ภาพเขียนท่องเที่ยวกรีซ
เก็ตตี วิลลา เมืองลอสแองเจลิส สหรัฐ ชวนท่องเที่ยวกรีซผ่านภาพเขียนสีน้ำศตวรรษที่ 19
โดย...อฐิณป ลภณวุษ artofmylifeasafrog.blogspot.com
เก็ตตี วิลลา เมืองลอสแองเจลิส สหรัฐ ชวนท่องเที่ยวกรีซผ่านภาพเขียนสีน้ำศตวรรษที่ 19 โดยศิลปิน นักเดินทาง นักเขียน และนักโบราณคดีชาวไอริช เอ็ดเวิร์ด ด๊อดเวลล์ รวมทั้งศิลปินคู่หูชาวอิตาเลียนของเขา ซิโมเน โปมาร์ดี
“ในหินทุกก้อน ทุกชะง่อนผา และแม่น้ำทุกสาย ล้วนเต็มไปด้วยร่องรอยของวิญญาณแห่งอดีต” เอ็ดเวิร์ด ด๊อดเวลล์ เขียนเอาไว้ระหว่างเริ่มต้นการเดินทางไปสำรวจ เขียนหนังสือ และวาดภาพทั่วประเทศกรีซในศตวรรษที่ 19 ซึ่งเขาและซิโมเน โปมาร์ดี ได้ร่วมกันวาดภาพสีน้ำและภาพดรออิ้งนับพันภาพ ทั้งภาพสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมถึงภาพชนบทของกรีซด้วย
นิทรรศการ Greece’s Enchanted Landscapes : Watercolors by Edward Dodwell and Simone Pomardi จัดแสดง ณ เก็ตตี วิลลา เมืองลอสแองเจลิส ระหว่างวันนี้-15 ก.พ. 2016 นับเป็นครั้งแรกที่มีการจัดแสดงภาพเขียนเหล่านี้ในสหรัฐ โดยคัดสรรภาพเขียนชิ้นสำคัญ 44 ภาพ โดยสถาบันมานุษยวิทยาแพ็กการ์ด รวมทั้งคอลเลกชั่นภาพถ่ายสถานที่สำคัญของกรีซ ซึ่งพิพิธภัณฑ์เก็ตตีเป็นเจ้าของอยู่แล้ว กับภาพพิมพ์เรื่องเดียวกันของสถาบันวิจัยเก็ตตี ที่ทำให้ได้เห็นภาพรวมของทิวทัศน์ประเทศกรีซในยุคนู้น รวมถึงภาพชีวิตของชาวกรีกสมัยที่ยังอยู่ภายใต้การปกครองอาณาจักรออตโตมัน
“ภาพดรออิ้งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงสถานที่สำคัญของกรีซและยุโรป สถานที่ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเป็นยุคเก่าและใหม่ของกรีซในขณะเดียวกัน โดยโบราณสถานและทิวทัศน์อื่นๆ แสดงให้เห็นภาพของทั้งก่อนและหลังการเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรออตโตมัน”
ทิโมที พอตต์ส ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ เจ. พอล เก็ตตี บอกอีกว่า นิทรรศการศิลปะที่จัดที่เก็ตตี วิลลา อยู่ท่ามกลางชิ้นงานอื่นๆ ที่บอกเล่าเรื่องราวของชาวกรีก โรมัน รวมทั้งชาวอีทรัสคัน หรือคนพื้นเมืองโบราณของกรีซ โดยจัดลำดับการแสดงงานเอาไว้ให้ผู้ชมงานเห็นภาพรวมที่อลังการและชัดเจน
เอ็ดเวิร์ด ด๊อดเวลล์ (มีชีวิตระหว่างปี 1777-1832) เป็นนักเขียนนักเดินทางจากศตวรรษที่ 19 ที่ศึกษาเรื่องวัฒนธรรมกรีกโบราณอย่างลึกซึ้ง เขาเดินทางเข้าไปในดินแดนที่เป็นประเทศกรีซในปัจจุบันครั้งแรกในปี 1801 แล้วก็กลับไปอีกครั้งในปี 1805 พร้อมกับเพื่อนศิลปินชาวอิตาเลียน ซิโมเน โปมาร์ดี (มีชีวิตระหว่างปี 1757-1830) และพากันเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วเป็นเวลา 14 เดือน พวกเขาอาศัยการวาดภาพเป็นการจดบันทึกเรื่องราวของประเทศกรีซอย่างละเอียดลออ ซึ่งเอ็ดเวิร์ดบรรยายเอาไว้ว่าเป็นการทำงานแบบ “เก็บทุกเม็ด” โดยภาพบางชิ้นไม่เคยได้รับการตีพิมพ์มาก่อน แต่ได้กลายเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นสำคัญในยุคศตวรรษที่ 19 ของกรีซไปแล้ว
“ภาพของวิหารโบราณของกรีซที่ถูกปล่อยทิ้งให้ปรักหักพัง ภาพชาวกรีกภายใต้การปกครองของชาวเติร์ก ภาพที่ชวนให้รำลึกถึงอดีตอันรุ่งเรืองที่ไม่มีวันหวนกลับ โดยเอ็ดเวิร์ดและซิโมเนได้ถ่ายทอดความงามภายใต้อารยธรรมแห่งอดีต” เดวิด ซอนเดอร์ส ภัณฑารักษ์ของงานนี้ กล่าวเสริมว่า ในหลายๆ ภาพที่ทั้งสองท่านถ่ายทอดออกมาได้อาศัยเครื่องมืออย่างกล้องถ่ายภาพพิเศษ (Camera Obscura) ที่ช่วยให้การวาดภาพแม่นยำสมจริงยิ่งขึ้น โดยในนิทรรศการนี้ก็ได้แสดงให้เห็นถึงการใช้งานกล้องและวิธีการทำงานของทั้งสองคนอย่างละเอียดด้วย
เอ็ดเวิร์ด ด๊อดเวลล์ เป็นลูกชายคนเดียวของ เอ็ดเวิร์ด ด๊อดเวลล์ แห่งโมลซีย์ เขาเป็นญาติกับนักเขียนนักปฏิวัติชาวไอริช เฮนรี ด๊อดเวลล์ เอ็ดเวิร์ดได้รับการศึกษาที่ตรินิตี คอลเลจ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ โดยจบปริญญาตรีปี 1800 หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ยึดอาชีพใดๆ แต่ว่าเดินทางไปกรีซพร้อมกับเซอร์วิลเลียม เกลล์ เพื่อนที่เรียนเคมบริดจ์มาด้วยกัน ไปยังเมืองคอร์ซีรา, อิทากา, เซฟาโลเนีย และอีกหลายเมือง
ความหลงใหลในอารยธรรมกรีก ทำให้เขาตั้งใจจะกลับไปทำสารคดีอย่างเจาะลึก โดยได้ฤกษ์ในปี 1805 ซึ่งเขาเริ่มต้นจากเมืองเมสสิน่า ไปยังซาคีนทุส, เพทราส, เดลฟี, เลบาเดอา, แชโรเนีย, ออร์โคเมนุส, เทเบส และ ฯลฯ
ที่เอเธนส์ เขาสามารถเข้าถึงอะโครโปลิสได้ โดยติดสินบนรัฐบาลและทหารเติร์ก ด้วยอำนาจของเงิน เขาสามารถจะเข้าไปในที่ที่คนอื่นไปไม่ถึง เอ็ดเวิร์ดค้นพบขุมสมบัติของโบราณมากมายในแอตติกา นอกจากนี้ เขายังไปถึงเกาะแอจินา, เทสซาลี และแคว้นเพโลปอนเนเซ (ที่มีเมืองโอลิมเปีย, ไมเซแน, ไทรีนส์ และเอพิโดรุส) เขายังได้เปิดสุสานในโครินธ์ โดยได้ค้นพบโถดินเผาโบราณที่ภายหลังตั้งชื่อว่า “ด๊อดเวลล์ เวส” (Dodwell Vase) ซึ่งมีฝาเป็นลายคนกำลังล่าหมี ภายหลังเชื่อว่าเป็นศิลปะแบบยิวในโครินธ์
เอ็ดเวิร์ดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะในกรีซไว้ราว 400 ชิ้น ขณะที่ศิลปินอาชีพอย่าง ซิโมเน 600 ชิ้น โดยนักเขียนไอริชยังสะสมเหรียญและของโบราณของกรีซอีกจำนวนมาก (รวมทั้ง ด๊อดเวลล์ เวส ด้วย)
หลังกลับจากกรีซในปี 1806 เอ็ดเวิร์ดไปอาศัยอยู่ในอิตาลี โดยไปๆ มาๆ ระหว่างกรุงโรมกับเมืองเนเปิลส์ เขาแต่งงานกับเทเรซา ลูกสาวเคาต์จิโรด์ ซึ่งอายุอ่อนกว่าเขาถึง 30 ปี โดยหลังจากที่เขาเสียชีวิตในกรุงโรมในปี 1832 เธอก็ได้สมรสครั้งที่ 2 กับเคาต์ เดอ สเปอร์ ในปีถัดมา
ความป่วยไข้ของเอ็ดเวิร์ด ด๊อดเวลล์ เกิดมาจากการเดินทางไปยังหุบเขาซาบีนา ทางตอนกลางของอิตาลี ในปี 1830 ตามด้วยกลับไปกรีซอีกครั้ง เพื่อหวังจะเขียนหนังสือให้เสร็จสมบูรณ์ยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่ได้กลับมากลับเป็นความป่วยไข้จนถึงแก่ชีวิต