ชิลริมหาด กับพีน่า โคลาดา

โดย...คาเอรุ

อีกหนึ่งคลาสสิกดริงก์ที่ช่างเหมาะกับวันเวลาร้อนๆ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลวันหยุดที่หลายคนอาจวางแผนสำหรับเที่ยวทะเลเอาไว้ อะไรจะเหมาะไปกว่าเครื่องดื่มเก๋ๆ ที่มีกลิ่นอายของมะพร้าวกับสับปะรด เช่น พีน่า โคลาดา (Pina Colada) เรียกว่า ได้อารมณ์เหมือนไปนั่งจิบอยู่แถบแคริบเบียนกันเลยทีเดียว

หน้าตาของพีน่า โคลาดา เป็นที่คุ้นเคยกันในแก้วทรงสูงที่เรียกว่า คอลลินส์ กลาส (Collins Glass) กับเครื่องดื่มแนวน้ำแข็งปั่น แต่งหน้าด้วยชิ้นสับปะรด เชอร์รี่เชื่อม และร่มประดับเล็กๆ

ส่วนผสมในค็อกเทลชื่อดังประกอบไปด้วยไลท์รัม น้ำกะทิ (บางที่ถ้าไม่ข้นพอจะเติมนมข้นลงไปด้วย) แล้วก็เนื้อสับปะรดบดเพื่อเอาน้ำ นำทั้งหมดไปปั่นกับน้ำแข็งป่นจนละเอียด แล้วเทใส่แก้วคอลลินส์ กลาส เสิร์ฟพร้อมหลอดดูดให้เย็นฉ่ำ

พีน่า โคลาดา เป็นเครื่องดื่มประจำชาติเปอร์โตริโก มาตั้งแต่ปี 1978 ชื่อพีน่า โคลาดา มาจากภาษาสเปน พีน่าคือสับปะรด ส่วนโคลาดาหมายถึงการบดคั้นเอาน้ำสับปะรดออกมาสดๆ นั่นเอง

ว่ากันว่า คลาสสิกค็อกเทลชนิดนี้มาจากการแข่งขันสุดยอดบาร์เทนเดอร์ของเปอร์โตริโก ในคอนเซ็ปต์เครื่องดื่มประจำชาติ ในทศวรรษที่ 1960 ซึ่งมีรามอน มอนคิโต มาร์เรโร เปเรซ เป็นผู้นำเสนอคนแรกในบาร์บีชคอมเบอร์ โรงแรมคาริเบ ฮิลตัน ในซานฮวน ที่เขาประจำอยู่ โดยใช้โคโค่ โลเปซ กะทิสำเร็จรูปที่เพิ่งออกวางขายขณะนั้นเป็นส่วนผสมหลัก

ขณะที่ ริคการ์โด การ์เซีย บาร์เทนเดอร์จากบาร์เซโลนา สเปน ซึ่งทำงานอยู่โรงแรมคาริเบ ฮิลตัน เช่นเดียวกัน ออกมาอ้างว่า รามอน ไม่ได้สร้างสรรค์เครื่องดื่มดังกล่าว เป็นเขาต่างหาก อีกคนที่ออกมาเทกเครดิตในเรื่องนี้ ได้แก่ รามอน ปอร์ทาส มินโยต ชาวสเปนอีกราย บอกว่าเขานี่แหละคนที่คิดเครื่องดื่มหวานๆ เย็นๆ นี้ขึ้นมาคนแรกในห้องอาหารบาร์ราคีนา ที่ตั้งอยู่บนถนนฟอร์ตาเลซา ในย่านโอลด์ซานฮวน โดยห้องอาหารดังกล่าวยังคงตั้งตัวเองเป็นเจ้าตำรับพีน่า โคลาดา จนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าโรงแรมคาริเบ ฮิลตัน โรงแรมหรูแห่งแรกในเปร์โตริโกจะเป็นคนที่โปรโมทเครื่องดื่มประจำชาติให้เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลกก็ตาม

หลังเปอร์โต ริโก ประกาศให้พีน่า โคลาดา เป็นเครื่องดื่มประจำชาติตั้งแต่ปี 1978 จากนั้นก็มีบทเพลงที่เล่าเรื่องของเครื่องดื่มชนิดนี้ออกมา ทั้ง Escape ปี 1979 ของรูเพิร์ต โฮล์มส์ ที่ใครๆ ก็เรียกว่าเป็นเพลงพีน่า โคลาดา ซึ่งทำให้ชื่อของเครื่องดื่มชนิดนี้ขจรขจาย ได้อารมณ์พักร้อนริมหาดชิลๆ พร้อมจิบเครื่องดื่มหวานๆ เย็นๆ เพิ่มความสดชื่น

ตามสูตรในหนังสือรวมค็อกเทลของ โฮเซ แอล.ดิอาซ เด บิลเยกาส บอกว่า ให้รินกะทิ 3 ออนซ์ น้ำสับปะรดคั้นสด 6 ออนซ์ และไลท์รัม 1.5 ออนซ์ ลงในเครื่องปั่นพร้อมน้ำแข็งป่น ปั่นจนละเอียดเนียนที่สุด แล้วเทใส่แก้วทรงสูงที่แช่เย็นเอาไว้ แต่งขอบแก้วด้วยสับปะรด เชอร์รี่เชื่อม และร่มเล็กๆ

ไม่ชิลให้มันรู้ไป