posttoday

หูด หงุดหงิด

10 กันยายน 2558

คนเราต้องการที่จะอวดโฉมผิวสวยทั้งใบหน้าและร่างกายทุกส่วน แต่หลายๆ อย่างก็ไม่ได้เป็นดั่งใจ โดยเฉพาะเรื่องโรคผิวหนัง

โดย...เพรงเทพ ภาพ : assh.org/bloggiemommie.com

คนเราต้องการที่จะอวดโฉมผิวสวยทั้งใบหน้าและร่างกายทุกส่วน แต่หลายๆ อย่างก็ไม่ได้เป็นดั่งใจ โดยเฉพาะเรื่องโรคผิวหนัง ซึ่งปัจจุบันโรคนี้ไม่ค่อยได้ถูกหยิบมาพูดถึงนัก ทั้งที่เป็นโรคติดต่อเช่นกันแต่เป็นประเภทไม่ร้ายแรง

ใครได้เป็นโรคนี้เข้าถือว่านอนไม่หลับเอาเลยทีเดียว เพราะมันน่าเกลียดมากๆ ยิ่งอยู่นอกร่มผ้าบริเวณมือหรือเท้า หากมีคนสังเกตเห็นอาจจะโดนรังเกียจกันเลยทีเดียว

โรคที่ว่ามาข้างต้นคือ ‘หูด’

พญ.วิญญารัตน์ ตันศิริ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาตจวิทยา (โรคผิวหนัง) ได้เขียนบทความในนิตยสารใกล้หมอ ปีที่ 22 ฉบับวันที่ 7 ก.ค. 2541 อธิบายไว้ว่าหูด (Wart) เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่ง เกิดจากเชื้อไวรัสปาโปวา (Papova Virus) ลักษณะหูดนี้จะเป็นเม็ดตุ่มนูนแข็ง มีรากอยู่ข้างใต้หูด มีขนาดแตกต่างกันไป แบ่งเป็น 3 ชนิด คือ หูดธรรมดา (Common Wart) ลักษณะของหูดชนิดนี้จะเป็นตุ่มเม็ดนูนแข็ง ผิวค่อนข้างขรุขระ อาจมีเม็ดเดียวหรือหลายเม็ดก็ได้ ตำแหน่งที่พบบ่อยคือ บริเวณแขน ขา มือ และเท้า

หูดชนิดแบน (Plane Wart) ลักษณะของหูดชนิดนี้จะเป็นเม็ดเล็กแข็งแต่ผิวเรียบ ตำแหน่งที่พบบ่อย ได้แก่ หลังมือ หน้าแข้ง หน้าผาก

หูดฝ่าเท้า (Plantar Wart) ลักษณะเป็นไต เป็นแผ่นหนาแข็ง เป็นปื้นใหญ่ ขนาดใหญ่กว่าหูดธรรมดา ตำแหน่งที่พบคือบริเวณฝ่าเท้าและข้างใต้ฝ่าเท้า

ว่าไปแล้ว หูดเป็นโรคติดเชื้อไวรัสทางผิวหนังที่พบได้ในทุกเพศทุกวัย มักพบในเด็กและวัยรุ่น โดยจะโตช้าๆ และอยู่นานโดยไม่มีอาการ ข้อมูลประชากรไทยราว 20-40% เมื่อได้รับเชื้อไวรัสหูดแล้วไม่พบว่ามีการแสดงอาการ

เมื่อมีการติดเชื้อไวรัสหูดจะกระตุ้นให้เซลล์หนังกำพร้าเกิดการหนาตัวหรือแข็งตัวขึ้น โดยมีระยะฟักตัวนาน 1-6 เดือน และสามารถติดต่อกันได้ทางการสัมผัสผิวหนังและทางเพศสัมพันธ์ ขึ้นอยู่กับชนิดของหูด เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังที่ถลอกเปื่อยยุ่ย มีรอยขีดข่วน มีแผล หรือการสัมผัสกับผิวหนังที่เป็นหูด รวมทั้งการหยิบจับสิ่งของที่มีเชื้อไวรัสปนเปื้อนอยู่ หูดสามารถติดต่อจากส่วนหนึ่งของร่างกายไปยังอีกส่วนหนึ่งได้ แม้กระทั่งการแกะเกาก็ทำให้หูดแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้

พญ.สลิล ศิริอุดมภาส วว.พยาธิวิทยากายวิภาค เขียนบทความไว้ในเว็บไซต์ http://haamor.com ไว้ว่า หูดบริเวณผิวหนังพบได้บ่อยที่สุดในเด็กและคนอายุน้อย อัตราการพบสูงสุดอยู่ที่ช่วงอายุ 12-16 ปี ผู้ชายและผู้หญิงมีโอกาสเกิดเท่ากัน คนผิวดำและคนเอเชียเป็นมากกว่าคนผิวขาวประมาณ 2 เท่า

หูด หงุดหงิด

 

การดูแลตนเองและการป้องกันโรคหูด ต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสหูดของตนเอง (ในกรณีเป็นอยู่) เช่น การแคะแกะเกาหูดที่เป็นอยู่ การกัดเล็บ เพราะจะทำให้ผิวหนังบริเวณอื่นๆ ติดเชื้อแล้วกลายเป็นหูดได้ หลีกเลี่ยงการสัมผัสหูดของผู้อื่น ผู้ที่อยู่ในบ้านเดียวกัน ควรแยกของใช้ส่วนตัว เช่น ผ้าขนหนู เสื้อผ้า กรรไกรตัดเล็บ มีดโกน พยายามเลี่ยงการทำเล็บที่ร้านไม่สะอาด การตัดผมแบบที่มีการโกนขนหรือหนวดที่ใช้ใบมีดร่วมกัน และห้ามใช้เครื่องมือที่ใช้ตัดหรือเฉือนหูดร่วมกับผู้อื่น

สำหรับโรคหูดจะมีความแปลกก็คือไม่ต้องรักษาก็หายเองได้ ผู้ป่วยเป็นหูด 2 ใน 3 จะหายไปเองภายใน 2 ปี โดยไม่ทิ้งรอยแผลเป็น แต่ในบุคคลที่มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง มักไม่หายเอง การรักษาก็ไม่ค่อยได้ผล มีอัตราการเกิดเป็นใหม่สูง และหูดอาจกลายเป็นมะเร็งได้ง่ายกว่าคนทั่วไป

แนวทางการรักษาโรคหูด แบ่งออกเป็นการรักษาด้วยยา (มักเป็นยาใช้ภายนอก) และด้วยการผ่าตัด รวมถึงการไม่รักษา

สำหรับการรักษาไม่ใช่การฆ่าไวรัส เพราะยังไม่มียาฆ่าไวรัสได้ แต่เป็นเพียงการทำลายเนื้อเยื่อบริเวณที่เห็นเป็นโรค จึงอาจยังมีเชื้อไวรัสหลงเหลืออยู่รอบๆ ที่ผิวหนังที่เห็นเป็นปกติ ดังนั้นแม้จะเอาหูดและเนื้อเยื่อผิวหนังรอบๆ หูดออกไปกว้างพอ ก็ไม่เป็นการรับประกันว่าเชื้อจะหมดไป โรคจึงกลับมาเป็นใหม่ได้

ในการจะรักษาด้วยวิธีใดนั้น แพทย์จะประเมินจากหลายๆ ปัจจัย เช่น ขนาดของหูด จำนวนหูดที่เกิด ลักษณะของหูด ตำแหน่งที่เกิด อายุ และสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย รวมทั้งดุลพินิจของแพทย์

ซึ่งโดยทั่วไปวิธีรักษาหูด ได้แก่ การไม่รักษา เพราะประมาณ 65% ของผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันปกติ โรคหูดจะยุบหายเองภายใน 2 ปี ดังนั้นถ้าเป็นหูดขนาดเล็ก และมีจำนวนเล็กน้อย อาจเลือกวิธีนี้ได้

ส่วนการรักษาด้วยยา ซึ่งควรเป็นการรักษาโดยแพทย์เท่านั้น โดยมียาหลายชนิดให้เลือกใช้ ทั้งยาแบบทา ฉีด กินและฉีดเข้าเส้น การผ่าตัด การใช้ความเย็นผ่านไนโตรเจนเหลว เลเซอร์ จี้ด้วยไฟฟ้า ผ่าตัดโดยใช้มีด แต่ยังไม่มีวิธีไหนที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ

เพราะฉะนั้นการสู้กับหูดต้องรักษาร่างกายให้แข็งแรงและผิวหนังให้สะอาด หูดก็จะไม่กล้ากล้ำกรายให้หงุดหงิดได้เลย