เปิบพิสดาร (ของแท้) กินแปลกกินแหลก

โดย...แจนยูอารี

ถามหารายการอาหาร (แปลก) ที่ไม่ใช่ประเภทแนะนำร้าน เจ้าของร้านมาเผยสูตรเด็ดเคล็ดลับ เชฟมาแข่งขันทำอาหาร ดารามาโชว์เสน่ห์ปลายจวัก ก็ต้องยกให้ “กินแปลกกินแหลก”

ออกอากาศทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ ถือว่าเป็นรายการ “เปิบพิสดารของแท้” ในยุคนี้ ยุคก่อน คำว่า “เปิบพิสดาร” ก็ต้องยกให้ “แม่ช้อยนางรำ” โลโก้เรื่องอาหารการกินที่ฮิตระเบิดระเบ้อ

การตีความหมายของคำว่าเปิบพิสดาร ระหว่างแม่ช้อยฯ กับทีมงาน “มีเดีย สตูดิโอ” นั้นต่างกันพอสมควร แม่ช้อยฯ เน้นของกินหรูแพงและหายาก แต่รายการนี้ ความหมายก็ตรงตัว ของกินแปลกๆ ซึ่งไม่ใช่แค่ของกินแปลกๆ ทั่วไทย แต่ยังรวมทั้งของกินแปลกๆ ทั่วโลก

รูปแบบรายการนำเสนอผ่านแก๊งกินแหลก ผู้เป็นเสมือนตัวตายตัวแทนผู้ชมในการกินของแปลก “ไทด์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์” “จิ้ม ชวนชื่น” “แจ๊ค-เฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์” ส่วนอีกรายสบายกว่าใครเพื่อน “ไก่-สมพล ปิยะพงศ์สิริ” ไม่ต้องกินของแปลก  

ลงพื้นที่กับชาวบ้าน เพื่อตามหา “กินแปลกทั่วไทย” เจอแล้วก็วัดใจว่าพิธีกรจะกล้ากิน หรือไม่กล้ากิน จากนั้นก็นำของแปลกมาโชว์ในสตูดิโอให้พิธีกรที่ไม่ได้ไปได้ลองลิ้มของแปลก

“กินแหลกแหวกโลก” ตามล่าหาของกินแปลก ณ ต่างแดน ที่ไหนมีของแปลก หนึ่งในพิธีกรจะลงพื้นที่ ตามหาจนเจอและวัดใจว่าจะกล้ากิน หรือขอบาย เช่นเคย ต้องนำมาโชว์ในสตูดิโอให้พิธีกรที่ไม่ได้ไปได้ลองลิ้ม

“แกงตะพาบน้ำ” “ลวกจิ้มน้องวัว” แปลกพอมั้ย ถ้ายังไม่แปลก ก็ต้องนี่เลย “ค้างคาวย่าง” “กุดจี่เบ้าคั่ว” “บึ้งทอด” และอื่นๆ ยังมีอีกเพียบ

ฟังแค่ชื่อเมนู หลายคนคงร้องอัยยะ!! แต่สำหรับคนท้องถิ่น หรือชาวบ้าน กลับร้องว้าว!! ด้วยว่ามันคือ “สุดยอดความอร่อย” ที่พวกเขาคุ้นลิ้นมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก หาใช่ของแปลกชวนยี้ไม่     

มากกว่านั้น การกินของแปลกพิสดารนี้ยังสะท้อนถึงภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่รู้จักดัดแปลงของที่มีอยู่มาเป็นอาหาร ตลอดทั้งสะท้อนถึงวิถีการดำรงอยู่ลักษณะพึ่งพาอาศัยกันและกันอย่างกลมกลืนระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ 

ประเด็นที่รายการนำเสนอเรื่องกล้า หรือไม่กล้า เป็นเพียงกุศโลบายชวนให้รายการเกิดความน่าติดตาม ในฐานะคนนอกพื้นที่ หรือคนเมืองที่ไม่คุ้นกับของกินแปลกๆ ย่อมเป็นธรรมดาที่จะออกอาการไม่พึ่งปรารถนา

สิ่งที่ทีมงานรายการต้องระมัดระวัง คือความรู้และความเข้าใจแบบถ่องแท้ต่อวัฒนธรรมอาหารเฉพาะถิ่น อย่าคิดแค่เอาสนุกเอาขำของพิธีกร จนเข้าข่ายกลายเป็นการดูถูกดูแคลนคนอื่น

ขณะเดียวกัน สาระในแง่การให้ข้อมูลด้านโภชนาการและการสาธารณสุข ก็เป็นเรื่องน่าชมเชยที่รายการไม่ลืมนำมาแทรกไว้ให้ผู้ชมรับรู้ว่าความจริงนั้นของแปลกกินได้ แต่ต้องทำให้สุก ต้องแหล่งมีที่มาที่ไป และของที่คนอื่นว่าแปลกก็อาจมีคุณค่าอาหารสูงกว่า หรือไม่ด้อยไปกว่าอาหารจานปกติ

นั่นละจึงจะเรียกว่า “กินแปลกกินแหลก”

(หมายเหตุ วันที่ 5 พ.ค.นี้ (วันฉัตรมงคล) เมนูแปลกที่นำมายั่วน้ำลาย คือ คางคกนึ่งมะนาว ส่วนจะน่ากินมากน้อย โปรดติดตามชมทางช่อง 7 ออกอากาศเวลา 15.00 น.)