ความลับในความจริง เป็นแต่ไม่เปิด
มีความลับมาเปิดเผย เปิดให้ทุกคนได้รู้กันว่า คนที่ “เป็นเกย์” แต่ “ไม่เปิดตัว” มีเยอะจริงๆ
โดย...แจนยูอารี
มีความลับมาเปิดเผย เปิดให้ทุกคนได้รู้กันว่า คนที่ “เป็นเกย์” แต่ “ไม่เปิดตัว” มีเยอะจริงๆ ความลับนี้ถูกเปิดมาจากปากพวกเขาที่มีตัวตนอยู่จริง มีเลือดเนื้อ มีลมหายใจ มีหน้าที่การงานดี เป็นที่นับหน้าถือตา ที่สำคัญพวกเขามีเกียรติศักดิ์ศรีในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง บางรายมีครอบครัว มีภรรยาและลูก ไม่ต้องตกใจจนอารามคุณพระ!! หรือแม่เจ้า!! ทั้งหมดนี้คือความในใจของพวกเขาถึงเหตุที่ยัง “ไม่ยอมเปิดตัว”
เพราะทุกอย่างเป็นความลับและเพื่อให้ “คนปิดตัว” (กับเรา) เหล่านี้ยังสามารถที่จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างสวยๆ เก๋ๆ จึงขอสงวนนามและอาชีพ รวมถึงถิ่นฐานที่มั่นไว้ ขอกราบงามๆ ที่หาญกล้ามาบอกเล่าและร่วมแบ่งปันประสบการณ์ “เป็นแต่ไม่เปิด” ในครั้งนี้
@อ. อายุ 28 สถานะ ไม่โสด
ปลายสายโทรศัพท์บอกกับเราว่าเขายินดีจะเล่าชีวิตส่วนตัวให้ฟัง แต่เขาขออย่างเดียว ขอเวลาพักเที่ยงวัน ให้ภรรยาเตรียมอาหารเที่ยง เขาก็พร้อมจะเปิดปาก เลยเที่ยงไปแค่ 5 นาที เราก็กดเบอร์โทรศัพท์ไปหาเขา สัญญาณโทรศัพท์ชัด เช่นเดียวกับน้ำเสียงของเขาก็ชัดถ้อยชัดคำ เขาตื่นเต้นเล็กน้อย เขาบอกกับเรา เพราะนี่คือครั้งแรกที่เขาให้สื่อสัมภาษณ์
เราคุยกับ อ.ทุกเรื่องที่สงสัย และคำถามก็ตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา เขาบอกว่า ตอนนี้เขาก็ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่เกย์ เป็นผู้ชายคนหนึ่ง มีครอบครัว มีภรรยา เขาทำหน้าที่ไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งงานราษฎร์ งานหลวง งานส่วนตัว กระทั่งเรื่องบนเตียง แต่สิ่งที่ทำให้เขาบอกกับตัวเองว่าเป็นเกย์คือการปรากฏตัวของชายคนหนึ่งที่เข้ามาพัวพัน หลังทั้งคู่ติดต่อธุรกิจด้วยกัน
“ผมรู้สึกว่าเวลาผมอยู่ใกล้ๆ เขาแล้วมันต่างกับตอนที่อยู่กับภรรยา มันไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กซ์อย่างเดียวนะ แต่มันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่คลิกกัน ชอบอะไรเหมือนๆ กัน ไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงกัน ส่วนกับภรรยาก็คนละแบบ ภรรยาผมจะดีมากๆ น่ารัก แม่บ้านแม่เรือน และไม่เคยยุ่มย่ามเรื่องส่วนตัวผมเลย”
แต่งงานมา 7 ปี ยังไม่มีลูก อ.เล่าว่าชีวิตคู่กับภรรยาแฮปปี้ดีทุกอย่าง ไม่เคยทะเลาะเบาะแว้ง มุมสวีตหวานก็ไม่เคยขาดหาย เกือบจะทุกวัน เขาจะพาภรรยาไปกินข้าวเย็น นี่ไม่นับวันพิเศษ เขาก็ทำหน้าที่ซูเปอร์สามี จนคนใกล้ชิดและรอบข้างอิจฉา
“ผมไม่เคยบอกใครนะครับว่าผมเป็นแบบนี้ พ่อแม่ผม หรือญาติพี่น้อง ก็ไม่มีใครรู้ เพราะเขาก็คงคิดว่าผมเป็นผู้ชายทั่วๆ ไป ไม่ได้แสดงออก เพราะคนต่างจังหวัด ถ้าใครเป็นเกย์เป็นตุ๊ด มันก็จะแสดงออกชัดไปเลย แต่ผมไม่ใช่”
เพราะไม่บอก ทุกอย่างจึงยังเป็นความลับ แต่ถ้าเกิดความลับแตก หรือใครคนใดคนหนึ่งถามไถ่ขึ้นมา อ.ยอมรับแมนๆ ว่า ก็พร้อมจะบอกว่าตัวเองเป็นเกย์และจะอธิบายว่าที่ไม่บอกเพราะอะไร
“ถ้าผมไม่เจอกับภรรยา และยังไม่แต่งงาน ผมว่าผมก็อาจไม่ได้ใช้ชีวิตแบบนี้หรอก คงใช้ชีวิตที่แบบที่ตัวเองอยากใช้อยากเป็น แต่พอมาเจอภรรยาและตกลงใจแต่งงาน ผมก็ทำไม่ได้ ให้เลิกกับภรรยามันก็ไม่ใช่ทางออก เพราะภรรยาก็ดูแลผมทุกอย่าง ผมเองก็ดูแลภรรยาทุกอย่าง มันเลยไม่มีเหตุผลที่จะต้องเลิกกัน”
ความสัมพันธ์กับชายคนนั้น อ.ยอมรับว่ายังเหมือนเดิม ไปมาหาสู่เหมือนเพื่อนสนิทที่ทำธุรกิจร่วมกัน ว่างๆ ก็ไปเที่ยวต่างจังหวัด ไปสองคน หา!!! เราเผลอตกใจเอง (555) บอกภรรยาว่าจะไปพบลูกค้าที่ต่างจังหวัด
เราแซว อ. นี่มันหนัง Brokeback Mountain ชัดๆ (ในหนัง นัดเจอกันไปตกปลา แต่ไม่มีปลาสักตัวกลับมาฝากภรรยา) อ.หัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ เพราะผมเองก็ไม่ได้จะหนีไปเที่ยวสองต่อสองกันบ่อย นานๆ ทีครับ ซึ่งทุกครั้งที่ไปผมก็บอกกับภรรยาตรงๆ ว่าผมไปไหนไปกับใคร ภรรยาผมพอเป็นเรื่องงาน หรือเรื่องส่วนตัว ก็จะไม่ค่อยมาจู้จี้เท่าไหร่ เพราะเหมือนเขาก็ไว้ใจเราและผมก็ไว้ใจเขา”
ช. อายุ 24 สถานะโสด
ถ้าวัดจากภาพลักษณ์ภายนอก ช.คือหนุ่มในฝันของสาวๆ เขาเป็นถึงอดีตนักกีฬาว่ายน้ำ รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว หุ่นกำยำ เป็นนายแบบได้สบายๆ ยิ่งเมื่อบวกกับความชอบกีฬาเอ็กซ์ตรีม ก็ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ชวนมองให้แก่เขาอย่างมาก เขาบอกตอนเรียนมหาวิทยาลัย สาวตรึม!!!
“ผู้หญิงจะชอบนักกีฬานะ เพราะสมัยผมเรียน จะมีสาวๆ เข้ามาตลอด ถึงแม้จะหน้าไม่หล่อ พอเห็นว่าเป็นนักกีฬาก็จะมีคนมาสนใจ ผู้ชายก็มีนะ ประเภทออกสาว แต่ไม่ใช่ทาร์เก็ตไง ก็เลยไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่”
ช.เป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน ครอบครัวเขาเป็นคนไทยเชื้อสายจีน มีพี่สาวหนึ่งคน แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาเรียบร้อย เหลือก็แต่เขายังครองความโสด เขายอมรับว่าเหตุที่ไม่เปิดตัว (เหมือนเพื่อนบางคน) เพราะความคาดหวังจากครอบครัวค้ำคออยู่
“ถ้าวันหนึ่งพ่อกับแม่ หรือพี่สาวรู้ ผมว่าเขาคงรับไม่ได้ พวกเขาคงช็อกว่าลูกชายคนเดียวของบ้านเป็นเกย์ ซึ่งจริงๆ ครอบครัวผมก็ไม่ใช่คนหัวโบราณนะ แต่ผมว่าต้องให้เวลา ไม่ใช่เดินไปบอกว่าผมเป็นเกย์ครับ ผมว่ามันเรื่องใหญ่นะ แต่ถ้าวันหนึ่งต้องบอก ผมก็จะบอกไปตรงๆ แต่ตอนนี้ผมว่าทั้งตัวผมและครอบครัวผมยังไม่พร้อมกับเรื่องนี้”
ด้วยเหตุผลทางครอบครัวทำให้ ช.ใช้ชีวิตเกย์อย่างสงบเสงี่ยม ทุกอย่างถูกเก็บไว้อย่างมิดชิด กระทั่งการแสดงออก เขาก็คือผู้ชายแมนๆ คนหนึ่ง แทบดูไม่ออกว่าเขาเป็นด้วยเหรอ
“ไม่รู้จักกันมาก่อน ก็จะดูไม่ออกเลยครับ เพราะผมจะปกติมาก บางทีเพื่อนผู้ชายบางคนยังออกแต๋วกว่าผมก็มี (หัวเราะ) ผมก็ขำนะ มีแซวกันเล่นๆ มึงเป็นเปล่าวะ สำหรับผม เฉยๆ นะถ้าใครจะเป็นหรือไม่เป็น ส่วนเรื่องเปิดหรือไม่เปิด ผมคอนข้างซีเรียส ถ้ามั่นใจว่าเป็นและเปิด ผมว่าเขาแมนมากๆ นะ แมนในความกล้าที่บอกคนอื่นว่าเราคือใครเป็นอะไร แต่ผมตอนนี้ยังไม่กล้าครับ คงต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย”
ช.ยังบอกต่อว่า ถ้าใครที่เป็นแล้วไม่ยอมเปิด ก็ควรมีสติในการใช้ชีวิต หนึ่งชีวิตมีค่า อย่าดึงคนที่ไม่รู้ไม่เห็นมาร่วมชะตากรรม เพราะนั่นจะยิ่งสร้างตราบาปให้กันไม่รู้จักจบสิ้น
ล. อายุ 32 สถานะโสด
เรียนจบมหาวิทยาลัย สานต่อธุรกิจครอบครัว แต่งงาน สูตรสำเร็จนี้ฟังดูก็เข้าท่าดี แต่คงไม่ใช่ชีวิต ล.ผู้แขวนอยู่บนความกดดันและคาดหวังของพ่อแม่
จนป่านนี้ ล.ทำให้พ่อแม่สมใจแค่ 2 อย่างแรก อย่างหลังคือการแต่งงานยังปกคลุมด้วยเมฆหมอก เขาถูกตั้งคำถามว่าเหตุใดทำไมยังไม่แต่งงาน
เขาเคยคิดจะเอ่ยปากบอกพ่อแม่ไปตรงๆ ผมเป็นเกย์ครับ ผมแต่งงานกับผู้หญิงไม่ได้ เว้นแต่จะให้แต่งงานกับชายในดวงใจ ขืนบอกออกไป มีหวังหัวใจพ่อแม่สลายแน่ๆ นั่นทำให้เขาเลี่ยงด้วยการหาข้ออ้างต่างๆ นานา
“พ่อแม่ก็ถามตลอดนะครับว่า เมื่อไหร่จะแต่งงาน ผมก็บอกท่านไปว่ายังไม่ถูกใจสาวคนไหนเลย ผมก็อ้างไปเรื่อยแหละครับ (หัวเราะ) พอถูกรุกเรื่อยๆ ผมก็ต้องหาข้ออ้างไปเรื่อย จากมุขยังไม่มีสาวถูกใจ ก็เริ่มเปลี่ยนมุขมาเป็นเรื่องงานที่ยุ่ง จนไม่มีเวลาพักผ่อน ซึ่งมันก็ได้ผลนะครับ”
คำถามเรื่องแต่งงานถูกถามมาอย่างต่อเนื่อง จากเดือนเป็นปี จากปีเป็น 5 ปี กระทั่ง 3 ปีก่อนหน้านี้ พ่อแม่ของ ล.ก็ยังคงต้องการฟังคำตอบจากปากลูกชายคนเดียว และคำตอบนั้นก็คือเขาสารภาพว่าเป็นเกย์
“เป็นครั้งสำคัญในชีวิตเลยละครับ ครั้งเดียวและอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย ตอนนั้นผมคิดแค่นั้นจริงๆ เพราะมันถึงเวลาแล้วที่ผมจะต้องบอกพ่อแม่ว่าผมเป็นเกย์ ถ้าไม่บอกผมก็จะถูกถามเรื่องแต่งงานไม่รู้จักจบสิ้นสักที ผมเลยรวบรวมความกล้าบอกพวกท่านไปว่าที่ผมไม่แต่งงาน เพราะผมไม่มีแฟนผู้หญิง ที่ไม่มีแฟนผู้หญิง เพราะผมไม่ได้ชอบผู้หญิง พวกท่านทำหน้างง ตอนนั้นคงมึนกับคำตอบของผมครับ (หัวเราะ) จากนั้นพ่อก็ลุกขึ้นแล้วเดินหนี ส่วนแม่นั่งนิ่ง”
ความลับของ ล.ถูกเผยออกมาจากปากเขาเองต่อหน้าพ่อแม่ วันนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพ่อแม่ราบรื่นดีและคาดว่าจะดีขึ้นกว่าเดิม เขาบอกอย่างนั้น เพราะพ่อแม่ยอมรับในตัวตนของลูกชายโดยบริสุทธิ์ใจ ขณะที่นอกบ้านและคนอื่นๆ ล.ยังคงมีความลับ และความลับนี้ยังจะเป็นความลับต่อไป
“โชคดีที่พ่อแม่ยอมรับได้นะครับ ไม่ได้มีเหตุการณ์รุนแรง พวกเราคุยกันด้วยเหตุผล ตอนนี้ก็มีแค่พ่อกับแม่เท่านั้นที่รู้ว่าผมเป็นเกย์ สิ่งที่ผมกลัวคือถ้าวันหนึ่งเรื่องมันโป๊ะแตก มันจะมีผลกระทบอะไรมาตามมาหรือเปล่า ผมยังคิดไม่ออกจริงๆ”