ดีที่สุด ... เท่าที่เป็นได้

โดย...แหนง-ดู ภาพ Alice in Wonderland

หลังจากกดรีโมทโทรทัศน์ไปเรื่อยๆ ในที่สุดเราก็มาหยุดอยู่ที่ Alice in Wonderland หนังผจญภัยแฟนตาซีของผู้กำกับ ทิม เบอร์ตัน จากปี 2010 ที่วนเวียนนำกลับมาฉายอีกครั้ง

และเราก็ได้ออกเดินทางท่องไปในดินแดนมหัศจรรย์กับสาวน้อยอลิซ...อีกครั้ง

จากเรื่องแต่งแบบด้นสดเพื่อเล่าให้เด็กๆ (หนึ่งในนั้นชื่อว่า อลิซ) ฟังระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวทางเรือ กลายมาเป็นวรรณกรรมคลาสสิกที่มีอิทธิพลต่อโลก Alice’s Adventures in Wonderland โดยนักประพันธ์ชาวอังกฤษ ลูอิส แคร์รอลล์ ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ 150 ปีที่แล้ว แต่ก็ไม่เคยถูกลืม

เล่าเรื่องราวของเด็กสาวชื่อ อลิซ ที่วิ่งตามกระต่ายขาวจนมาเจอกับโพรงกระต่าย ซึ่งเป็นประตูที่นำเธอเข้าสู่วันเดอร์แลนด์ การผจญภัยจึงเริ่มต้นขึ้น อลิซได้พบกับตัวละครต่างๆ มากมาย นอกจากกระต่ายขาวแล้วก็ยังมีแมวเชสเชอร์ คนขายหมวก กระต่ายเดือนสาม หนูหลับใน ราชินีโพธิ์แดง ฯลฯ

จากรุ่นสู่รุ่น เรื่องราวของอลิซ (และผองเพื่อน) ถูกนำกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง (และอีกครั้ง) ในชื่อ รูปแบบ การตีความ การนำเสนอ ฯลฯ ที่แปลกต่างกันออกไป

ไม่ว่าจะอ่านหรือชมเทพนิยายอย่าง Alice in Wonderland เพื่อความบันเทิง หรือเพื่อค้นหาความหมายลึกซึ้งที่ซุกซ่อนอยู่ เราต่างค้นพบว่าเรื่องราวของอลิซและผองเพื่อนนั้นมีคุณค่าในตัวมากมาย

ระหว่างการผจญภัยในวันเดอร์แลนด์ เด็กสาวอย่างอลิซมีความมั่นใจและความกล้าหาญที่จะหลุดพ้นจากกฎระเบียบเดิมๆ ก่อนจะกลายเป็นคนที่เธออยากจะเป็น

ระหว่างการผจญภัยในวันเดอร์แลนด์ เด็กสาวอย่างอลิซได้เรียนรู้ที่จะ “เติบโต” และไม่อาจจะกลับไปเป็นคนเดิมที่เธอเคยเป็นอีกต่อไป

อย่างที่ตอนหนึ่งในนวนิยาย บอกว่า “It’s no use going back to yesterday, because I was a different person then.” …“ฉันไม่อาจย้อนกลับไปเมื่อวาน เพราะวันนี้ฉันได้กลายเป็นอีกคนหนึ่งไปแล้ว”

Alice’s Adventures in Wonderland อาจจะเริ่มต้นมาจากการเป็นเรื่องแต่งสำหรับเด็กๆ แต่กลายเป็นเรื่องที่ถูกศึกษา วิเคราะห์ และกลั่นกรองนำ “สาระ” ที่ซุกซ่อนอยู่ออกมาเป็นข้อควรคิด ซึ่งใช้เรียนรู้ได้ในชีวิตจริง

ไม่นานจากนี้คนที่ชื่นชอบ Alice in Wonderland รวมทั้งแฟนผู้กำกับและนักแสดงอย่าง ทิม เบอร์ตัน, จอห์นนี่ เดปป์, แอนน์ แฮธาเวย์, เฮเลนา บอนแฮม คาร์เตอร์, มีอา วาสิคาวสกา ฯลฯ ก็จะได้ชมภาคต่อ Alice Through the Looking Glass กัน

ไม่ว่าจะอ่านหรือชมเทพนิยายอย่าง Alice in Wonderland เพื่อความบันเทิง หรือเพื่อค้นหาความหมายลึกซึ้งที่ซุกซ่อนอยู่ เราต่างค้นพบว่าเรื่องราวของอลิซและผองเพื่อนนั้นมีคุณค่าในตัวมากมาย

เมื่อได้อ่านและชมในวันเวลาในวาระที่แตกต่างกัน เราก็ได้เรียนรู้เรื่องราวที่แตกต่างออกไปด้วยเช่นกัน ในวัยเด็กเราได้เปิดจินตนาการให้กว้างไกล การยอมรับความเหนือจริงบางอย่าง เมื่อโตขึ้นเราก็พบว่า
ตัวเองเหมือนกับอลิซในช่วงเวลาหนึ่ง

เมื่อเราต้องยอมรับและทำตามกฎกติกาต่างๆ มากมาย ทั้งที่เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง ทั้งที่นำมาซึ่งความสุขใจบ้าง ทั้งที่นำมาซึ่งความทุกข์ใจบ้าง ระหว่างนั้นคำถามเกี่ยวกับตัวตนและการมีอยู่เกิดขึ้น แต่บ่อยครั้งก็ไม่มีคำตอบให้กับตัวเอง กระทั่งวันหนึ่งเราได้เรียนรู้ที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีคิด ราวกับหลุดเข้าไปอยู่ในโลกใหม่อย่าง Wonderland เราก็ได้พบกับคำตอบ 

จากเรื่องราวของอลิซ บอกกับเราว่า ตลอดทั้งชีวิตเราต่างต้องเติบโตไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสรีระร่างกายหรือบุคลิกภาพหรือตัวตนภายใน

การเติบโต คือ การเรียนรู้ว่าเราคือใคร เกิดมาเพื่ออะไร ต้องการจะเป็นอะไร ต้องการจะทำอะไร ต้องการจะมีอะไร

การเติบโต คือ การเผชิญหน้าและรับมือกับความยุ่งยากลำบาก ความเจ็บปวด ความผิดหวัง รวมทั้งความรัก ความสุข ความสนุกสนาน ฯลฯ

การเติบโต คือ การผ่านพ้นความรู้สึกกลัว การต้อนรับความท้าทายใหม่ๆ การใช้ความสามารถและสิ่งที่เราได้เรียนรู้มาทั้งหมด เพื่อที่จะเป็นเราในแบบที่ “ดีที่สุด” เท่าที่จะทำได้