ต้อง แอนด์ เจนนี่ แตกต่าง แต่เติมเต็ม
ไม่ว่า จะมองจากมุมไหน ต้อง - ศิวดล ทองดี และ เจนนี่ - ศุทราอร หาญถนอม แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
โดย...สวลี ตันกุลรัตน์ ภาพ...น้าต๊ะ สหภาพดนตรี
ไม่ว่า จะมองจากมุมไหน ต้อง - ศิวดล ทองดี และ เจนนี่ - ศุทราอร หาญถนอม แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ความรักในเสียงดนตรีทำให้พวกเขามาโคจรมาเป็นคู่กัน ในชื่อ “ต้อง แอนด์ เจนนี่” ค่ายสหภาพดนตรี และในปีนี้พวกเขายังเป็นหนึ่งในผู้เข้าชิงรางวัลสีสันอะวอร์ดส์ ครั้งที่ 26 ในฐานะ “ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม”
แม้ว่า “ต้อง แอนด์ เจนนี่” จะเป็นศิลปินหน้าใหม่ แต่ในโลกโซเซียล เขา และ เธอ ต่างมีผลงานการ Cover เพลง ในชื่อ Rangsit Bureau of Music และ Jennieguitar ซึ่งมียอดวิวใน youtube หลายหมื่นหลายแสนวิว
‘เจนนี่ มีความตั้งใจสูง’
ต้อง เล่าว่า ในการทำงานร่วมกันต้องใช้เวลาที่จะปรับตัวเข้าหากันค่อนข้างมาก เพราะไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย ชอบอะไรที่ไม่เหมือนกัน ไลฟ์สไตล์ก็แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นในช่วงแรกๆ อาจจะขัดแย้งกันบ้าง
“แต่เราก็จูนเข้าหากันด้วยดนตรี เพราะเราโตมาในยุคใกล้ๆ กัน มีเพลงที่เคยฟังมาเหมือนๆ กัน แม้ว่าแนวเพลงหลักที่เราฟังจะต่างกัน แต่จะมีอีกมุมหนึ่งที่ชอบเหมือนกัน ที่อาจไม่ใช่เพลงในกระแส เพลงที่คนอื่นอาจจะไม่ฟัง”
นอกจากนี้ ต้อง ยังบอกว่า สไตล์การร้องเพลงของเขา และ เจนนี่ ก็แตกต่างกัน ทำให้ต้องใช้เวลาในการหาจุดที่ลงตัว จนในที่สุดก็ออกมาเป็นส่วนผสมที่น่าฟัง
“เราปรับจูนฮาร์โมนีเข้าหากัน ทำให้เพลงออกมากลมกล่อมในแบบที่คนอื่นไม่มี ทำให้เพลงออกมาแตกต่างจากที่มีอยู่ในตลาด”
และไม่ใช่แค่หาจุดที่ลงตัวในทางดนตรีได้เท่านั้น แต่ความสัมพันธ์ของคู่หูก็ลงตัวด้วย ซึ่ง ต้อง บอกว่า “พอใช้เวลาด้วยกันมากๆ ซ้อมร้องเพลงด้วยกัน เล่นดนตรีด้วยกัน ทัวร์คอนเสิร์ตด้วยกัน ก็ทำให้รู้จักกันมากขึ้น ยอมรับกันมากขึ้น เพราะเจนนี่ มีจุดที่ดี มีส่วนที่เขาคิดถูก มีไอเดียที่ดี เอามารวมกับสิ่งที่ผมคิด เอามาเสริมกันได้ ทำให้งานออกมาดีกว่าเดิม”
“แม้ว่า ดูภายนอกอาจจะรู้สึกว่า เจนนี่ วางตัวดี แต่พอได้รู้จักแล้ว จะรู้ว่า เจนนี่ ไม่ใช่คนที่เข้าถึงยาก เขาเป็นคนอัธยาศัยดี ไม่จำเป็นต้องวางฟอร์มใส่กัน บางทีก็โก๊ะๆ เหวอๆ ในบางเรื่อง และมีบางมุมที่แอ๊บเด็กกว่าปกติ (หัวเราะ) จนเคยมีเด็กมาขอเบอร์ เพราะไม่รู้ว่า จริงๆ แล้วเขาอายุเท่าไร”
แต่เมื่อถึงเวลาทำงาน ต้อง บอกว่า เจนนี่ “เป๊ะมาก”
“เวลาอัดเพลงใหม่จะมีการบ้านมาให้ และพอไปถึงห้องอัด เจนนี่ จะจำได้ทุกอย่างเป๊ะมาก เพราะเขามีความตั้งใจสูงมาก ทำการบ้านเยอะกว่าผม ผมขี้เกียจ ต้องไปด้นสดในห้องอัดอยู่บ่อยๆ (หัวเราะ)”
นอกจากนี้ ต้อง ยังชื่นชมคู่หูดูโอ้ของเขาว่า “เจนนี่ เป็นคนที่มีพัฒนาการที่ดีมาก ถ้าเปรียบเทียบกับเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ถ้าเขาได้คะแนน 7 เต็ม 10 ตอนนี้เขาก็ได้ 9 เต็ม 10 แล้ว เพราะเขาทำได้ดีขึ้นในสิ่งที่เขาไม่ถนัด ซึ่งเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนมาก”
“เมื่อก่อนเวลาร้องเพลง เจนนี่ ยังไม่ค่อยมั่นใจเท่าไร แต่ผมจะบอกเขาว่า โอเคแล้ว ทำดีแล้ว และเวลาที่ผมมีปัญหา รู้สึกแย่ๆ เจนนี่ ก็จะให้กำลังใจผม เพราะการทำงานร่วมกัน ต้องมีความกดดันด้วยกันทั้งคู่ เราก็ต้องการกำลังใจด้วยกันทั้งคู่”
ต้อง กล่าวทิ้งท้ายส่งไปถึง เจนนี่ ว่า “ตอนนี้การทำงานของเราแฮปปี้ดี มีความสัมพันธ์ที่ดีและราบรื่นมาก ก็อยากให้ทำแบบนี้ต่อไป อยากให้ความรู้สึกแบบนี้ยืนยาว”
‘ต้อง ตลกและอารมณ์ดี’
เจนนี่ เล่าว่า พอรู้ว่าได้ร่วมงานกันก็ดีใจ เพราะแม้จะไม่รู้จักกัน แต่ก็ชอบและติดตามผลงานของต้องมาตลอด
“แรกๆ ก็ต้องมีการปรับตัวบ้าง เพราะมีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก ซึ่งในการทำงานร่วมกับคนอื่นก็น่าจะมีปัญหากันทุกคน เพราะต่างคนต่างเติบโตมาไม่เหมือนกัน แต่เมื่อเราเปิดใจเรียนรู้กันไปในแต่ละวัน และโชคดีที่เราฟังเพลงเหมือนกันในระดับหนึ่ง ทำให้เราสนิทกันด้วยเพลง”
นอกจากนี้ เจนนี่ ยังบอกอีกว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ต้องเป็นคนที่เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น
“ต้องเป็นคนที่เปิดกว้าง รับฟังความคิดเห็น ไม่มีอีโก้ ไม่ยึดติดกับความคิดของตัวเองคนเดียว และถ้าคิดอย่างไรก็จะพูดตรงๆ ถ้าได้ก็บอกว่าได้ ถ้าไม่ได้ก็บอกว่าไม่ได้ ซึ่งการทำงานกัน 2 คน ความตรงไปตรงมาสำคัญมาก ซึ่งถ้าเราไม่กล้าพูดกันตรงๆ ก็อาจจะทำงานด้วยความตะขิดตะขวงใจ ซึ่งในที่สุดก็เละ”
เจนนี่ เล่าว่า เธอและเขา ผ่านจุดที่มีปัญหามาแล้ว และแก้ปัญหาด้วยการพูดคุยกันตรงๆ
“ก็คงเหมือนกับคู่รักที่เคยทะเลาะกันแรงๆ ได้พูดทุกอย่างออกมา ซึ่งเราก็ต้องปรับตัวกันทั้งคู่ จนมาถึงจุดที่ไม่มีอะไรที่ให้อภัยกันไม่ได้ ยิ่งสนิทกันก็จะยิ่งรู้แนวในการทำงาน ซึมซับกันไปเอง อะไรที่เห็นว่าดี เราก็ซึมซับมา หลังๆ เลยรู้ใจกัน อย่างเช่น เวลาเจนโพสต์อะไรในเฟซบุ๊ก ต้องก็จะเข้าใจว่าเจนกำลังคิดอะไร หรือถ้าต้องโพสต์อะไร เจนก็จะรู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ในอารมณ์ไหน”
“ต้องเป็นคนที่ให้เกียรติผู้หญิง เขาจะเข้าใจ เราไม่ต้องคอยระวังคำพูด คุยกับแบบแมนๆ ต้องไม่คิดอะไรหยุมหยิม บางทีเราทำอะไรผิด แป๊บเดียวเดี๋ยวเขาก็ลืมแล้ว เพราะเขาพร้อมจะสนับสนุนเราตลอด และเราก็พร้อมจะสนับสนุนเขาเช่นกัน บางทีเราถูกวิจารณ์ แต่เราก็จะนั่งมองหน้ากันและให้กำลังใจกัน”
แม้ว่า บุคลิกของต้องจะดู “เข้ม” แต่ เจนนี่ เล่าว่า “บางทีต้องก็แกล้งทำตัวเข้มๆ แต่จริงๆ แล้ว เขา ฮาๆ ต๊องๆ และออกจะรั่วๆ ไม่ได้เข้มเหมือนภาพที่เห็น มีบางมุมที่ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้ง น่ารัก และถ้าอยากรู้อะไรให้ถามต้อง เพราะต้องมีความรู้รอบตัวเยอะมาก และข้อมูลเขาจะเป๊ะมาก เพราะต้องเป็นคนละเอียด แต่เจนจะหยาบ (หัวเราะ)”
“พี่ดี้ (นิติพงษ์ ห่อนาค ผู้บริหารสหภาพดนตรี) ยังเคยแซวว่า จริงๆ แล้วต้องเป็น ‘บิวตี้’ เพราะเสียงเขาสวยงามมาก และบอกว่า เจนเป็นปีศาจน้อย ซึ่งมีความแตกต่างกัน เจนมีเสียงหนาต่ำ ต้องเสียงสูงเล็ก แต่รวมกันแล้วเป็นเสียงที่พอดี ไม่แหลมเกินไป หรือ ต่ำเกินไป”
เจนนี่ จึงสรุปความสัมพันธ์ของทั้งคู่ว่า “ความแตกต่างทำให้เราอยู่ร่วมกันได้ เพราะเราเติมเต็มซึ่งกันและกัน”