บุรินทร์ เหมทัต ชีวิตติดกล้องบนสองล้อคู่ใจ
การใช้ชีวิตที่รีบเร่งในแต่ละวันมักมาพร้อมความเครียด และเป็นอันตรายต่อสุขภาพกายใจดังนั้นเมื่อมีวันว่าง
โดย...จะเรียม สำรวจ
การใช้ชีวิตที่รีบเร่งในแต่ละวันมักมาพร้อมความเครียด และเป็นอันตรายต่อสุขภาพกายใจดังนั้นเมื่อมีวันว่าง คนจำนวนไม่น้อยจึงมักจะออกไปผ่อนคลายทำกิจกรรมต่างๆ ในสิ่งที่ตัวเองชอบ ซึ่ง “เอก” บุรินทร์ เหมทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิธแอนด์คิน คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ คอนซัลแตนท์ บริษัทที่ปรึกษาด้านการสื่อสารสาระองค์กร ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ว่างเมื่อไหร่จะต้องผ่อนคลายความเครียด ด้วยการถ่ายรูปและปั่นจักรยานคู่ใจ
เอก เล่าว่า ตลอด 5 วันของการทำงานทุกวันค่อนข้างยุ่ง เพราะมีหลายงานต้องเข้าไปดูแล ไม่ว่าจะเป็นงานบริหารลูกค้า ดูแลพนักงาน การคิดกลยุทธ์การสื่อสาร หรือการแก้ไขภาวะวิกฤตให้กับลูกค้า ตลอดจนการปรับตัวเพื่อหนีคู่แข่ง เพราะปัจจุบันการแข่งขันในธุรกิจประชาสัมพันธ์และการเป็นที่ปรึกษาสื่อสารสาระองค์กรนับวันจะมีความรุนแรงมากขึ้น
งานมากมายที่รัดตัว ทำให้ยากนักที่จะมีเวลาส่วนตัว แต่เมื่อใดที่เอกได้หยุดเหมือนกับคนอื่นๆ ก็มีมุมผ่อนคลายเช่นกัน โดยเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ เอกจะอุทิศให้กับการถ่ายรูปและจักรยานสองล้อคู่ใจ
“วันว่างจากการทำงาน ผมชอบขี่จักรยานไปหาสถานที่แปลกๆ ในกรุงเทพฯ เพื่อถ่ายรูป โดยความสนใจนี้ได้มาจากคุณแม่ ซึ่งเคยมีอาชีพช่างภาพและนักข่าว ก็เลยได้เห็นและคลุกคลีกับการถ่ายรูปมาตั้งแต่เด็กๆ เมื่อครอบครัวเราออกไปเที่ยว แม่และน้องก็จะมีกล้องถ่ายรูปติดไปด้วย แต่เราไม่มีมันเหมือนพูดคนละภาษา หลังจากนั้นผมเลยไปหากล้องถ่ายรูปมาใช้มั่ง นับตั้งแต่นั้นมาเวลาไปเที่ยวเรา 3 คน
ก็จะกระจายตัวไปถ่ายรูป และเอามาอวดกัน มันก็เลยเป็นความสุขอีกรูปแบบหนึ่งจนติดเป็นนิสัย”
เอก เล่าต่อว่า ส่วนการหันมาใช้ชีวิตบนสองล้อนั้น เริ่มต้นจากความต้องการออกกำลัง เพื่อเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง เนื่องด้วยรูปแบบการทำงานจะนั่งติดอยู่กับเก้าอี้ทำงานเป็นระยะเวลานาน ทำให้มีความเสี่ยงต่อโรคออฟฟิศซินโดรม แม้ปกติจะเล่นกีฬาอยู่แล้วก็ตาม
หลังจากเริ่มปั่นจักรยานมาระยะหนึ่ง ก็พบกับเจ้าจักรยานยี่ห้อ Cannondale trail 5 ทำให้ เอก หลงรักการใช้ชีวิตอยู่บนสองล้อมากขึ้น เพราะทำให้เอกสามารถค้นพบโลกอีกใบหนึ่ง
“วินาทีที่ทรงตัวบนจักรยานด้วยกำลังของสองขา มันทำให้ผมผ่อนคลาย มีสมาธิ เพราะการขี่จักรยานต้องมีสติ เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน ขณะเดียวกันการได้ไปในสถานที่ที่แตกต่างกันออกไป ทำให้เราได้มีแนวคิดและมุมมองใหม่ๆ เก็บเอาไปใช้กับงาน เพราะงานที่ปรึกษาด้านการสื่อสารสาระองค์กรต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์”
อีกหนึ่งสถานที่ที่เอกใช้เป็นมุมส่วนตัวในการคิดงานต่างๆ คือห้องประชุม ซึ่ง เอก เล่าว่า มุมคิดงานส่วนใหญ่จะใช้ห้องประชุมของบริษัท ตอนที่ไม่มีใครอยู่ นั่งทำงานคนเดียวในห้องโล่งๆ ต่างจากนั่งโต๊ะในห้องทำงานของตัวเอง เพราะในเวลาที่ต้องการสมาธิ
ถ้านั่งทำที่โต๊ะทำงานของตัวเอง อาจถูกรบกวนโดยผู้คนรอบข้างคนที่เดินเข้ามาหา รวมถึงสายโทรศัพท์ที่เข้ามาเป็นระยะ
“บรรยากาศห้องประชุมทำให้รู้ว่าเรายังอยู่ในบริษัทที่จะต้องทำงาน โดยใช้เสียงเพลงคลอเบาๆ ในการช่วยหลุดออกจากกรอบและความเครียด ทำให้ความคิดโลดแล่น ซึ่งในห้องประชุมของบริษัท ยังมีภาพงานศิลปะอันทรงคุณค่าของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ที่ใช้เป็นจุดผ่อนคลายสายตา ให้เกิดแรงบันดาลใจ และเห็นถึงพลังทางความคิดที่สามารถสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างเป็นรูปธรรม”
นอกจากนี้ การใช้ห้องประชุมเป็นมุมคิดงานยังสะดวกต่อการเชื่อมต่อออนไลน์ และเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการใช้ โดยเข้าไปฐานข้อมูลของบริษัทได้ อีกทั้งถ้าต้องการความช่วยเหลือจากทีมงานยังสามารถตามได้ทันทีอีกด้วย จึงเป็นทั้งมุมส่วนตัวและมุมทำงานได้ในเวลาเดียวกัน