิฉันมีแนวการแต่งตัวที่ค่อนข้างแฟชั่นหน่อย เพราะรู้สึกว่าหน้าที่การงานของตัวเองเป็นงานด้านมาร์เก็ตติ้ง อีกอย่างนึงเราทำธุรกิจเกี่ยวกับสกินแคร์ เราจึงต้องแต่งตัวให้คนอื่นรู้สึกว่าเราค่อนข้างทันสมัยและดูดีอยู่เสมอ ดิฉันว่าลุคเนี่ยสำคัญนะคะ”

แต่ถ้าวันไหนต้องออกไปตรวจตามไซต์งาน ต้องไปคุยกับวิศวกรหรือช่างก่อสร้าง เธอก็สามารถแต่งตัวแนวลุยๆ แบบกางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบได้เหมือนกัน “จริงๆ แล้วเรื่องเสื้อผ้าดิฉันสามารถใส่ได้ทุกแบรนด์เลยนะ แต่จะค่อนข้างให้ความสำคัญกับรองเท้าเป็นพิเศษ เพราะหากรองเท้าไม่สวยปั๊บ จะทำให้ชุดที่ใส่มาดร็อปไปเลยค่ะ หรือบางทีชุดที่ใส่ไม่ได้แพงมาก แต่รองเท้าเนี่ยเริ่ดสุดๆ ก็ทำให้ทั้งชุดมันดูดีขึ้นมาหมดเลย เรียกว่าดิฉันจะผสมผสานตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้ามากน้อยตามความเหมาะสม โดยดูคาแรกเตอร์ของตัวเองเป็นหลัก”

อัญศศิร์ ทิ้งท้ายว่า เครื่องประดับที่ชอบใส่ประจำรวมทั้งสะสมด้วยก็คือนาฬิกา ซึ่งมีทั้ง ปาเต็ก ฟิลิปป์ โรเล็กซ์ และแฟรงค์ มูลเลอร์ โดยจะใส่เวียนกันไปตามชุดของวันนั้นๆ ส่วนเสื้อผ้าแบรนด์ที่ชอบและใส่แล้วรู้สึกว่าเป็นตัวเองมากที่สุดก็คือ กอมเดกาซงส์ ท็อปช็อป อีฟแซงต์โลร็อง และชาแนล ส่วนเสื้อผ้าแบรนด์ไทยจะชอบโคลเซ็ทและบูดัวร์ ซึ่งถือว่าเธอเป็นแฟนพันธุ์แท้ของสองแบรนด์นี้เลยก็ว่าได้

อัญศศิร์ หงษ์คณะรักษ์ มองปัญหาให้เป็นเรื่องท้าทาย