Wholesome Eat Super Green Juice

โดย...สีวลี ตรีวิศวเวทย์ ภาพ Cookool Studi

พูดถึงอาหารสุขภาพมาหลายตอนแล้ว เริ่มตั้งแต่อาหารสุขภาพที่อร่อย ยังคงความเป็นอาหารที่ช่วยให้เราอิ่มอยู่ท้อง มาจนถึง MealReplacement อย่างเมล็ดเชีย ที่รับประทานแทนมื้อบางมื้อ เพื่อช่วยลดแคลอรีต่อวันที่จะเข้าสู่ร่างกาย นำมาซึ่งผลแห่งการลดน้ำหนักได้ถ้ารับประทานอย่าง “รู้”

มาในฉบับนี้ Wholesome Eat จะพามารู้จักกับ “เครื่องดื่ม” เพื่อสุขภาพ ที่เกือบไม่เหลือความเป็นอาหารที่อิ่มอยู่ท้อง หลายๆท่านรับประทานเป็น Meal Replacementหรือเรียกว่า กินแทนข้าวบางมื้อ ไปจนถึงดื่มแทนอาหารในช่วงเวลา 3 วันบ้าง 5 วันบ้างไปจนถึง 7 วัน ด้วยหวังผลว่าเครื่องดื่มหรือที่เรียกติดปากคนรุ่นใหม่ว่า Cold PressedJuice จะช่วยขับพิษหรือดีทอกซ์ ไปจนถึงลดน้ำหนัก และระยะยาวคือหวังเพื่อชะลอวัยไปจนถึงบรรเทาโรคบางโรค เรียกว่าได้รู้สรรพคุณแล้ว พานนึกว่าเป็นยาอายุวัฒนะเลยก็ว่าได้

สรุปแล้ว Cold Pressed Juice คืออะไรกันแน่ ผู้เขียนเองก็เคยทดลองเป็น “สาวก”ของน้ำผักพวกนี้อยู่หลากหลายยี่ห้อ อธิบายง่ายๆ คือ เป็นน้ำผักผสมผลไม้ ที่มาจากเครื่องที่เรียกว่า Low Pressure Juicer หรือเครื่องคั้นน้ำที่แยกเอากากออก จนได้น้ำออกมาจากผักหรือผลไม้ด้วยกรรมวิธีการบดอัดด้วยเกลียวของเฟืองในเครื่อง ไม่ใช้ปั่นละเอียดแล้วกรองเครื่องที่ว่าจะไม่มีส่วนของมีคมเลย เผลอๆ จะมีส่วนประกอบของโลหะน้อยมาก เพราะถือว่าโลหะจะทำให้วิตามินและเกลือแร่ในผักและผลไม้แปรสภาพไปจนร่างกายไม่ได้ประโยชน์อย่างที่ควรจะเป็น ถือเป็น Antioxidant ชั้นยอดที่จะช่วยต้านอนุมูลอิสระต่างๆ มากมายนี่แหละสาเหตุว่าทำไมถึงนิยมกันหนักหนา ว่ากันว่าเครื่องดื่ม Cold Pressed ดีๆ สักแก้วที่ผสมผักหลากหลายชนิดเข้าด้วยกัน แต่งรสด้วยผลไม้ในปริมาณที่เหมาะสม เหมือนเป็น“วิตามินรวม” ในรูปเครื่องดื่มก็ว่าได้

สูตรที่นิยมที่สุด และเชื่อว่ามีประโยชน์มากที่สุด ต้องขอยกให้สูตรพื้นฐานอย่างGreen Juice ที่มีสีเขียวเข้มจากการสกัดน้ำจากผักใบเขียว แต่งรสให้ดื่มได้ง่ายขึ้นด้วยแอปเปิ้ลเขียวเพราะเป็นผลไม้ที่ไม่หวานมากนัก และมีเส้นใยพอควรเมื่อสกัดออกมา และไม่ใช่ว่าจะเลือกผักใบเขียวชนิดใดก็ได้ ต้องศึกษาสักนิด เพราะผักใบเขียวส่วนใหญ่จะมีสารที่เรียกว่า ออกซาเลต (Oxalate) ที่มีอยู่เยอะตามธรรมชาติ ถ้ารับประทานมากๆ และติดต่อกันนานๆ จะส่งผลต่อการเกิดนิ่วในไตไปจนถึงโรคไตอื่นๆ ได้ ผักใบเขียวที่แนะนำคือ เคล (Kale) ในบ้านเราอาจจะหาซื้อยากสักหน่อย แต่ตอนนี้มี “รังสิตฟาร์ม” ที่ปลูกขายอยู่ตามซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ หลายแห่งข้อดีของผักเคลที่คล้ายๆ คะน้าผสมกวางตุ้งผสมผักกาด ให้โพแทสเซียมสูง วิตามินเกลือแร่ครบถ้วน เช่นเดียวกับผักใบเขียวอื่นๆ แต่มีสารออกซาเลตต่ำกว่า ปวยเล้งหลายสิบเท่าในน้ำหนักเท่าๆ กัน อีกทั้งยังแอบมีโปรตีนจนเป็นความหวังของแหล่งโปรตีนให้ผู้ที่รับประทานน้ำผักล้วนๆ อีกด้วย

ถามว่าถ้าหาเคลไม่ได้ แล้วจะใช้อะไรแทนดี คำถามเข้ามาในสมองของผู้เขียนเป็นอันดับแรกตอนอ่านสรรพคุณ ต่าง  ๆ หาคำตอบโดยสรุปมาได้ว่า ไม่มีอะไรแทนได้เสมอเหมือนแต่อาจจะผสมเล็กผสมน้อยขึ้นมาได้ในสูตร“Green Juice” ของเรา เช่น ผสมปวยเล้งที่มีออกซาเลตสูงกับผักชนิดอื่นๆ เช่น ผักสลัด ผักกาดคอส แม้แต่คะน้า ตำลึง หรือผักจิงจูฉ่ายก็นำมาคั้นเป็นน้ำผักได้ แต่ต้องรับประทานแต่พอดี และต้องรู้ตัวเองว่าไม่เป็นปัญหาสุขภาพในด้านไตอยู่ก่อนแล้ว เพราะอาจให้โทษมากกว่าให้คุณ

ผู้ใหญ่หลายท่านๆ เคยเป็นห่วงผู้เขียนในช่วงนิยมดื่มน้ำผักแทนมื้ออาหารบางมื้อ เช่นในมื้อเย็น ให้เหตุผลว่า ถ้าจะกินน้ำผักทำไมไม่กินสลัดไปเลย จะได้กากใยด้วย จริงๆ แล้วถ้าพูดตามหลัก จะได้น้ำผักสักแก้วต้องใช้ปริมาณผักเยอะกว่าการรับประทานสลัดสักจาน ดังนั้น ในช่วงที่ร่างกายอยากได้ประโยชน์จากวิตามินและเกลือแร่ในผักอย่างรวดเร็วและเพียงพอต่อความต้องการ แม้ว่าจะให้กากใยน้อย ไม่ค่อยอิ่ม แต่ปริมาณวิตามินเกลือแร่ต่อปริมาณการเสิร์ฟ 1 แก้ว ถือเป็น“Green Juice” จึงเป็นทางลัดที่ดีที่เสริมได้ในบางช่วง อยากทราบวิธีทำแล้ว ลองดูเลยค่ะ

Super Green Juice

สำหรับสูตรนี้อาจยุ่งยากในการหาเครื่องคั้นแยกกากแบบบดอัดช้าๆ หรือ Low PressureJuicer มาใช้สักนิดค่ะ ถึงจะได้คุณค่าทางอาหารสูงสุด

สำหรับ 2 ที่

ใบเคล 15 ใบ

แอปเปิ้ลเขียว 2 ลูก

เพิ่มเติมได้ตามชอบ เช่น

สับปะรดฉ่ำ 1/4 ลูก

สะระแหน่ 2 ช่อ

เซเลอรี่ 1/2 ก้าน

แตงกวา 1 ลูก

สำหรับสูตรที่ใช้ใบปวยเล้งแนะนำให้ใช้ใบปวยเล้ง 6-8 ใบผสมกับผักกาดคอสสัก 6-8 ใบแทนผักเคลได้ในสูตรนี้ (โดยคุณค่าทางอาหารอาจแตกต่างกันออกไป)

• ล้างทำความสะอาดผักด้วยน้ำเย็น สะเด็ดน้ำแล้วหั่นเป็นท่อนๆ ขนาดที่เหมาะสม

• บดอัดผักผ่านเครื่องคั้นน้ำชนิดบดอัดช้าๆ หรือ LowPressure Juicer ดื่มทันทีเพื่อคุณค่าทางอาหารสูงสุด