สองอารมณ์ ผสมกัน นวพล ธํารงรัตนฤทธิ์
ตอนนี้ในฐานะผู้กำกับที่ฮอตที่สุด มีคนกล่าวถึงมากที่สุด คงไม่มีใครอีกแล้ว ถ้าไม่ใช่ “เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์”
โดย...แจนยูอารี ภาพ : วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี
ตอนนี้ในฐานะผู้กำกับที่ฮอตที่สุด มีคนกล่าวถึงมากที่สุด คงไม่มีใครอีกแล้ว ถ้าไม่ใช่ “เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์”
เต๋อกับเรานัดพบกันก่อนที่หนัง “ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย..ห้ามพัก..ห้ามรักหมอ” จะเข้าฉายไม่กี่วัน และนี่คือสิ่งที่เขาเปิดใจกับเราอย่างตรงไปตรงมา
หนังของเต๋อเปิดตัวไม่ขี้เหร่ 11.60 ล้านบาท (เข้าฉาย 3 ก.ย.) ยิ่งไปกว่านั้น หนังเรื่องนี้ยังได้คำชม (จริงๆ นะ ไม่ใช่การอวยกันเพื่อหวังสร้างกระแส) จากนักวิจารณ์และแฟนเพจหนังชั้นนำ ต่างยกให้เป็นหนึ่งผลงานแห่งปีที่มีสิทธิเข้าใกล้ “ตัวแทนหนังไทยชิงออสการ์” ที่สุดแล้วจะอย่างไร เดี๋ยวคงได้รู้กัน
การมาทำหนังที่มีสโลแกนเก๋ๆ ว่า “หนังรักของคนอยากพักร้อน” กับค่ายจีทีเอช เต๋อว่าไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์อะไร เพราะเขาเองก็คุ้นเคยรู้จักมักจี่กับพี่ๆ ในค่ายเป็นอย่างดี ด้วยว่าความสำเร็จของหนังหลายเรื่องก็มาจากเขานี่ล่ะ เป็นหนึ่งในทีมเขียนบท
“แต่คนทั่วไปอาจจะไม่รู้มากกว่าครับว่า ผมเคยทำงานกับจีทีเอช พอมากำกับ คนก็เลยแปลกใจ เพราะที่ผ่านมาผมก็ทำหนังของผมเอง ไม่ได้มีค่ายอะไร”
จากผู้กำกับอินดี้สู่ผู้กำกับค่ายยักษ์ เต๋อยอมรับ ไม่ต้องปรับตัวอะไรเลย การทำงานก็ยังเหมือนเดิม สไตล์กำกับก็เหมือนเดิม อิสระทางความคิดเต็มร้อย ผู้ใหญ่ไฟเขียวให้แสดงความคิดความอ่านตามสะดวกตามใจ ถ้าใครไปดูหนังมาแล้วก็จะรู้ว่าบรรยากาศและวิธีเล่าเรื่องไม่แมสจ๋า แล้วก็ไม่อาร์ตแตก ขณะที่การให้น้ำหนักบทและตัวละครก็มีลูกเล่นลูกฮา กลมกล่อมกำลังดี เป็นสองอารมณ์ อาร์ตปะทะแมส
“วิธีการทำงานผู้ใหญ่ก็ให้ผมทำเหมือนที่ผมเคยทำ อารมณ์มันเหมือนย้ายบ้านมากกว่าครับ ไม่ต้องทำให้แมสขึ้น เพราะผมก็แมสได้แค่เนี้ย (หัวเราะ) เพราะสิ่งที่ผมขายไปว่าจะแมสเลเวลนี้ พอดีเขาก็ซื้อในเลเวลนี้ เลยไม่ต้องมีเพิ่มเติมอะไร ไม่ต้องทำให้ฮา หรือซึ้งเหมือนหนังจีทีเอช ไม่ใช่สเกลใหญ่ เพราะถ้าสเกลใหญ่ก็กดดันผมเปล่าๆ ครับ ก็เอาเท่าที่ผมเป็นและทำได้
ถ้าคนมาทางสายอินดี้ เคยดู 36 หรือ แมรี ก็จะเข้าใจว่าผมเป็นสายนั้น ส่วนคนที่ไม่เคยดูหนังผมมาก่อนเลย อาจจะเริ่มจากหนังสั้นของผมก็จะอีกแบบหนึ่ง สำหรับผมคนทำงานมันคือการกระโดดไปมาระหว่างสองโหมด ฟรีแลนซ์ก็อาจกระโดดไปโหมดปกติ คือบทมีความขัดแย้ง ปกติเลยครับ แต่วิธีเล่าอาจจะไม่ทั่วไปนิดหนึ่ง ไม่ถึงขั้นพิสดาร ดูรู้เรื่องครับ แต่ต้องตามมันหน่อยนะ”
ขณะที่กำลังเขียนบทสัมภาษณ์ รายได้รวม หนังฟรีแลนซ์ 61.74 ล้านบาท นำโด่ง Transporter Refueled เรียบร้อย (ที่มา www.facebook.com/flickznet) ซึ่งเต๋อก็บอกกับเราวันนั้นว่า ถ้าไม่คิดอะไรมาก มาดูนักแสดง (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ แล้วก็ วี-วิโอเลต วอเทียร์ แต่ที่กำลังป๊อปสุดๆ ในโซเชียลคือพี่สุชาติ วินมอเตอร์ไซค์ที่โผล่มาไม่กี่วินาทีและไม่เห็นหน้าด้วยซ้ำ) ก็คุ้มค่าตั๋วแล้ว
“ที่มันจะคอนเนกกับคนดูได้ง่ายที่สุด ผมว่าคือการมาดูนักแสดงครับ ใหม่-ดาวิกากับพี่ซันนี่ ไม่เคยเล่นโหมดนี้เลย คงไม่ได้เห็นพี่ซันนี่ในโหมดที่ถูกถ่ายแบบหนังสารคดี เพราะหนังมันแฮนด์เฮลด์เยอะมาก เขาต้องเล่นแบบ 360 องศา เขาต้องเล่นทั้งตัว หรืออย่างใหม่ก็น่าจะเป็นการเมกอัพที่น้อยที่สุดในชีวิตเขาล่ะ บวกกับวิธีการเล่นแบบอิมโพรไวส์ พูดแบบธรรมชาติๆ ไม่ใช่กริ๊บๆ แบบที่เขาเคยแสดง
หนังไทยประเภทบันเทิงสุดๆ ก็มีแล้ว อาร์ตสุดๆ ไปคานส์ก็ไปมาแล้ว แต่มันยังขาดคือหนังที่อยู่ตรงกลาง ผมเองก็อยากจะมาอยู่ตรงนั้น ตอนที่ทำแมรีผมก็ว่าผมพยายามจะทำให้กลางๆ แล้วนะ แต่ผมว่ามันก็ยังไม่ถึง ซึ่งผมว่าที่มันก็ยังไม่ถึง เพราะการรับรู้ของคนด้วยล่ะ จำนวนคนที่ได้ดูยังไม่ใช่ ถ้าคนดูหมื่นคนมันก็แค่นั้น มันต้องถูกขยายเพิ่มมากกว่าหมื่นคน ผมถึงอยากให้มันเป็นโมเดลหนังขนาดกลางๆ ซึ่งเมืองนอกมีเต็มเลย คนที่จะทำแบบนี้ได้มันต้องมีสององค์ในคนคนเดียวนะผมว่า คืออยากทำหนังอาร์ตที่โดนใจตลาด แต่ก็พูดยากครับ เพราะสุดท้ายมันก็อยู่ที่ขนาดโปรเจกต์และการเปิดใจของนายทุน ถ้ามันไม่บาลานซ์มันก็เป็นไปได้ยาก แต่ผมก็อยากให้มันเกิดขึ้นจริงๆ นะครับ มันเหมือนเมืองนอกมี ฟ็อกซ์ เสิร์ชไลต์ พิกเจอร์ส เมืองไทยก็อาจมี จีทีเอช เสิร์ชไลต์ พิกเจอร์ส เป็นดีพาร์ตเมนต์หนึ่งของค่าย”
ฝันของเต๋อจะเป็นจริงหรือไม่ คงต้องรอผลลัพธ์จากหนังยาวลำดับที่ 4 ของเขา (3 เรื่องก่อนหน้า ได้แก่ 36 ชนะ New Currents Award ที่ปูซาน Mary is happy, Mary is happy ชนะหนัง Jogja-NETPAC Asian Film Festival ที่ไทเป The Master ชนะสารคดียอดเยี่ยม สุพรรณหงส์และกำลังจะมีโฟโต้หนุก (บุ๊ก) for 610 days, i’ve stayed with these two) นี่ล่ะ ว่าจะโดนใจคอหนังมากน้อย