แพร นัดดา แม่สุดติสต์ของโรมัน
ด้วยลุคที่ผมสั้น ดูเป็นสาวมั่นใจในตัวเอง แต่รอยยิ้มที่เปิดเผยและสดใสนั้น
โดย...กองทรัพย์
ด้วยลุคที่ผมสั้น ดูเป็นสาวมั่นใจในตัวเอง แต่รอยยิ้มที่เปิดเผยและสดใสนั้น ทำให้คนที่ไม่รู้จักเธอมาก่อนยากจะเชื่อว่า แพร-นัดดา ศรีทองดี ภรรยาสาวของศิลปินนักวาดภาพประกอบชื่อดัง โลเล-ทวีศักดิ์ ศรีทองดี จะมีลูกชายผมหยิกชื่อโรมัน วัย 1 ขวบ 10 เดือนแล้ว เราเจอเธอที่งานนิทรรศการแสดงภาพถ่ายของเธอในชื่อชุดฤดูร้อน บันทึกของแม่บ้านผมสั้น ที่เดอะ แจม แฟคตอรี่ พร้อมกับครอบครัว
แพรบอกว่า การตัดสินใจจัดนิทรรศการนี้ขึ้นมาส่วนหนึ่งเพราะอยากเป็นกำลังใจให้แม่บ้านคนอื่นๆ เพราะแม่บ้านหลายคนทิ้งชีวิตหรือความฝันของตัวเองที่ชอบไป เพราะว่าต้องการทุ่มเทให้กับลูก แต่พอวันหนึ่งที่ลูกโตแล้วกลับมีความรู้สึกบางอย่างขาดหายไป บางคนเสียดายที่ไม่ได้ทำตามความฝัน และการจัดนิทรรศการภาพถ่ายครั้งนี้ คือการทำตามฝันที่บันทึกเรื่องราวของลูกชายไปพร้อมๆ กัน
“ความฝันก็คือสิ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิตให้มีความสุข เราต้องจัดการเวลาให้ได้แล้วก็ลงมือทำ การตัดสินใจทำตามความฝันในช่วงนี้เพราะว่าเป็นช่วงที่ลูกเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับเราคือเขาเริ่มพูด ตอนแรกเขาเหมือนตุ๊กตาที่กิน นอน ถ่าย วนอยู่แบบนี้ พอเขาเริ่มเล่นได้ ว่ายน้ำ ขี่จักรยานได้ เราก็รู้สึกเป็นพ่อแม่จริงๆ ไม่ใช่พี่เลี้ยงตุ๊กตาอีกแล้ว เราเป็นพ่อแม่มือใหม่ ได้เรียนรู้การเป็นพ่อแม่ไปพร้อมๆ กับลูกที่เขาเรียนรู้การเป็นคน”
ในวันที่น้องโรมัน 1 ขวบ 10 เดือน ความหวังของคุณแม่แพรแสนจะเรียบง่าย คือขอแค่ให้เขาเป็นเด็กที่แข็งแรงและมีความสุข “ไม่ได้คิดว่าโตมาเขาจะต้องเป็นอะไร ตอนนี้โรมันชอบตีกลองมาก แต่ก็ไม่ได้คิดว่าโตมาเขาจะต้องเป็นนักดนตรี พยายามจะไม่ตั้งความหวังอะไร ทั้งนี้เราจะได้ไม่ผิดหวังและไม่เป็นแรงกดดันกับลูก”
คุณแม่ศิลปินบอกว่า เธอโชคดีที่สามีทำงานที่บ้าน ดังนั้นลูกจึงมีเวลาอยู่กับพ่อและแม่เท่าๆ กัน “เราสามคนอยู่ด้วยกันทุกวัน ไปไหนไปด้วยกันตลอด ไม่เคยฝากลูกกับใครเลย เราจึงรู้จักเขาดีมาก และเขาก็รู้จักเราดีมาก เหมือน 3 คนพ่อแม่ลูกช่วยหล่อเลี้ยงซึ่งกันและกัน มันก็ทำให้ความผูกพันของครอบครัวมันกระชับ และเราสามคนก็เป็นทีมเวิร์ก แต่ถ้าให้พูดถึงตัวเอง ก็ต้องบอกว่าแพรเป็นแม่ที่สบายๆ ไม่แน่ใจว่าอาร์ติสต์ไหม แต่มีความคิดเสมอว่าชีวิตคือศิลปะอยู่แล้ว และศิลปะที่ดีคือศิลปะที่สบายใจ มันก็เหมือนกับว่าทางไหนที่เราไม่สบายใจมันก็ไม่ใช่ทางของแพร
ถึงแม่อีก 30 คนบอกว่าทางนี้คือทางที่ถูกต้อง แต่ถ้าแพรทำแล้วไม่โอเคแพรก็จะไม่ทำ แพรเชื่อว่าเราไม่สามารถบอกคนอื่นให้ทำเหมือนเราได้ และเราก็ไม่สามารถทำเหมือนคนอื่นได้”
ฟังมาขนาดนี้จึงอยากรู้ว่าต้นแบบในการเลี้ยงลูกของสาวคนนี้เป็นใคร เธอบอกอย่างภูมิใจว่า คือคุณป๋าของเธอนั่นเอง “ป๋าแพรไม่ได้ดุ ไม่พูดอะไรที่สอนโดยตรง แต่จะทำให้ดู เช่น ตื่นเช้ามีประโยชน์ก็จะไม่จ้ำจี้จ้ำไช แต่จะตื่นเช้าทุกวันจนเราสงสัย และลองทำตาม และค้นพบว่าการตื่นเช้ามีข้อดี คือแสงแดดและทำให้อารมณ์ดีทั้งวัน เขาเป็นตัวอย่างที่ดี เราก็เลยใช้วิธีการเดียวกันกับโรมัน ซึ่งตอนนี้โรมันเป็นเด็กมีระเบียบและไม่รื้อของ เพราะว่าเขาเห็นแพรเก็บทุกอย่าง แพรไม่ต้องบอกให้โรมันเก็บของ เขารื้อและเก็บเข้าที่เหมือนเดิม ก็เลยรู้สึกว่าเรามาถูกทางแล้ว แค่เป็นตัวอย่างที่ดีก็พอ”
ไม่ใช่แค่การเป็นตัวอย่างที่ดี คุณแม่แพรกับพ่อโลเลก็มีวิธีการทำให้ลูกชายแข็งแรงด้วยตัวเอง “เราสองคนวางแผนกันว่าจะไม่เก็บเงินอะไรไว้ให้โรมันเลย (หัวเราะ) จะให้โรมันสร้างเอาเอง เรามีความคิดว่าทั้งสองคนก็โตมาแบบนี้ พ่อแม่ก็ไม่ได้เตรียมอะไรไว้ให้ ให้การศึกษาอย่างเดียว พอเราเรียนจบมหาวิทยาลัย เขาก็ให้เราจัดการชีวิตตัวเองมาจนถึงทุกวันนี้ โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นวิธีที่ดีทำให้เราแข็งแรง และพอเหมาะพอควร สมมติถ้าเราสร้างอะไรไว้ให้เขาเยอะๆ ก็เป็นความกดดันของเขา หรือไม่ก็รู้ว่าเราเตรียมอะไรไว้ให้แล้ว ไม่อยากทำกลายเป็นคนขี้เกียจ เราไม่อยากให้ลูกเป็นแบบนั้น อยากให้ลูกค้นหาทางของเขา”
ด้วยความเชื่อทั้งหมดของเธอ ทำให้คุณแม่ผมสั้นคนนี้คิดว่าครอบครัวสำคัญที่สุดที่จะทำให้คนคนหนึ่งเติบโตมามีความคิดและทัศนคติต่อโลกนี้อย่างไร “แพรคิดว่าวิธีการสอนของโรงเรียนทางเลือกน่าจะเกิดขึ้นที่บ้าน โดยที่มีพ่อแม่เป็นคนสอนให้เขาเข้าใจธรรมชาติ อยู่กับธรรมชาติ โรงเรียนเป็นแค่ส่วนประกอบหนึ่ง ครูที่ดีที่สุดคือพ่อแม่ เราสองคนโตมาเรียนโรงเรียนธรรมดา แต่เรายังมาจนถึงทุกวันนี้ได้ ก็เลยวางแผนว่าอยากให้เขาเรียนที่ไหนก็ได้ ใกล้บ้านได้ยิ่งดี เพราะจะได้มีเวลานอนให้เต็มที่ ได้กินข้าวเช้าแบบไม่ต้องรีบ และมีเวลาได้อยู่กับพ่อแม่ แค่นี้พอแล้ว”
แม้จะมีสถานะเป็นแม่ก็อย่าทิ้งความฝัน เพราะเมื่อวันหนึ่งลูกโต จะได้ไม่กลับมาเสียดายทีหลังว่าได้หลงลืมว่าความฝันของเราคืออะไร เหมือนที่สาวคนนี้กำลังทำอยู่ตอนนี้