เราคือซาโดมาโซคิสม์?

22 กุมภาพันธ์ 2558

มนุษย์อย่างเราๆ ท่านๆ ต่างมีความต้องการที่จะเห็นคนอื่นเจ็บปวดไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอยู่เสมอ

โดย...ตุลย์ จตุรภัทร

มนุษย์อย่างเราๆ ท่านๆ ต่างมีความต้องการที่จะเห็นคนอื่นเจ็บปวดไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอยู่เสมอ ในขณะเดียวกันมนุษย์อย่างเราๆ ท่านๆ ต่างก็ซุกซ่อนความสุข เวลาที่ได้รับความเจ็บปวดจากการกระทำของคนอื่นๆ อยู่ลึกๆ ในใจ พูดง่ายๆ ว่า มนุษย์อย่างเราๆ ท่านๆ ต่างมีความเป็นซาโดมาโซคิสม์ไม่ต่างกัน

แล้วซาโดมาโซคิสม์ คืออะไร ทำไมผมถึงฟันธงว่าเราๆ ท่านๆ ต่างมีสิ่งนี้ติดตัวมาเหมือนๆ กัน ซาโดมาโซคิสม์ คือชื่อเรียกที่หลอมรวมมาจาก ซาดิสม์ (Sadism) หมายถึงผู้ที่มีความสุขหรือความพึงพอใจในความเจ็บปวดและความทุกข์ของผู้อื่น กับ มาโซคิสม์ (Masochism) หมายถึงผู้ที่มีความสุขหรือความพึงพอใจเมื่อได้รับความเจ็บปวดหรือความทุกข์กับตัวเอง

คริสเตียน เกรย์ และ แอนัสเตเซีย สตีล แห่ง Fifty Shades of Grey ก็เป็นหนึ่งในนั้น ในขณะเดียวกับที่โทมัสและแวนดา แห่ง Venus in fur ก็ไม่ต่างกัน

สิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้จากตัวละครเหล่านี้ มันคือสิ่งเรียบง่าย ที่ไม่ต้องปีนบันไดทำความเข้าใจให้ยุ่งยาก แค่เวลาเรามีแฟน แล้วเห็นแฟนตั้งกฎเกณฑ์ต่างๆ มากมาย ทำไมเราถึงยอมจำนนทำตามกฎเกณฑ์นั้น การยอมจำนน คืออาการของคนที่ไม่อยากทำแต่ก็ต้องทำ รู้สึกทุกข์ทรมาน แต่ก็มีความสุขอยู่ในนั้นอยู่ในที

ส่วนคนที่เป็นคนตั้งกฎเกณฑ์ต่างๆ นานาขึ้นมามากมาย หากลองเรียนรู้ตัวตนของคนคนนั้น เราจะค้นพบว่า นี่คือทางออกของตัวเขาเอง เป็นทางออกที่มาจากการที่เขาเคยโดนตั้งกฎเกณฑ์มาก่อน มันเป็นทางออกที่มีวงเล็บต่อท้าย นั่นคือการแก้แค้นเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากการที่เคยเป็นฝ่ายโดนกระทำ

หรือเวลาเราทำงาน เมื่อเห็นเพื่อนร่วมงานโดนเจ้านายด่า ถามว่าเราเห็นใจเขาไหม แน่นอนว่า เราเห็นใจ แต่ถ้ายกเอาแบบสันดานดิบของมนุษย์ขึ้นมาพูด ลึกๆ ในใจ เราแทบจะตะโกนกู่ร้องอย่างสาสะใจ ว่ากูดีใจเหลือเกินที่เห็นมึงโดนเจ้านายด่า กูรู้สึกมีความสุข สุขที่เหนือกว่า สูงส่งกว่า และมีคุณค่ามากยิ่งกว่า

ในขณะเดียวกันเมื่อเราโดนเจ้านายด่า ถามว่าเจ็บปวดไหม เจ็บปวด แต่คงไม่เจ็บเท่า เมื่อเรารู้สึกว่าคนรอบข้างกำลังรุมทำร้ายเราด้วยการแอบยิ้มที่มุมปากอย่างสาสะใจ แล้วความเจ็บปวดนั้นก็ทดแทนมาด้วยความสุข หากคนเหล่านั้นหยิบยื่นความเห็นใจมาให้เรา

เห็นไหมว่า สิ่งเหล่านี้มันคือสิ่งที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ภายในใจ มันเป็นตัวตนอีกด้านที่ไม่อาจเปิดเผยออกมาแบบตรงๆ ได้ แม้กระทั่งเรื่องความต้องการทางเพศ หรือเรื่องบนเตียง

เราคือซาโดมาโซคิสม์?

 

ในสังคมที่ผู้ชายมีความหมายเท่ากับยิ่งใหญ่กว่าผู้หญิง เราจะเห็นได้ว่าผู้หญิงมักเป็นฝ่ายถูกกระทำ ถูกครอบงำ ถูกชี้นำ เลยเถิดไปถึงถูกบังคับ แล้วอำนาจของผู้ชายมาจากไหน พูดง่ายๆ ว่า มันมาจากไอ้นั่นน่ะแหละ แค่มีไอ้นั่น มันก็มีอำนาจแล้ว

ซึ่งเพราะอำนาจของความเป็นชายที่มาจากไอ้นั่น มันเลยทำให้ผู้หญิงต่างลุกฮือขึ้นมาแสดงอำนาจให้ผู้ชายได้รู้สึกสำนึกสำเหนียกเสียบ้างว่า ไม่มีใครถูกกระทำ ถูกครอบงำ ถูกชี้นำ หรือถูกบังคับไปได้ตลอดชีวิตหรอก อีกทั้งลุกขึ้นมาแสดงพลังอำนาจของไอ้นั่นของผู้หญิง ป่าวประกาศให้โลกรู้ว่า ฉันก็มีพลังอำนาจไม่แพ้กัน ซึ่งการคานอำนาจกันและกันอย่างนี้ เมื่อวิเคราะห์ดูให้ดี นี่คือโลกแห่งซาโดมาโซคิสม์ชัดๆ

แต่ท้ายที่สุด ไม่ว่าไอ้นั่นของชาย หรือไอ้นั่นของหญิงจะมอบพลังอำนาจให้แต่ละฝ่ายมากมายเพียงใด ถามว่า แล้วเรามีความสุขแท้จริงไหม คำตอบคือไม่มี ที่จะมี ก็มีแค่ความสุขจอมปลอมอันแสนสั้น ที่ทำให้เราทุกข์ทรมานแสนยาวนานไปตลอดชีวิต เจ็บปวดชนิดที่เรียกได้ว่า หน้าชื่นอกตรมเลยทีเดียวเชียวแหละ

แล้วเราจะถอยห่างออกจากการเป็นซาโดมาโซคิสม์ได้อย่างไร

แค่เราได้ลองรักใครสักคน เมตตาเขา ไม่อยากเห็นเขาเจ็บปวด ในขณะเดียวกับที่เราก็รักตัวเอง เมตตาตัวเอง ไม่อยากเห็นตัวเองเจ็บปวดเช่นเดียวกัน บางที ความรักความเมตตานี้ อาจเป็นพลังอำนาจที่แท้จริง ที่สามารถเอาชนะความเป็นซาโดมาโซคิสม์ในตัวเองของเราได้ แม้ว่าเราอาจต้องใช้เวลา อาจต้องใช้ความรักและความเมตตาอยู่ตลอดทุกลมหายใจ แต่ถ้าไม่เริ่มทำตั้งแต่ตอนนี้ แล้วเราจะถอยห่างออกมาได้เมื่อไร

จริงไหมครับ?

Thailand Web Stat