ความงามในโทนขาวดำ
และแล้วเราก็มาถึง “เดอะแจม แฟคทอรี” (ใกล้ท่าเรือคลองสาน) แกลเลอรี่ขนาดจิ๋วที่อยู่ในวงล้อมของคาเฟ่ ร้านหนังสือ
โดย...แจนยูอารี ภาพ อัคร เกียรติอาจิณ-ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์
และแล้วเราก็มาถึง “เดอะแจม แฟคทอรี” (ใกล้ท่าเรือคลองสาน) แกลเลอรี่ขนาดจิ๋วที่อยู่ในวงล้อมของคาเฟ่ ร้านหนังสือ และโชว์รูมของแต่งบ้าน ว่าไปแกลเลอรี่แทบไม่ดึงดูดใจไปมากกว่ากลิ่นกาแฟคั่ว หนังสือหายาก หรือของแต่งบ้านชิ้นเก๋ แต่เพราะที่นั่นสงบเงียบ มันจึงกลายเป็นตัวประกอบขโมยซีนที่ใครๆ ก็ต้องแวะ
ทางเดินเล็กๆ นำเราเข้าสู่พื้นที่แสดงงานศิลปะ เมื่อหันหลังกลับมา นอกจากภาพคุ้นชิน คนนั่งจิบกาแฟ อ่านหนังสือ หรือเลือกชมและซื้อของแต่งบ้าน ก็คงหนีไม่พ้นต้นไทรใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขากับสนามหญ้าสีเขียวบางเบาเพราะยังไม่สมบูรณ์ดีนัก
สีเขียวของสองสิ่งช่างเข้ากับผนังสีเขียวภายในแกลเลอรี่ได้ดี เป็นความตั้งใจที่เจ้าของผลงาน “ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์” ผูกโยงกับภาพถ่ายขาวดำ ความเย็นจากแอร์คอนดิชั่นทำให้ภาพภูเขาหิมะดูเด่นชัดขึ้น ราวกับว่าเรากำลังไปเยือนภูเขาแห่งนั้นจริงๆ
“สิ่งที่ผมถ่ายนี้มันคือการขโมยโมเมนต์นั้นๆ ของธรรมชาติที่เป็นอยู่ออกมา ไม่ได้เติมแต่ง เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง เรายืน ณ จุดนั้นแล้วธรรมชาติพูดอะไรกับเราบ้าง เหมือนเราช้าลง ซึ่งผมมองเพียงว่าบางทีปล่อยให้สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเราได้สื่อสารกับเราบ้าง แล้วเราก็ถ่ายทอดสิ่งนั้นกลับออกมา คือผมอยากให้คนดูรูปผมรู้สึกเหมือนว่ายืนอยู่ข้างๆ ผมตอนที่ผมกดชัตเตอร์ แค่นั้นจริงๆ ครับ”
ห้องกระจกใส บรรจุผลงานภาพถ่ายขาวดำ เรียงแขวนอย่างเป็นระเบียบ ผนังสีเขียวพาสเทลคือสัญญะอย่างหนึ่งที่เจ้าของผลงานพยายามจะโยงใยไปหาสิ่งต่างๆ ที่ปรากฏในเฟรม ผู้คน ตึก ต้นไม้ หาดทราย ท้องฟ้า ซึ่งภาพส่วนใหญ่หาได้มีขนาดบิ๊กเบิ้มไม่ เป็นเพียงภาพถ่ายขนาดปกติ หากลองถอยห่างออกมาดูไกลๆ ก็อาจมองเห็นไม่ถนัดว่าสิ่งนั้นคืออะไร
What Where When Why อันเป็นชื่อนิทรรศการชุดนี้ จึงซ่อนด้วยวาระและคำจำกัดความที่เจ้าของผลงานปักธงไว้ว่า มันไม่ใช่สิ่งที่กำลังมอง แต่เป็นคุณค่าทางความรู้สึก
“ต้องบอกตามตรงเลยครับว่าของจริงมันสวยกว่าตาเห็น ฉะนั้นสิ่งที่ผมชอบมากที่สุดตอนถ่ายภาพคือพื้นที่ในจินตนาการ ผมเลยลดทอนความเป็นจริงลง ด้วยการถ่ายเป็นภาพขาวดำ เวลาคนดูภาพจะเห็นแค่สองโทนนี้ แต่จริงๆ ในใจเราก็อาจจะเห็นภาพสี แต่ละคนจะมีวิธีแต่งแต้มสีต่างกันไป ผมว่าตรงนี้แหละคือเสน่ห์ของภาพขาวดำ
ปกติเวลาเรายืนอยู่ที่หนึ่งซึ่งมองเห็นความงามของมัน เรามักแต่จะคิดว่าถ่ายทอดความงามแบบไหน ทำยังไงให้รูปมันสวยที่สุด เหมือนเราทำตัวเป็นนักล่าและเมื่อเป็นอย่างนั้น ผู้ถูกล่าก็จะหนีเราออกไปทุกขณะ คราวนี้ผมก็เลยวางตัวเองและเปลี่ยนวิธีคิดให้อยู่ในฐานะผู้สังเกตการณ์ แล้วก็แค่หยิบฉวยช่วงเวลาตรงนั้นออกมาถ่ายทอด”
นั่นก็ไม่แปลก หากภาพถ่ายชุดนี้ของตุลย์จะเรียบๆ ถึงเรียบง่าย ไม่ได้หวือหวา อลังการ มีช็อตเทพ ท้าทายสายตาด้วยเทคนิค หรือมุมกล้องสุดพิสดาร กระทั่งองค์ประกอบภาพ ก็เป็นอะไรธรรมดา แต่ทั้งหมดเป็นความตั้งใจและจงใจของเขาที่ต้องการให้ภาพถ่ายขาวดำเล่าเรื่องตามวิถีและขนบของมัน สิ่งที่ตาเห็นคือสิ่งที่เป็นอยู่ สิ่งที่อยู่ในเฟรมคือเรื่องราวอันเป็นธรรมชาติที่ก่อเกิดและขับเคลื่อนไปอย่างไม่ได้ประดิดประดอย
“ความรู้สึกมันเหมือนเอาปลาแซลมอนมาทำผัดกะเพรา วัตถุดิบชั้นยอดไม่ได้แปลว่าจะเป็นจานอร่อยได้เสมอไป แต่สิ่งที่เรียบง่ายและกินได้เรื่อยๆ มันคือของจริงมากกว่าครับ เหมือนกัน การถ่ายภาพ ต่อให้มีกล้องราคาแพง ใช้เทคนิคซับซ้อน หรือแพรวพราวพิสดารแค่ไหน ถ้าคนดูภาพแล้วไม่เข้าใจความหมายสิ่งที่อยู่ในภาพ มันก็ไม่มีประโยชน์ ผมเชื่อว่าเป้าหมายของคนถ่ายภาพย่อมมีจุดหมายเดียวกัน แต่ทางเดินมันอาจมีหลายทาง”
นิทรรศการภาพถ่าย What Where When Why จัดแสดงจนถึงวันที่ 8 มี.ค. โทร.02-816-0950-1