หน้าติดถัง หลังติดเธอเสียงคำรามนักซิ่ง บิ๊กไบค์
ถ้าถามสาวสักคนว่าชั่วโมงนี้เธออยากขี่อะไร ให้เชื่อเถอะ คำตอบที่ว่า “บิ๊กไบค์ซิคะ”
โดย...กองบรรณาธิการ
ถ้าถามสาวสักคนว่าชั่วโมงนี้เธออยากขี่อะไร ให้เชื่อเถอะ คำตอบที่ว่า “บิ๊กไบค์ซิคะ”
นั่นเพราะรูปโฉมที่บึกบึน ดูเท่ยามได้ขึ้นคร่อม เสียงเครื่องยนต์ที่เร้าใจ และเข้ากันกับไลฟ์สไตล์คนแห่งยุคสมัยที่ชอบท่องเที่ยวกันเป็นแก๊ง บิ๊กไบค์นี่แหละตอบโจทย์ที่สุด
เทรนด์ใหม่ของคนขับขี่ในช่วง 5 ปีหลัง คือ เจ้ามอเตอร์ไซค์คันโตที่โฉบเท่ ได้เพิ่มยอดในท้องถนนส่งเสียงคำรามกระหน่ำเมือง ทว่าอีกด้านก็สร้างความรำคาญที่มักโชว์ออฟทำผิดกฎจราจร ออกเลนขวาขึ้นทางด่วน แสดงตนเป็นเจ้าถนน ก่อนจะเกิดอุบัติเหตุสยองด้วยความคึกคะนองหลายครั้ง
“ผมอยากให้มีการจัดระเบียบการขับขี่ของกลุ่มบิ๊กไบค์ให้หมด แต่มันเป็นเรื่องใหญ่ที่จะมีการเข้ามาจัดการกับปัญหาเหล่านี้” นรธัช ทองศรีหนึ่งในสมาชิก กลุ่มสายคลองบิ๊กไบค์ คลับ กล่าวกับ @weekly
เขาบอกว่า ปัจจุบันบิ๊กไบค์เริ่มตั้งแต่ขนาด 250 ซีซี แต่เมื่อก่อนเป็นขนาดเครื่องยนต์ 400 ซีซีและขยับขึ้นเครื่องยนต์หลัก 1,000 ซีซีขึ้นไป อีกกลุ่มจะเป็นพวกขับช็อปเปอร์ ซึ่งพฤติกรรมขับขี่จะไม่เร็ว ที่สำคัญไม่ค่อยเกิดอุบัติเหตุ แต่ที่เป็นข่าวและเกิดอุบัติเหตุบ่อยนั้นมาจากกลุ่มบิ๊กไบค์มือใหม่ที่เข้ามาขับขี่บิ๊กไบค์โดยไม่มีทักษะที่ดีพอ
“ต้องเพิ่มความรู้ความเข้าใจด้วยวิธีการอบรมผู้ขับขี่มือใหม่ก่อนออกสู่ถนนจริง และเข้มงวดทั้งเรื่องกฎหมายของผู้ขับขี่ให้ชัดเจน เช่น ใบอนุญาตขับขี่ ทักษะการขับ เพราะกลุ่มเด็กมือใหม่ที่หันมาขับยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องของบิ๊กไบค์ ส่วนใหญ่พวกนี้มาจากกลุ่มที่เคยขับรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กมาก่อน” สมาชิกกลุ่มสายคลองบิ๊กไบค์ คลับซึ่งเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ย่านชานเมืองรวมตัวกันตั้งแต่สายคลอง 1-15 จังหวัดปทุมธานี กล่าว
ปัจจุบันปัญหากลุ่มการขับขี่บิ๊กไบค์มีความเสี่ยงเกิดอันตรายมาก ทั้งเสียหลักล้มคว่ำ ชนประสานงากับรถยนต์จนเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก จนเป็นข่าวหนังสือพิมพ์ต่อเนื่องตลอดเดือน เช่น “2 หนุ่มซิ่งบิ๊กไบค์ แหกโค้งชนเสาไฟฟ้าดับคู่” “ดีเจต้อมขี่บิ๊กไบค์แหกโค้งดับ” “บิ๊กไบค์หลุดโค้งชนกระบะ สาวซ้อนท้ายตาย-หนุ่มคนขับรอด” “ซิ่งบิ๊กไบค์ชนเหล็กกั้นขาด 2 ท่อน”
สาเหตุหนึ่งของอุบัติเหตุตามที่นรธัชวิเคราะห์มาจากจำนวนบิ๊กไบค์ที่เพิ่มสูงขึ้นจาก บริษัทโชว์รูม หรือนายหน้าตัวแทนจำหน่ายบิ๊กไบค์ ทำโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย สามารถผ่อนดาวน์ได้ถูก มีโปรโมชั่นล่อตาล่อใจ ทำให้กลุ่มนักขี่มือใหม่ที่่มีความต้องการสูง ขยับจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ขนาดเล็กมาขับขี่รถขนาดใหญ่ ยอดบิ๊กไบค์จึงเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วง 10 ปีก่อน
“จำนวนบิ๊กไบค์ที่เพิ่มขึ้น แต่ทักษะการขับขี่กลับไม่เพิ่มขึ้นตามด้วย ซึ่งการขับรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กหันมาขี่รถขนาดใหญ่รูปแบบการขับขี่มีความแตกต่างกันมาก ทั้งเรื่องการประคองหรือบังคับรถ แรงเฉื่อยที่เพิ่มขึ้น ระยะการเบรก แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“นอกจากนี้ยังมีเรื่องของกฎระเบียบบนท้องถนนที่กลุ่มมือใหม่ยังไม่มีความรู้ความเข้าใจมากพอ คิดเพียงอย่างเดียวว่ารถขับเร็ว จึงขับไม่เคารพกฎหมายวิ่งย้อนศร ขับขึ้นทางด่วนด้วยความคึกคะนอง ถือเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่งบนท้องถนน กลุ่มเหล่านี้ไม่เคยผ่านการอบรม เพียงเพราะรถจักรยานยนต์ซื้อง่าย บวกกับความต้องการเท่านั้น
“การขี่ได้กับขี่เป็นมันแตกต่างกันนะ ต้องแยกกันให้ออก เพราะใครๆ ก็ขี่ได้ คำว่าขี่เป็นแล้วปลอดภัยถือว่ามีน้อยมาก ทุกวันนี้จึงเห็นข่าวบิ๊กไบค์เกิดอุบัติเหตุจำนวนมาก นั่นมาจากการขี่ได้แต่ขี่ไม่เป็นมากกว่า” นรธัช กล่าว
รถใหญ่/เล็ก กฎหมายเดียวกัน
ในมุมของตำรวจจราจรที่ควบคุมความปลอดภัยบนท้องถนน ระบุชัดว่าส่วนใหญ่แล้วอุบัติเหตุของรถบิ๊กไบค์ที่เกิดขึ้น มักเกิดจากความเร็วของตัวรถจักรยานยนต์ที่มีแรงขับสูง ขณะที่ความชำนาญของคนขับอาจไม่ดีเพียงพอ ทำให้หลายครั้งที่ประสบเหตุเกิดจากการ “เอาไม่อยู่”
พ.ต.อ.วีระวิทย์ วัจนะพุกกะ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร (รอง ผบก.จร.)กล่าวให้เห็นภาพว่า เมื่อถนนโล่ง ยิ่งยามค่ำคืน หลายคนก็อยากจะลองรถของตัวเองว่าแรงขนาดไหน แต่บิ๊กไบค์นั้นหลายคันที่มีประเภทที่ควรจะขับในสนามแข่งเท่านั้น
แต่ในมุมของกฎหมาย รถเล็กหรือรถใหญ่แบบบิ๊กไบค์ ก็ต้องเคารพกฎจราจรภายใต้มาตรฐานเดียวกัน
“รถบิ๊กไบค์ต้องปฏิบัติตามกฎหมายจราจร พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 เหมือนรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กทุกอย่าง”
ง่ายๆ คือ จะต้องขับขี่ชิดขอบทางด้านซ้าย ห้ามวิ่งช่องทางด้านขวาเด็ดขาด รวมถึงไม่สามารถวิ่งบนทางด่วนได้ ส่วนความดังของเสียงที่โหยหวนตามความแรงของรถนั้น จะต้องดังไม่เกิน 95 เดซิเบล
ลักษณะการขี่จะต้องชิดขอบทางด้านซ้ายถึงแม้ว่ารถจะมีขนาดใหญ่ก็ไม่สามารถวิ่งบนทางด่วน หรือเลนขวาสุดได้ แม้ส่วนควบสภาพรถจะต้องมั่นคงแข็งแรงมีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง ติดแผ่นป้ายทะเบียนชัดเจนสามารถมองเห็นได้ จะต้องไม่มีเสียงดังเกิน 95 เดซิเบล และที่สำคัญไปกว่านั้นเมื่อออกมาวิ่งบนถนนจะต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน
ทั้งนี้ หากพบว่ารถเหล่านี้วิ่งช่องทางขวาสุด หรือวิ่งในช่องทางด่วน ตำรวจจะต้องจับปรับตามที่กฎหมายกำหนดปรับคือ 400-1,000 บาท ในกรณีที่ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ชำระภาษี ปรับ 2,000 บาท แต่ทั้งนี้หากจะมีการวิ่งเป็นขบวนเพื่อไปทำกิจกรรมต่างๆ ในลักษณะการขี่ไปแบบกลุ่มก้อนจะต้องมีการขออนุญาตจากเจ้าพนักงานจราจรตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ซึ่งผู้ที่จะสามารถอนุญาตจะต้องเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บังคับการตำรวจจราจรหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น หากมีการฝ่าฝืนเคลื่อนขบวนโดยพลการจะต้องถูกปรับ 500 บาท
จากข้อมูลสถิติการจดทะเบียนของรถจักรยานยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ หรือบิ๊กไบค์ ความแรงตั้งแต่ 800-1,800 ซีซี มียอดการจดทะเบียนรวมสะสมจากกรมการขนส่งทางบกในปี 2557 แยกเป็นป้ายแดงจำนวน 6.7 ล้านคัน และป้ายขาว 8.2 ล้านคัน
โตสวนกระแส 100%
ยอดบิ๊กไบค์ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด หากนับย้อนหลังไปไม่นานเพียง 2-3 ปี ตลาด บิ๊กไบค์น่าจับตามองเนื่องจากอัตราเติบโตก้าวกระโดดในระดับ 50-100% แม้ในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวและการเมืองยังอึมครึมในปี 2557ตลาดก็ยังมีอัตราเติบโตแบบสวนกระแส
ณัฐพล ไตรณัฐี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซเคิล คัลเจอร์โชว์ ผู้จัดงาน แบงค์ค็อก มอเตอร์ไบค์ เฟสติวัล 2015 กล่าวว่า บิ๊กไบค์โตสวนเศรษฐกิจชะลอตัวในปีที่ผ่านมาโดยภาพรวมปี 2557 ยอดขายอยู่ที่ 15,960 คัน โตขึ้น 22%เทียบปี 2556 และแบ่งสัดส่วนเป็นขนาดต่ำกว่า 400 ซีซี45% ขนาด 400-1,000 ซีซี 40% และขนาด 1,000 ซีซีขึ้นไป 15%
ขณะที่ีทิศทางตลาดรถจักรยานยนต์ในปี 2558 คาดจะมียอดขายรวม 1.8 หมื่นคัน โตขึ้นอีก 15-20% จากปี 2557 มาจากกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐที่จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภค รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวเต็มที่ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไป ทำให้มีความเชื่อมั่นดีขึ้นจึงกล้าใช้จ่าย สอดคล้องกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หลายๆ รุ่น ที่จะช่วยสร้างกระแสการตื่นตัวในตลาด รวมถึงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในช่วงปลายปีก็จะมีผลให้ตลาดเติบโตด้วยเช่นกัน
“ตลาดบิ๊กไบค์ในประเทศไทยยังมีโอกาสโตอีกมากจากรถในกลุ่มขนาด 500-1,000 ซีซี ที่มีความคึกคักมากขึ้นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดให้ความสนใจลงเล่นในตลาดเกือบครบทุกราย จึงมีโอกาสขยายตัวอีก และจากการที่มีการผลิตบิ๊กไบค์ในประเทศไทยมากขึ้นต่อเนื่องทำให้ราคาต่ำลง” ดอม เหตระกูล กรรมการผู้จัดการบริษัท บริทไบค์ ผู้จำหน่ายรถบิ๊กไบค์แบรนด์“ไทรอัมพ์” ให้ความเห็น
เมื่อมีผู้เล่นในตลาดเกิดขึ้นจากกระแสความแรงของบิ๊กไบค์ การแข่งขันในตลาดย่อมมีสูงขึ้นด้วยเช่นกัน อภิชาติ ลีนุตพงษ์กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูคาทิสติ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์แบรนด์ “ดูคาติ” บอกว่า การแข่งขันในตลาดรถบิ๊กไบค์ค่อนข้างรุนแรงเนื่องจากบริษัทผู้ผลิตต่างๆ ให้ความสนใจกับการลงทุนตั้งโรงงานในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ระดับราคาลดลงจากต้นทุนที่ต่ำลง
ขณะที่ทางฝั่งผู้บริโภคก็ต้องการรถบิ๊กไบค์ที่มีคาแรกเตอร์เป็นของตัวเอง จึงทำให้ตลาดมีโอกาสในการเติบโตได้เช่นกัน
ซาโตชิ อูชิดะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยซูซูกิมอเตอร์ เสริมว่า การที่ตลาดบิ๊กไบค์มีโอกาสเติบโตสูง มาจากผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายมีกำลังซื้อสูง จึงไม่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจหรือผลกระทบทางด้านอื่น
นอกจากนี้ ยังมีข่าวดีจากค่ายรถญี่ปุ่นเมื่ออัตราภาษีจากข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น จะลดลงเรื่อยๆ จากในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 16% ปีนี้ก็จะลดเหลือ 11% และค่อยๆลดลงจนเหลือ 0% ในปี 2560 ซึ่ง วีรพงษ์ ธนากิจจานนท์ผู้จัดการส่วนพัฒนาธุรกิจรถนำเข้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ประเมินว่าการลดภาษีดังกล่าวจะส่งผลดีต่อตลาดจากราคาบิ๊กไบค์ที่จะลดต่ำลง
“ต้องยอมรับว่าวันนี้สถานการณ์ตลาดบิ๊กไบค์เปลี่ยนจากผู้เล่นหลายรายที่ผลิตในประเทศและลดราคาจำหน่ายลงมา” วีรพงษ์ กล่าว
เห็นได้ว่าเหล่าบริษัทผู้ผลิตทั้งแบรนด์ญี่ปุ่นและแบรนด์ยุโรป ให้ความสนใจด้านการลงทุนเพื่อผลิตในประเทศไทย จากความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์การเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงความมีศักยภาพด้านการผลิตในความครบถ้วนในห่วงโซ่การผลิต อีกทั้งการเติบโตของตลาดที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง