โซวิญง บลองก์ ลองหรือยัง

วันนี้เราจะมาชุ่มฉ่ำกับรสชาติของ โซวิญง บลองก์ (Sauvignon Blanc) ไวน์ขาวที่เป็นหนึ่งใน “บิ๊กซิกซ์” กับเขาด้วยเหมือนกัน

เรื่อง : เปอติ๊ต ริสลิ่ง petite_riesling@yahoo.co

“ผมรักทุกอย่างที่เก่าแก่ เพื่อนเก่า วันคืนเก่าๆ ธรรมเนียมเก่าๆ หนังสือเก่าๆ และไวน์เก่า” โอลิเวอร์ โกลด์สมิธ จากหนังสือ She Stoops to Conquer

วันนี้เราจะมาชุ่มฉ่ำกับรสชาติของ โซวิญง บลองก์ (Sauvignon Blanc) ไวน์ขาวที่เป็นหนึ่งใน “บิ๊กซิกซ์” กับเขาด้วยเหมือนกัน
คราวนี้เรามาถึงพันธุ์องุ่นหมายเลข 4 แล้ว จากอภิมหาองุ่นทำไวน์ 6 สายพันธุ์ใหญ่ๆ ของโลก หรือ Big Six อันประกอบด้วย (จำง่ายๆ) ขาว 3 แดง 3 ...

ขาว - โซวิญง บลองก์ (Sauvignon Blanc) ชาร์ดอนเนย์ (Chardonnay) และริสลิ่ง (Riesling)

แดง - กาแบร์กเนต์ โซวิญง (Cabernet Sauvignon) ปิโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) และแมร์กโลต์ (Merlot)

เกริ่นๆ เอาไว้ว่า “โซวิญง บลองก์” คือ ไวน์ขาวที่ช่างเหมาะกับอากาศและอาหารบ้านเรา ส่วนหนึ่งก็เพราะเป็นไวน์ที่ต้องรับประทานเย็นๆ อีกส่วนหนึ่งก็เนื่องเพราะมักจะมีกลิ่นรสของผลไม้เปรี้ยวๆ หอมสดชื่น

โซวิญง บลองก์ เป็นหนึ่งองุ่นที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ลัวร์ วัลเลย์ และแคว้นบอร์กโดซ์ ในฝรั่งเศส หมายถึง องุ่นป่าสีขาว (ในกาลต่อมา ที่บอร์กโดซ์ มีการจับแต่งงานกับกาแบร์กเนต์ ฟร็อง ออกลูกเป็น กาแบร์กเนต์ โซวิญง องุ่นพันธุ์ดังในการผลิตไวน์)

จากต้นกำเนิดที่ตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ตอนนี้เรียกว่าไปเติบโตอยู่ในหลายๆ แห่งของโลก ไม่ว่าจะเป็น ลัวร์ วัลเลย์ ในฝรั่งเศสเอง รวมถึง ชิลี ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ บราซิล แคลิฟอร์เนีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นิวซีแลนด์

กลิ่นรสของโซวิญง บลองก์ ในแต่ละแห่ง ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เรียกว่า “แตร์กครัวร์” ของแต่ละที่ ซึ่งอาจมีได้ทั้งกลิ่นผลไม้ประเภทซีตรัส ไปจนถึงกลิ่นเขียวๆ ของหญ้า พริกยักษ์สีเขียว และอย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะ—บางทีก็กลิ่นเหมือนฉี่แมว (อ่ะ)

โซวิญง บลองก์ ส่วนใหญ่จะหนีไม่พ้นความมีชีวิตชีวาและสดชื่น ด้วยกลิ่นแนวผลไม้ ที่มีทั้งแอปเปิล แพร์ ผลไม้เมืองร้อน และกลุ่มซีตรัส โดยเฉพาะที่ไปปลูกกันที่นิวซีแลนด์ (มาร์ลโบโรห์ ฮิลส์) และแคลิฟอร์เนีย

ไวน์โซวิญง บลองก์ มีบอดีระดับกลางๆ ดื่มง่ายแบบเย็นๆ ดื่มขณะยังละอ่อนจะดีมาก ถ้าจะเลือกซื้อหาให้ดูปีที่เด็กที่สุด สามารถจับคู่ได้ดีกับจานปลา

ที่ฝรั่งเศส โซวิญง บลองก์ เติบโตใน “แตร์กครัวร์” แบบใกล้ทะเลในบอร์กโดซ์ ไวน์จะค่อนข้างดรายและยังใช้ผลิตไวน์หวานโซแทร์นด้วย ขณะที่ลัวร์ วัลเลย์ เป็นดินแดนที่ลึกเข้าไปในแผ่นดิน ทำให้องุ่นโตช้ากว่าแถบใกล้ทะเลและแดดจัด จึงค่อยๆ พัฒนาความเป็นกรดและปริมาณน้ำตาลจนเกิดความสมดุล (ที่รู้จักกันดีคือ ปุยยี ฟูเม และซองแซร์)

ดูเหมือนการขยายตัวไปสู่โลกใหม่จะทำให้โซวิญง บลองก์ สร้างชื่อและไปได้สวยกว่า ณ ขณะที่อยู่ในโลกเก่า หรืออาจด้วยเพราะผู้คนเริ่มเบื่อกับรสชาติครีมๆ จากถังไม้โอ๊กของชาร์ดอนเนย์แล้วก็เป็นได้ โซวิญง บลองก์ ก็เลยเบียดตัว ตีตื้นขึ้นมาเป็นไวน์ขาวแถวหน้าๆ เป็นทางเลือกใหม่ของคนที่ชอบไวน์ขาว

เอาล่ะ...คราวหน้าจะว่าด้วย “แมร์กโลต์” ไวน์แดงสุดท้ายในอภิมหา “บิ๊กซิกซ์” โดยเก็บขวัญใจของเปอติ๊ตอย่าง “ริสลิ่ง” เอาไว้ท้ายสุด

แบบ... Save the Best for Last เก็บลูกชิ้นไว้กินทีหลัง อิอิ..