ยิวยิตสู
โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ ภาพ : www.thaialibaba.com, www.mokurendojo.com
โดย...วันพรรษา อภิรัฐนานนท์ ภาพ : www.thaialibaba.com, www.mokurendojo.com
ยิวยิตสู ในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า ศิลปะแห่งความอ่อนโยน เป็นชื่อเรียกศิลปะการต่อสู้ที่ถูกพัฒนาขึ้นในยุคสงครามกลางเมืองช่วง 800 ปีก่อนสมัยมุโรมาชิ (ค.ศ. 1333-1573) ในอดีตญี่ปุ่นมีสำนักยิวยิตสูเป็นร้อย แต่ละสำนักมีแนวทางในการฝึกของตัวเอง โดยเป็นชื่อเรียกกลางๆ ที่ใช้เรียกศิลปะการต่อสู้ด้วยมือเปล่า ชื่อยิวยิตสูต้องการสื่อให้เห็นถึงการต่อสู้ที่ใช้แรงน้อยและใช้แรงจากคู่ต่อสู้เพื่อย้อนกลับไปทำลายคู่ต่อสู้เอง
ลักษณะการต่อสู้มีทั้งการโจมตี การล็อก การทุ่ม บางสำนักมีการฝึกใช้อาวุธด้วย จนในบางครั้งถูกเรียกว่าเป็นวิชาที่มี “ทุกอย่าง” ยิ่งในสมัยก่อนจะเป็นการต่อสู้แบบไม่มีกติกา และทำทุกวิถีทางเพื่อล้มคู่ต่อสู้ ผู้เรียนถูกฝึกให้ไม่มีความปรานีต่อคู่ต่อสู้ไม่ว่ากรณีใดๆ แม้ในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นเอง บางยุคสมัยยิวยิตสูถูกสั่งห้ามไม่ให้ประชาชนฝึก เนื่องจากถูกมองว่ารุนแรงเกินไป
ในประเทศไทย ยิวยิตสูเข้ามาตั้งแต่ก่อนปี พ.ศ. 2464 หากต่อมาเมื่อยูโดเริ่มแพร่หลาย และยิวยิตสูถูกมองว่ารุนแรงเกินรับได้ คนไทยส่วนใหญ่จึงหันมาฝึกยูโดแทน การฝึกสอนยิวยิตสูในไทยมีบันทึกเก็บไว้ว่าโรงฝึกแห่งแรกคือเรนบูกัน และห้องยิมของโรงเรียนเทพศิรินทร์ ที่สร้างนักยิวยิตสูที่โด่งดังหลายคน
ยิวยิตสูในปัจจุบัน พัฒนาต่อมาหลายสาย สายแรกคือ นิฮอน ยิวยิตสู ซึ่งเป็นการต่อสู้ในแบบดั้งเดิมคือ โจมตี หัก ล็อก ทุ่ม อีกสายหนึ่งคือบราซิลเลี่ยน ยิวยิตสู ซึ่งเน้นการต่อสู้ในท่านอน รวมทั้งยังสามารถแบ่งเป็นยิวยิตสูโบราณและยิวยิตสูสมัยใหม่ (Modern Jujutsu) ที่พัฒนาขึ้นในยุคหลังเมจิด้วย ยิวยิตสูสมัยใหม่ถูกปรับให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น มีความศิวิไลซ์มากขึ้น ปรับกฎกติกาต่างๆ เช่น ลดอาวุธ ลดเสื้อเกราะ เน้นที่การต่อสู้มือเปล่า
ยิวยิตสูสมัยใหม่ประกอบด้วยการต่อย เตะ การทุ่ม และล็อกจับ โดยใช้ร่างกาย การพักข้อ หรือการทำให้คู่ต่อสู้เสียสมดุลในการทุ่ม การกด ล็อก รัดคอ การกอดปล้ำ ขณะที่การป้องกันตัว ได้แก่ การปัด หลบหลีก การทำให้เสียสมดุล และการหลบหนี นักยิวยิตสูจะมีการฝึกฝนในท่าที่สามารถทำอันตรายร้ายแรงแก่คู่ต่อสู้ได้ อย่างไรก็ตาม การฝึกซ้อมไม่ใช่การเอาจริงเอาจัง จึงทำให้ลดอันตรายลง
สำหรับเทคนิคการต่อสู้ อันดับแรก คือท่าการต่อสู้ด้วยมือเปล่า จะเน้นที่การหักข้อต่างๆ ในทิศทางย้อนกับการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติ โดยการใช้แรงกดเพื่อให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นไม่สามารถต้านทานได้ ตามด้วยการดึงคู่ต่อสู้ลงหรือการทุ่มและล็อก ในบางครั้งใช้เทคนิคการต่อยหรือเตะไปยังเป้าหมายที่เป็นจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ ทำให้เสียสมดุลเพื่อการล็อก กด หรือทุ่ม
นอกจากนี้ คือการใช้การเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ให้เป็นประโยชน์ในการกด ล็อก หรือหักข้อ เพื่อทำให้เสียสมดุลและต่อด้วยการทุ่ม ขณะที่ร่างกายของผู้ป้องกันวางตำแหน่งอยู่ในท่าที่ได้เปรียบเหนือผู้เข้ากระทำ เพื่อไม่เป็นเป้าหรือแสดงจุดอ่อนให้น้อยที่สุด ทุกวันนี้มียิวยิตสูรูปแบบต่างๆ ที่พัฒนาขึ้นนอกเกาะญี่ปุ่น ปรับเปลี่ยนบ้างเพื่อให้เข้ากับวัฒนธรรมตะวันตก ศิลปะการป้องกันตัวแขนงใหม่ๆ เหล่านี้ ยังเรียกตัวเองว่าเป็นแขนงของยิวยิตสู
สรุปแล้ว ยิวยิตสู ก็คือศิลปะการต่อสู้โบราณของญี่ปุ่นที่พัฒนาต่อยอดมาจนถึงปัจจุบัน หลักคือการใช้มือเปล่าจู่โจมและป้องกันตัวจากคู่ต่อสู้ บางครั้งและบางเวทีมีการใช้อาวุธเป็นเครื่องทุ่นแรง ไม่มีกฎเกณฑ์ที่แน่นอนตายตัวว่าต้องจู่โจมอย่างไร แต่จะทําทุกวิถีทางเพื่อล้มคู่ต่อสู้ให้ได้ ทั้งทุ่ม กด จับล็อก ส่งผลให้การต่อสู้ดุเดือดได้ใจผู้มีหัวใจรักการต่อสู้ทั่วโลก
สำหรับผู้สนใจอยากฝึกการต่อสู้โบราณนี้ก็ไม่ยากเลย มีเปิดสอนที่โรงฝึกอิทเท็น ยูยิสสู ถนนเพชรเกษม ซอยเพชรเกษม 92 (โทร. 08-4110-9687) นอกจากจะฝึกสอนยิวยิตสูแบบปกติแล้ว ยังมีคอร์สฝึกที่มุ่งเน้นเฉพาะการป้องกันตัว จัดเป็นคอร์สระยะสั้นสำหรับสุภาพชนที่ต้องการฝึกฝนตน นอกจากนี้ ยังมีฝึกสอนที่ Bangkok Fight Factory ถนนราชพฤกษ์ โทร. 02-489-4502, 09-2245-2246