posttoday

Eco-tourism in New Zealand

26 กันยายน 2558

คำว่า Eco-tourism เป็นคำที่เกิดใหม่ในวงการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งเป็นคำผสมกันระหว่างคำว่า Ecology

โดย...ทีมงานโลก 360 องศา [email protected]

คำว่า Eco-tourism เป็นคำที่เกิดใหม่ในวงการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งเป็นคำผสมกันระหว่างคำว่า Ecology ที่แปลว่าระบบนิเวศกับคำว่า Tourism ที่แปลว่าการท่องเที่ยว

เมื่อนำคำทั้งสองคำมารวมกัน จึงหมายถึงการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ กิจกรรมของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์มีหลายอย่างแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของแต่ละที่ เช่น การเดินสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติ การส่องสัตว์ การดูนก  การปีนเขาไต่เขา การสำรวจถ้ำหรือน้ำตก การขี่ม้าขี่ช้าง การปั่นจักรยาน และการกางเต็นท์นอนพักแรมในสถานที่ที่จัดไว้ 

การท่องเที่ยวในลักษณะนี้ไม่เพียงช่วยให้เกิดการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนเท่านั้น ในขณะเดียวกันก็ยังช่วยสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้ชาวบ้านในท้องถิ่นได้รับประโยชน์ โดยตรงจากการอนุรักษ์ธรรมชาติแวดล้อมนั้น ดังนั้นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศจึงเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สามารถดำเนินควบคู่กันไปได้ จนนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

แนวคิด Eco-tourism เริ่มได้รับความสนใจในวงกว้าง ในช่วงปี 1980 เป็นต้นมา จนนำไปสู่การจัดตั้งสมาคมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศนานาชาติที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ในชื่อภาษาอังกฤษว่า The International Ecotourism Society ซึ่งตั้งขึ้นมาในปี 1990 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ซึ่งในปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 120 ประเทศทั่วโลก

Eco-tourism in New Zealand กิจกรรมการท่องเที่ยวในประเทศนิวซีแลนด์ ส่วนใหญ่จะเป็นกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด

 

 

ประเทศนิวซีแลนด์ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ  ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศให้พื้นที่กว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของประเทศ เป็นเขตอุทยานแห่งชาติ และมีสโลแกนสำหรับการท่องเที่ยวในนิวซีแลนด์ว่า เป็นการท่องเที่ยวสีเขียวและสะอาดแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยใช้คำภาษาอังกฤษว่า 100% Pure New Zealand

หน่วยงานหลักที่ผลักดันโครงการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของประเทศ ก็คือกระทรวงการท่องเที่ยวและกระทรวงสิ่งแวดล้อม ที่มีนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และได้ตั้งกองทุนสนับสนุนกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา 

นอกจากนั้น ยังมีการมอบรางวัลให้กับหน่วยงานหรือองค์กรที่ดำเนินกิจกรรมผ่านมาตรฐานการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้ภาคธุรกิจหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาแนวทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศมากขึ้น

Eco-tourism in New Zealand ทัศนียภาพอันสวยงามของนิวซีแลนด์ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ การพักผ่อน และดื่มด่ำกับธรรมชาติ

 

กิจกรรมเด่นๆ สำหรับการท่องเที่ยวในนิวซีแลนด์ ส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด  ได้แก่ การสำรวจสัตว์หายาก ทั้งสัตว์ป่าและสัตว์ทะเล เช่น วาฬ หรือโลมา ซึ่งการดูโลมาถือเป็นกิจกรรมยอดนิยมอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวที่มานิวซีแลนด์ โดยเฉพาะโลมาที่มีขนาดเพียง 1.4 เมตรที่มีชื่อว่า เฮกเตอร์โลมา จัดเป็นโลมาที่หายากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก และมีให้พบในทะเลนิวซีแลนด์เท่านั้น

นิวซีแลนด์ยังเป็นแหล่งรวมของนกนานาพันธุ์ที่หายากหลากหลายชนิด ซึ่งในปัจจุบันกิจกรรมดูนกก็เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเช่นกัน โดยนกกีวีที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ ตอนนี้ถือว่าเป็นสัตว์หาดูยากในป่าธรรมชาติ แต่จะมีให้ชมในสวนสัตว์เท่านั้น แต่กิจกรรมหนึ่งที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของนิวซีแลนด์เลยก็ว่าได้ ก็คือการท่องเที่ยวในฟาร์ม เพราะนิวซีแลนด์มีชุมชนที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเยอะมาก ดังนั้น การท่องเที่ยวแบบนี้นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตของเกษตรกรที่นี่ เช่น การรีดนมวัวและที่คนไทยเราชอบมากก็คือ การไปชมการเลี้ยงแกะ

นอกจากนั้น รัฐบาลยังส่งเสริมการเดินทางที่เป็นทางเลือกมากมาย ตั้งแต่การเดินทางแบบหรูหราไปจนถึงการเดินทางแบบราคาย่อมเยาหรือที่เรียกว่าสไตล์แบ็กแพ็ก แน่นอนว่าการเดินทางที่ได้รับความนิยมที่สุด คือการขับรถเที่ยวเอง ซึ่งทำให้เราได้สัมผัสกับทิวทัศน์สองข้างทางที่สวยงามแปลกตา ส่วนเส้นทางขับรถท่องเที่ยวก็มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง และมีป้ายบอกทางที่ชัดเจน

ดังนั้น นิวซีแลนด์จึงเป็นประเทศที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ที่นักเดินทางสามารถเลือกใช้เวลาไปกับกิจกรรมที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ และความชอบของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ในแต่ละฤดูกาลก็มีสิ่งที่น่าสนใจแตกต่างกันออกไป นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

Eco-tourism in New Zealand Farm stay เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมการท่องเที่ยว ที่จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบนิวซีแลนด์แท้ๆ

 

ด้วยประเทศนิวซีแลนด์มีแหล่งน้ำครอบคลุมทั่วประเทศ และยังเป็นประเทศอันดับที่ 7 ของโลกที่มีพื้นที่ทางน้ำครอบคลุมถึง 4 ล้านตารางกิโลเมตร ซึ่งมากกว่าขนาดพื้นดินถึง 15 เท่า ด้วยเหตุนี้เอง วิถีชีวิตของชาวนิวซีแลนด์ส่วนใหญ่จึงผูกพันกับสายน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกีฬาทางน้ำก็จะเป็นที่โปรดปรานมากของชาวกีวี เช่น การตกปลา การเล่นเซิร์ฟ การดำน้ำ และการล่องเรือ-ล่องแพ เป็นต้น

การตกปลาน้ำจืด โดยเฉพาะปลาเทราต์ ถือเป็นกีฬาอย่างหนึ่งในนิวซีแลนด์ เพราะปลาเทราต์ถูกห้ามขายในตลาดหรือภัตตาคาร จำเป็นต้องตกปลาด้วยตัวเองเท่านั้น ซึ่งการตกปลาเทราต์ในนิวซีแลนด์นั้นจะต้องมีใบอนุญาตเท่านั้น

แม้ว่านิวซีแลนด์จะมีแนวปะการังไม่มากมาย แต่แหล่งดำน้ำของที่นี่ก็นับได้ว่าเป็นจุดที่ได้รับการยอมรับอยู่มากทีเดียว นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความหลากหลายและความสวยงามของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล  ซึ่งสถานที่ดำน้ำยอดนิยมของนิวซีแลนด์ ได้แก่ หมู่เกาะคาวัลลี (Cavalli Island) เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำเกาะพัวร์ไนท์ (Poor Knight Island) และแถบเบย์ ออฟ ไอส์แลนด์ (Bay of Island)

มากไปกว่านั้น อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในนิวซีแลนด์ ถือเป็นฐานเศรษฐกิจที่สำคัญอันหนึ่งของประเทศ ซึ่งในปี 2013 รายได้จากการท่องเที่ยวคิดเป็นมูลค่า 7,300 ล้านเหรียญนิวซีแลนด์ หรือ 3.7 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ที่สามารถสร้างงานกว่า 1.1 แสนตำแหน่ง หรือคิดเป็น 6 เปอร์เซ็นต์ของอัตราการจ้างงานทั้งประเทศ นอกจากนั้นยังสร้างรายได้ทางอ้อมอีกกว่า 9,800 ล้านเหรียญนิวซีแลนด์ โดยรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็นมูลค่า 16 เปอร์เซ็นต์ของรายได้จากการส่งออกของประเทศ หรือประมาณ 10 ล้านล้านเหรียญนิวซีแลนด์

ผลจากการดำเนินการด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของนิวซีแลนด์ ทำให้องค์กรธุรกิจด้านการท่องเที่ยวหลายแห่งของนิวซีแลนด์ กวาดรางวัลระดับโลกกันอยู่บ่อยครั้ง ส่วนในภาพรวมนักท่องเที่ยวจำนวนมากก็ประทับใจในแนวทางนี้มากค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ในเดือน พ.ย. 2012 ผู้อ่านหนังสือพิมพ์ The Telegraph ของอังกฤษ ได้โหวตให้นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่ดีที่สุดในโลก สำหรับการท่องเที่ยวในวันหยุด

ดังนั้น การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ จึงเป็นการท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ที่เราในฐานะนักท่องเที่ยว ควรตระหนักและให้ความสำคัญให้มากขึ้น สำหรับการท่องเที่ยวครั้งต่อไปของเราเพื่อรักษาแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ ให้อยู่กับเราไปนานๆ