posttoday

กีรดิต หิรัณยศิริ

10 กุมภาพันธ์ 2558

หลังจากเรียนจบปริญญาตรี ทางด้านไฟแนนซ์และการบริหารจัดการ

โดย...ปอย  ภาพ เสกสรร โรจนเมธากุล

หลังจากเรียนจบปริญญาตรี ทางด้านไฟแนนซ์และการบริหารจัดการ จากอินเดียนา ยูนิเวอร์ซิตี้ สหรัฐ กีรดิต หิรัณยศิริ รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอสโกลด์ แม่ทองสุก ลูกชายคนที่สองของ นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ จึงได้ก้าวเข้ามาสืบทอดธุรกิจทองคำอย่างเต็มตัว

แม้ว่า “เอ็ม กีรดิต” อายุไม่ถึงสามสิบ กับภาระการสานต่อกิจการครอบครัว แต่เขาก็มีเป้าหมายแรงกล้ากับการผลักดันกิจการษริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยระดมทุนให้นักลงทุนเข้ามาในตลาดทองคำอย่างเชื่อมั่นที่สุด

Hero ของผู้บริหารหนุ่มยังบลัด ยกให้นักธุรกิจในดวงใจ 2 คน ที่เป็นแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจสีทอง จุดประกายเรืองรองให้ชายหนุ่มในรุ่นที่สาม เข้ามาสานธุรกิจนี้อย่างกระตือรือร้น

ตัน ภาสกรนที  : ผมชื่นชมมุมมองธุรกิจที่ไม่เหมือนใคร มีความกล้า เชื่อมั่นกับการเดินตามความฝันของตัวเอง ไม่กลัวกับการนับ 1 ใหม่อีกครั้งกับการสร้างแบรนด์ใหม่ของตัวเอง ผมยิ่งชอบเขามากขึ้นเมื่อประสบเหตุการณ์มหาอุทกภัย ปี 2554 โรงงานอยุธยาโดนน้ำท่วมมิด แต่คุณตันกลับมีคำพูดที่มีอารมณ์ขันและน่าซาบซึ้งใจ “ผมเป็นกัปตันที่ต้องรับผิดชอบลูกเรือทุกคน...”

ทั้งที่เขาเป็นผู้บริหารซึ่งถูกห้ามไม่ให้เสี่ยงเข้าเขตนิคมน้ำท่วม แต่คุณตันก็เข้าไปกับคำพูดที่ว่า “...ผมทิ้งปัญหาไม่ได้ ผมไม่ทอดทิ้งลูกน้อง ผมต้องเข้าไป...” ซึ่งเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับสถานการณ์ของผมในการบริหารแบบคนรุ่นใหม่ ผมชอบและสนุกกับการวางแผนธุรกิจ แต่กลับไม่เคยหันกลับไปมองลูกน้องเลย จนถึงเหตุการณ์ปีที่ผ่านมาราคาทองตกลงเยอะครับ เพราะไปอิงกับเศรษฐกิจอเมริกาที่ดีขึ้น แล้วเมื่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจดีขึ้น ทองคำซึ่งเป็นที่พักเงิน คนก็โยกเงินจากการซื้อทองไปลงทุนอย่างอื่น ทั้งฝากเงิน ลงหุ้น แทนที่จะซื้อทองคำอย่างเดียว

ยอดบริษัทตกลงถึง 30% เราเครียดก็ไปไล่จี้เป้ายอดขาย พนักงานก็เหนื่อยมาก ท้อ ผมต้องลงไปเป็นที่ปรึกษาพนักงานเพื่อกระตุ้นยอด พอได้สัมผัสกับพวกเขา ก็ได้รู้สึกตัวเองว่าหลงลืมและหันไปดูแลลูกน้องก็เมื่อประสบปัญหาทางธุรกิจแล้ว และเมื่อผมได้เริ่มเข้าไปดูแล ก็ไม่ได้แค่ยอดตีกลับพุ่งขึ้น 35% เท่านั้น แต่กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่ผมได้กลับคืนมา คือพวกเขาดูแลเราค่อนข้างดีมากเลยครับ (บอกพร้อมรอยยิ้ม)

บางคืนผมทำงานกับพวกเขาจนดึกดื่นเที่ยงคืน พนักงานก็เอาขนมมาให้ ซึ่งขนมถุงเดียวนี้บอกถึงการส่งกำลังใจ ดูแลแคร์ซึ่งกันและกัน ห่วงใย ผมรู้สึกซึ้งน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ พนักงานยังดูแลเราเลยนะครับ แล้วทำไมเราไม่เคยให้ความรู้สึกนี้กับเขาเลย ทอดทิ้งเขาไปเสียนาน และรู้สึกพลาดที่เราสัมผัสความรู้สึกนี้ช้าเกินไป

ผมเคยเจอคุณตันนะครับ ...เขาบอกผมว่า “ทุกสิ่งที่เราเจอในธุรกิจ คือโอกาส ให้มองดีๆ มองรอบๆ ตัว มองสิ่งที่คนรอบข้างต้องการให้ดี ทำให้ผมเริ่มต้นที่การคลุกคลีทำงานกับพนักงานก่อนเป็นสิ่งแรก” กีรดิต บอกอย่างมั่นใจ และเล่าว่า ธุรกิจวันนี้ การลงทุนครบวงจร พนักงาน 300 กว่าชีวิต ร่วมแรงร่วมใจทำงานทั้งการลงทุนทองคำในระบบเทรดดิ้ง โรงงานทำทองรูปพรรณ และการขายหน้าร้าน กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุกโดยคาดการณ์ว่าบริษัทจะเข้าตลาด หลักทรัพย์ปลายปีนี้

คุณพ่อ-นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ : “ธุรกิจร้านทองเป็นกิจการของครอบครัวคุณพ่อ บุกเบิกโดยอาม่า หรือคุณย่า ซึ่งมีลูกเรียนเก่ง 4 คน และเป็นหมอทุกคนเลยนะครับ คุณปู่คุณย่าสนับสนุนด้วย เพราะไม่อยากให้ลูกอยู่ในธุรกิจนี้ เพราะด้วยความที่มูลค่าธุรกิจสูง ก็ต้องอยู่โยงเฝ้าร้าน ซึ่งคุณย่าก็กลัวลูกๆ เบื่อ แล้วถ้าลูกๆ เรียนจบก็จะปิดร้าน ซึ่งก็คือการขายปลีกทองในแบบที่เรียกว่าทองตู้แดง คุณพ่อก็สงสารที่พ่อแม่จะต้องปิดกิจการ จึงเลือกหยุดอาชีพแพทย์มาช่วยร้านค้าทอง

ด้วยความที่ท่านเป็นหมอ ก็ต้องยอมรับนะครับว่าวิสัยทัศน์ดีคุณพ่อมองเห็นว่าทองคำนอกจากเป็นเครื่องประดับแล้วยังเป็นการลงทุน โดยนำวิธีการลงทุนที่ประสบความสำเร็จจากต่างประเทศมาให้คนไทยได้ลงทุนกัน และไทยก็ทำได้ง่ายมาก เพราะมีร้านค้าทองคำเยอะ สามารถซื้อขายได้ตลอดเวลา อ่านหนังสือพิมพ์หรือคลิกออนไลน์ก็รู้ราคาทองคำ คุณพ่อจึงสร้างตลาดโดยวิธีการซื้อขายทองคำแบบกระดาษ หรือที่เรียกว่า โกลด์ ฟิวเจอส์ เข้ามาในไทย โดยเริ่มจาก
การให้ข้อมูล วิธีบริหารจัดการ ที่จะทำให้เงินของเรางอกเงย

คุณพ่อคือฮีโร่ที่บอกผมเสมอครับว่าการหาความรู้ทำได้ตลอดเวลา โดยทำ 3 วิธี ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว คือ 1.อ่านหนังสือ 2.คบเพื่อนเพื่อแชร์ประสบการณ์ 3.การทำงานหาประสบการณ์ด้วยตัวเอง ผมใช้ชีวิตด้วย 3 ข้อนี้ โดยมีคติที่ว่า... Lightning don’t strike the same place twice. คือฟ้าจะไม่ผ่าที่เดิมซ้ำสอง เวลาผมทำงานจึงไม่กลัวการผิดพลาด เพราะถ้าพลาดเราจะไม่พลาดซ้ำสองแน่นอน

การทำงานของผมจึงรุกบุกไปข้างหน้า ผมชอบแก้ไขปัญหาไปกับลูกน้อง แล้วสไตล์ตรงไปตรงมา ร่าเริง กล้าได้กล้าเสีย และกล้าเสี่ยงที่จะทำอะไรใหม่อยู่เสมอ” กีรดิต บอกด้วยน้ำเสียงมั่นใจสไตล์ยังบลัดน่าจับตา