posttoday

โซล เก่ากับใหม่ที่ลงตัว

26 กันยายน 2558

เช้าวันหนึ่งในกรุงโซล ประเทศเกาหลี ผมมีโอกาสได้ชม “They Are Not Very Different From Ours”

โดย...วีรวงศ์ วงศ์ปรีดี

เช้าวันหนึ่งในกรุงโซล ประเทศเกาหลี ผมมีโอกาสได้ชม “They Are Not Very Different From Ours” งานแสดงภาพถ่ายของช่างภาพชาวอังกฤษ ชื่อ นิค แดนซิงเจอร์ รวบรวมภาพถ่ายเมื่อครั้งที่เขาได้ไปประเทศเกาหลีเหนือ เขาได้รับอนุญาตจากรัฐบาลให้ถ่ายภาพและพูดคุยกับประชาชนที่นั่น เช่น ชาวประมง ทหาร นักเต้นรำ และครูสอนโลมา รวมทั้งยังเก็บภาพทัศนียภาพของกรุงเปียงยางไว้ด้วย ภาพทั้งหมดถูกจัดแสดงที่ โซล มิวเซียม ออฟ อาร์ตส (Seoul Museum of Arts) ใกล้กับพระราชวังด็อตดุง ใจกลางกรุงโซล

ชาวเกาหลีผู้หนึ่ง อธิบายว่า ผู้ชายเกาหลีทุกคนจะต้องผ่านการเกณฑ์ทหาร เพราะสงครามไม่รู้จะเกิดขึ้นอีกเมื่อไร แม้ว่าประชาชนของทั้งสองประเทศ (เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้) จะไม่มีความแตกต่างกัน หากแต่ผู้นำต่างหากที่สร้างความน่ากลัวได้ตลอดเวลา ผมเองได้มีโอกาสอ่านหนังสือเกาหลีเหนือก่อนที่จะได้เดินทางมาเกาหลีใต้เป็นครั้งแรก ข้อความที่ฝังใจบทหนึ่ง กล่าวไว้ว่า ประชาชนชาวเกาหลีเหนือถูกปิดกั้นจากโลกภายนอกอย่างมาก ไม่รู้แม้กระทั่งว่าการสวมใส่กางเกงยีนส์ขาดๆ คือแฟชั่น แต่เมื่อผมได้เห็นภาพถ่ายที่นำมาแสดงโชว์แล้ว กลับรู้สึกเหมือนประโยคที่นิคได้เขียนไว้ว่า ชาวเกาหลีเหนือนั้นไม่ได้แตกต่างจากพวกเราเลย

สำหรับ โซล เมืองหลวงของสาธารณรัฐเกาหลีใต้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของทวีปเอเชีย และมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย วันแรกที่ไปเยือนโซล ผมได้ไปชมคลองซองเกซอน เป็นคลองที่มีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร อายุเก่าแก่กว่า 600 ปี จากเดิมเป็นคลองน้ำเน่าคล้ายๆ คลองแสนแสบบ้านเราและเป็นย่านสลัม แต่เมื่อปี 2546 รัฐบาลเกาหลีได้ทุ่มงบประมาณบูรณะคลองแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ให้ใสสะอาดจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อน

โซล เก่ากับใหม่ที่ลงตัว พระราชวังเคียงบุกกุง

 

หลังจากนั้นก็ได้เดินทางต่อไปยังย่านซัมชองดอง (Samcheong Dong) ที่มีความหมาย 3 อย่าง คือ ภูเขาที่งดงาม น้ำที่สะอาด และที่พักที่สงบสุข ในย่านนี้จะมีร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายเสื้อผ้า และอาร์ตแกลเลอรี่ที่วัยรุ่นเกาหลีใต้นิยมมาเดินเล่น และอีกแห่ง คือ เมืองลอยน้ำซัมซีวิท (Some Sevit) ฮอลล์ขนาดใหญ่สร้างอยู่กลางน้ำ รอบๆ เป็นเส้นทางจักรยาน สวนสาธารณะ รวมทั้งมีจอภาพขนาดใหญ่ริมแม่น้ำให้ความบันเทิงแก่ผู้คนที่มาออกกำลังกายก่อนกลับบ้านในยามเย็นด้วย

วันที่สองของ โซล เป็นวันที่ต้องใช้พละกำลังมากที่สุดด้วยการเดินขึ้นเขากว่า 1 กิโลเมตร เพื่อไปยังกำแพงแห่งกรุงโซล เป็นกำแพงที่กั้นเขตแดนของฮันซุงในยุคราชวงศ์โซซอนที่ปกครองเกาหลีมากว่า 600 ปี กำแพงมีความยาว 18.6 กิโลเมตร สูงประมาณ 5-6 เมตร เมื่อเดินขึ้นมาอยู่บนที่สูงจะได้เห็นวิวที่งดงามของเมืองที่ผสมผสานกันระหว่างเมืองเก่าและเมืองใหม่อันเป็นสัญลักษณ์ของกรุงโซล จากนั้นผมได้ไปรับประทานอาหารกลางวันที่ตลาดกวางจัง ตลาดสดเก่าแก่แห่งแรกของกรุงโซล มีอายุ 110 ปี โดยราคาอาหารจานเดียวเริ่มต้นที่ 5,000 วอน นอกจากนี้ยังมีสินค้าทางการเกษตร เสื้อผ้า และของใช้อื่นๆ อีกมากมาย ที่สามารถเดินเล่นต่อได้ทั้งวัน แต่ด้วยเวลาจำกัด ผมจึงต้องเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านบุกชอน ฮันนก ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาตอนบนของย่านซัมชองดอง รวมทั้งหมู่บ้านบุกชอน ฮันนก ซึ่งเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่พักของขุนนางในราชวงศ์โซซอน มีบ้านเก่าแก่กว่า 100 หลังคาเรือน นักท่องเที่ยวส่วนมากจะต้องมาสถานที่แห่งนี้ รวมทั้งชาวเกาหลีเองด้วย

หลังจากเดินลงมาจากหมู่บ้านแห่งนี้ ผมก็ได้เข้าไปเยี่ยมชมพระราชวังเคียงบุกกุง ที่อยู่ไม่ไกลมากนัก เป็นที่พักของกษัตริย์และครอบครัวของราชวงศ์โซซอนก่อนถูกญี่ปุ่นรุกราน และหลังจากนั้นประเทศเกาหลีก็ไม่มีกษัตริย์อีกเลย ปัจจุบันองค์กรยูเนสโกบันทึกให้พระราชวังเคียงบุกกุงเป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี 2540 โดยช่วงฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเที่ยวชมพระราชวังแห่งนี้ เพราะดอกไม้หลากชนิดจะตกลงพื้นตัดกับพระราชวังดุจภาพเขียนพู่กันที่งดงาม

โซล เก่ากับใหม่ที่ลงตัว จุดชมวิวบนสุดของถนนบูคัก สกายเวย์

 

ก่อนเดินทางกลับที่พักผมได้นั่งรถไปบนถนนที่สวยงามของกรุงโซลที่มีชื่อว่า บูคัก สกายเวย์ ที่เป็นทางขึ้นเขาไปยังจุดชมวิว ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ระหว่างทางขึ้นจะมีบรรดานักปั่นจักรยานมาทดสอบพละกำลังด้วยการปั่นขึ้นเขากันจำนวนมาก เห็นแล้วก็นึกอิจฉาคนในกรุงโซล ที่มีพื้นที่ปั่นจักรยานมากมายทั้งทางเรียบและทางขึ้นเขา นอกจากนี้จุดชมวิวด้านบนยังมีความงามมาก เป็นรางวัลแก่ผู้เดินทางขึ้นมาทั้งทางรถหรือจักรยาน ด้วยวิวกรุงโซลแบบพาโนรามาที่แปลกตา

วันที่สาม (วันสุดท้าย) ผมเริ่มต้นที่ย่านบุม ดอง ตั้งอยู่ด้านล่างของถนนบูคัก สกายเวย์ เป็นแหล่งรวมตัวของเหล่าบรรดาอาร์ติสต์และนักเขียน มีแกลเลอรี่ร่วมสมัย ร้านกาแฟ ร้านอาหารที่ออกแบบอย่างมีลักษณะเฉพาะตัว นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ที่ผู้สร้างภาพยนตร์มักจะเลือกมาถ่ายทำกัน จากนั้นผมก็ได้เดินทางต่อไปที่ถนนโซชอนตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกของพระราชวังเคียงบุกกุง เป็นถนนเก่าแก่ โดยบ้านเรือนและร้านค้าบนถนนแห่งนี้จะถูกสร้างเป็นตึกที่ไม่สูงมากนัก และยังเป็นที่ตั้งของร้านหนังสือที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงโซลด้วย

หลังจากนั้นได้เดินทางต่อไปยัง ดองแตนัม ดีไซน์ พลาซ่า (Dongdaenum Design Plaza) หรือที่ชาวเกาหลีเรียกสั้นๆ ว่า DDP ตัวอาคารออกแบบโดย ซาฮา ฮาดิท ชาวอิรัก ที่นำแผ่นอะลูมิเนียมกว่า 4 หมื่นแผ่น โดยแต่ละแผ่นมีความแตกต่างกันมาสร้างเป็นตัวอาคารที่ดูทันสมัย ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงโซลเลยทีเดียว รอบๆ อาคารจัดเป็นนิทรรศการ ส่วนภายในมีงานแสดงศิลปะของทั้งต่างชาติและชาวเกาหลี

โซล เก่ากับใหม่ที่ลงตัว ชุมชนระหว่างทางเดินขึ้น กำแพงแห่งกรุงโซล

 

ต่อมาได้ไปยังย่านอีแทวอน สถานที่ที่มีชาวต่างชาติอยู่จำนวนมาก ซึ่งเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โซซอน เริ่มจากมีชาวญี่ปุ่นเข้ามาอาศัยอยู่ในย่านนี้ คำว่าอีแทวอน จึงมีความหมายว่า จุดกำเนิดของความแตกต่าง ตามถนนสองข้างทางกว่า 1 กิโลเมตร จึงมีร้านอาหารนานาชาติ ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น และที่น่าประทับใจ คือ การได้เข้าไปนั่งฟังดนตรีจากศิลปินอินดี้ชาวเกาหลีในร้านอาหาร แม้ว่าผมจะไม่เข้าใจเนื้อร้องแต่ภาพลักษณ์ของนักดนตรีคู่ชายหญิงคู่นี้ทำให้รู้สึกว่า จริงๆ แล้วไม่ได้มีแต่เคป๊อป ที่มีอิทธิพลกับเยาวชน แต่ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่มีการสร้างสรรค์งานเพลงในแนวของตัวเอง

ตอนกลางคืนผมไปเดินบนถนนฮองแด แหล่งรวมเยาวชนเกาหลีโดยแท้ ถนนแห่งนี้เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยฮองกิค ที่มีชื่อเสียงด้านศิลปะ ซึ่งเมื่อตกดึกสองข้างถนนจะเต็มไปด้วยผับ บาร์ และมีนักดนตรีอินดี้แบบที่ผมเห็นเมื่อตอนเย็นมาเล่นดนตรีสดเปิดหมวก โดยทั้งหมดเป็นเยาวชนทั้งสิ้น

ก่อนเดินทางกลับจากเกาหลี ผมมีเวลาว่างครึ่งวันเช้า จึงตัดสินใจเดินเที่ยวเล่นในเมือง โดยใช้เวลาอยู่ในโซล มิวเซียม ออฟ อาร์ตส ที่กำลังจัดนิทรรศการเกี่ยวกับเกาหลีเหนืออยู่นาน ผมอ่านประโยคนี้อีกครั้ง “They are not very different from ours” แต่คราวนี้ไม่ได้นึกถึงสองเกาหลีเท่านั้น ครั้นยังย้อนกลับมาคิดถึงประเทศไทยของเราเอง

ขอขอบคุณ Seoul Metropolitan G overnment

โซล เก่ากับใหม่ที่ลงตัว แหล่งรวมวัยรุ่นที่ฮองแด

 

โซล เก่ากับใหม่ที่ลงตัว บรรยากาศตลาดกวางจัง

 

โซล เก่ากับใหม่ที่ลงตัว คลองซองเกซอน

 

โซล เก่ากับใหม่ที่ลงตัว เปียโนที่ใช้เส้นลวดแบ่งแยกเขตแดนระหว่าง 2 เกาหลี

 

โซล เก่ากับใหม่ที่ลงตัว ร้านแบบนี้มากมายในย่านบุมดอง

 

โซล เก่ากับใหม่ที่ลงตัว ร้านหนังสือเก่าแก่ที่สุดบนถนนโซชอน

 

โซล เก่ากับใหม่ที่ลงตัว ชุมชนระหว่างทางเดินขึ้นกำแพงแห่งกรุงโซล

 

 

โซล เก่ากับใหม่ที่ลงตัว ดนตรีระหว่างทางบนถนนอีแทวอน