ฝรั่งเศสตอนใต้ เสน่ห์เมืองโบราณแสนสงบ

โดย...ปอย

ในแต่ละปีวางแผนว่าต้องออกไปท่องโลกปีละสองครั้ง จุดหมายเมืองท่องเที่ยวไม่ไกล 1 แห่ง จุดหมายไม่ใกล้อีก 1 แห่ง เพื่อเปิดโลกทัศน์ และในปีนี้ก็วางแผนไปเที่ยวฝรั่งเศสตอนใต้สองอาทิตย์เต็ม จากจุดเริ่มต้นที่ปารีสอยู่เพียงสามวัน สุทธิพงษ์ สุริยะ ฟู้ดสไตลิสต์ชื่อดัง บอกว่าไม่เน้นเที่ยวเมืองหลวงมหานครใหญ่ๆ ขอชื่นชมผู้คนแต่งตัวจัดๆ บนท้องถนนในสไตล์สตรีทแฟชั่นแสนเก๋ของชาวปารีเซียง แค่นี้ก็อิ่มตาอิ่มใจแล้ว

จุดหมายในฝันคือเมืองท่องเที่ยวแต่มีเสน่ห์เรื่องความสงบ ครบครันทั้งเรื่องศิลปะยุโรป ได้อิ่มเอมกับอาหารชั้นเลิศ ซึมซับการท่องเที่ยวจากวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตกลมกลืนในเมืองเก่า จากปารีสเพื่อต้องการย่นระยะเวลาจึงเลือกเดินทางโดยเครื่องบินไปยังเมืองมาร์แซย์ (Marseille) เมืองทางตอนใต้ในแคว้นพรอวอง มาร์แซย์เป็นเมืองท่าสำคัญริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน “...ผมอยากเห็นวิถีชีวิตชาวประมงของเมืองนี้...” สุทธิพงษ์ เล่ารายละเอียดทริป จากนั้นนั่งรถไฟต่อไปยังเมือง เอ็ก-ซอง-โพรวองซ์ (Aix-en-Provence) ไปชมศิลปะและชิมอาหารการกินหลากหลาย เพราะพืชพรรณธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ และเข้าสู่เมืองโบราณชมศิลปะกอธิกในเมืองอาวีญง (Avignon) และเมืองใกล้เคียงกัน คือ นีมส์ (Nimes) กาวายง (Cavaillon) ปิดท้ายด้วยเมืองเล็กน่ารัก กอร์ด (Gordes)

 

ชิมอาหารทะเลริมเมดิเตอร์เรเนียน

ทุกสถานที่เป็นการดีไซน์ทริปด้วยตัวเอง ไปเที่ยวเมืองเก่าๆ เล็กๆ เมืองท่องเที่ยวมีชื่อเสียงแต่ก็ไม่พลุกพล่าน เพราะนักท่องเที่ยวมาที่นี่ต้องการสัมผัสธรรมชาติแสนสงบโดยแท้จริง สุทธิพงษ์ บอกว่าเริ่มต้นที่เที่ยวมาร์แซย์ มุ่งไปที่ท่าเรือเก่า Le Vieux Port สร้างขึ้นโดยพ่อค้ากรีก 600 ปีก่อนคริสตกาล ท่าเรือเก่าแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในนามประตูสู่เมดิเตอร์เรเนียน ตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว โดยเป็นศูนย์กลางการค้าขายระหว่างประเทศแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และประเทศอาณานิคมของฝรั่งเศส

“ตัวเมืองอยู่บนเนินเขาค่อยๆ ลาดเอียงสู่เวิ้งอ่าวขนาดใหญ่ บรรยากาศเมืองเก่ากับความทันสมัยที่ลงตัวมากครับ เรือยอชต์หรูๆ จอดเทียบท่าอ่าวอยู่กับเรือประมงในเมืองท่าที่มีตึกเก่าแก่ แค่เมืองเดียวก็กดถ่ายภาพไปกว่าพันรูป (หัวเราะ) ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีคนหลากหลายเชื้อชาติ แล้วด้วยหน้าที่การงานของผมเกี่ยวกับอาหาร ผมก็สนุกมากกับการชิมอาหารหลายๆ แบบ

 

ร้านอาหารบ้านสวยๆ รายล้อมปากอ่าวที่นี่ แล้วแต่ละวันก็มีการจัดกิจกรรมไม่ซ้ำกันเลยนะครับ สีสันการท่องเที่ยวที่ได้ซึมซับวิถีชาวบ้านจริงๆ เริ่มตั้งแต่เช้า ก็จะมีเรือประมงวิ่งเทียบท่าพร้อมอาหารทะเลสดๆ ทั้งนักท่องเที่ยวทั้งนกนางนวลก็จะคึกคักกันใหญ่ (หัวเราะ) ผมได้ชิมปลาซาร์ดีนย่างเกลือ อร่อยด้วย ได้บุญด้วย เพราะเป็นงานของสโมสรโรตารีจัดขึ้นมาหาเงินทุนเพื่อไปช่วยเด็กโรคหัวใจ บริเวณนี้มีลานโล่งให้ชาวเมืองทำกิจกรรม ก็มีการออกร้านของกิน ของที่ระลึกมาขายนักท่องเที่ยว จุดสวยที่สุดคือตึกกระจกสะท้อนมายังลานด้านล่างที่มีเด็กวัยรุ่นมาเล่นสเกตบอร์ด ภาพเก่าและใหม่ผสมผสานน่าประทับใจมาก ผมไปเดือน ก.ย. ฤดูร้อนบ้านเขาอุณหภูมิกำลังสบายเลยครับ 16-17 องศาเซลเซียส อากาศกำลังดี

มหาวิหารบนยอดเขาที่มีชื่อว่าโนเตรอะดาม เดอลาการ์ด (Notre-Dame de la garde) เป็นอีกจุดชมวิวพาโนรามาที่ต้องไปครับ ชมวิวเมืองสุดลูกหูลูกตา

 

การคมนาคมเมืองนี้เป็นศูนย์กลาง เปรียบเหมือนหัวลำโพงบ้านเรา จึงสะดวกสบายในการเดินทางต่อไปยังเมืองอื่นๆ ผมปักหลักที่นี่แล้วใช้การต่อรถไปเช้าเย็นกลับ ไปเที่ยวเมืองใกล้ๆ เมืองนี้ได้สบายที่สุดครับ เพราะตารางรถบ้านเขาเป๊ะมาก จากมาร์แซย์ ผมนั่งรถไฟเตเชเวความเร็วสูงชั่วโมงเดียวก็ถึงอีกเมืองสวยที่สุดของฝรั่งเศส เอ็ก-ซอง-โพรวองซ์ (Aix-en-Provence) คำว่า Aix เนี่ยแผลงมาจากคำว่า Aqua ในภาษาโรมันซึ่งแปลว่า น้ำ เดินเที่ยวชมน้ำพุที่สร้างตั้งแต่สมัยโรมันมีแทบทุกตรอกซอกซอย เดินชมคู่กับตึกเก่าสมัยเรอเนสซองซ์ ถ้ามาเที่ยวทางตอนใต้สิ่งที่ต้องดูคือสถาปัตยกรรม ดูวิถีชีวิตชาวบ้าน ชิมซีฟู้ดฟินที่สุดแล้วครับ”

อาวีญง นีมส์ กาวายง กอร์ด เมืองเก่ารายรอบเรา

เที่ยวไปถ่ายรูปและโพสต์ลงเฟซบุ๊กไปพลาง แฟนคลับพอรู้ว่าไปเที่ยวฝรั่งเศสก็ฝากซื้อชาแนล หลุยส์ ทันที สุทธิพงษ์ บอกพร้อมเสียงหัวเราะ ก็ถือว่าเพื่อนๆ พูดเล่นก็แล้วกัน เพราะจุดหมายไม่ใช่ปารีส และไม่ใช่การช็อปปิ้งแน่นอน แต่เป็นการเก็บภาพวิถีชีวิตคนในเมืองเล็กโดยแท้จริง

 

“ผมใช้เงินกับการกินมากที่สุด หาอาหารกินตามตลาดเช้า ตลาดนัดริมทาง เราก็หาของกินอร่อยๆ ได้สารพัด ผลไม้สดหน้าตาแปลกๆ หวานอร่อยแทบทุกอย่าง ไม่แพงด้วยนะครับ ผมซื้อใส่เป้ไว้กินแก้หิวระหว่างทางได้ดีที่สุด อีกอย่างคือขนมหวาน ผมชิมมาการองทุกเมืองรสชาติไม่ซ้ำกันเลย ทริปนี้ผมกินมาการองเยอะมาก แต่อร่อยที่สุดก็ยังอยู่ที่ปารีส มาการองร้านแมคโดนัลด์อร่อยที่สุด ไม่น่าเชื่อใช่ไหม? (หัวเราะ) กัดแล้วเนื้อหนึบ เหนียว แน่น ไม่หวานมาก แนะนำเลยครับ ชิ้นละ 1 ยูโรเท่านั้น

ปักหลักนอนที่เมืองมาร์แซย์ เดินทางแต่เช้ากลับค่ำ เดินทางโดยรถไฟเตเชเวใช้เวลาแค่อีกชั่วโมงเดียวก็เดินทางมาถึงเมืองอาวีญง เมืองยุคเก่ามีป้อมปราการยุคกลาง ถ้าใครชอบสถาปัตยกรรมแบบกอธิก มีโบสถ์ให้ชมยิ่งใหญ่มากถึง 4 โบสถ์ ที่นี่เป็นพระราชวังที่ประทับของพระสันตะปาปา พาเลซ เดส ปาเปซ (Palais des papes) สร้างตั้งแต่ใน ค.ศ. 1309 สถาปัตยกรรมยุคเก่าอีกแห่งเชื่อมต่อกับเขตพระราชวังคือ สะพานขาดแห่งอาวีญง หรือ ปงต์ ดาวีญง (Pont d’Avignon) เป็นสะพานสร้างไม่เสร็จปลายด้วนอยู่กลางแม่น้ำโรน ที่นี่เป็นเมืองในยุคโรมันเกรียงไกร นักเที่ยวก็เดินดูตึกรามบ้านช่องตามถนนหนทาง กว่าจะเดินถึงสะพานก็มีร้านของเก่าแบบตลาดนัดฟลีมาร์เก็ต คอยดักเงินเราสองข้างทาง (หัวเราะ) มีร้านอาหารดีไซน์แบบคาเฟ่เก๋ๆ ให้นั่งจิบกาแฟชมเมือง อาวีญงเป็นเมืองมหาวิทยาลัยด้วยครับ ก็จะมีเด็กวัยรุ่นเยอะ เดินเที่ยวกันไปเราก็ได้ชมแฟชั่นสวยๆ เก๋ๆ สไตล์ฝรั่งเศสให้ดูกันเพลิน

 

อีกสะพาน คือ ปงดูการ์ด (Pont du Gard) สร้างเป็นท่อส่งน้ำในยุคโรมัน ใช้ส่งน้ำเข้าไปใช้ในเมืองนีมส์ (Nimes) เป็นหนึ่งในมรดกโลกที่น่ามหัศจรรย์ นั่งรถไฟเตเชเวก็จะเห็นสะพานนี้ลิบๆ ผมมาครั้งนี้ตั้งใจมากินอาหารอร่อยๆ แปลกๆ ด้วย และที่เมืองกาวายง เมืองเล็กๆ มีเมลอนรสชาติดีที่สุด เปลือกสีเขียวเนื้อสีส้มหอมหวานมาก ถ้าช่วงต้นเดือน ก.ค.มีงานเทศกาลเมลอนด้วย 

จุดสุดท้ายที่ถือว่าถ้ามาเที่ยวภาคใต้ของฝรั่งเศส ถ้าไม่ได้มาหมู่บ้านกอร์ด ก็เหมือนมาไม่ถึงถิ่นเขานะครับ ทั้งหมู่บ้านสร้างด้วยหินโบราณวางซ้อนกันโดยไม่ได้ใช้วัสดุเชื่อม มีบ้านเล็กใหญ่ตั้งลดหลั่นกันไปทั้งภูเขา สร้างตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ราว 6,000 ปี ถ้าเดินเที่ยวเมืองเก่าแต่ละซอกซอยก็มีร้านค้ามาวางขายของที่ระลึกให้เลือกซื้อกันหนำใจ ที่นี่เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านเล็กๆ สวยที่สุดในฝรั่งเศส วิวหมู่บ้านหินสีน้ำตาลตัดไปกับสีท้องฟ้าสด ถ่ายรูปกลับมาได้นับพันรูป เมโมรีการ์ดเต็มอีกแล้วครับ” สุทธิพงษ์ บอกพร้อมรอยยิ้ม

 

ทำไมจึงชอบเที่ยววิถีชุมชน สุทธิพงษ์ บอกว่าเพราะนี่คือภาพแตกต่างบนความคุ้นเคย บ้านเกิดเขาก็มาจากชุมชนเล็กๆ ที่หนองคายเช่นกัน จึงเป็นความรู้สึกที่สัมผัสแล้วอบอุ่นใจที่สุด เวลา 14 วันกับการเดินทางท่องเที่ยวเมืองเล็กๆ เหล่านี้ก็ยังถือว่าเวลาน้อยไป การเดินทางจึงน่าจะเริ่มต้นมาซ้ำรอยทางเดิมกันอีกในเร็ววัน

แต่ละเมืองเดินทางโดยรถไฟไม่เกิน 1 ชม.ก็ถึงแล้วและตั๋วรถไฟที่นี่ไม่กำหนดเวลากลับ ถ้าจัดตารางรถไฟให้ดีจะสามารถเดินเที่ยวในเมืองต่างๆ ได้สบาย นั่งดื่มกาแฟแล้วกลับรถไฟเที่ยวสุดท้ายชิลๆ

พระราชวังที่ประทับของพระสันตะปาปา พาเลซเดส ปาเปซ (Palais des papes) เปิด 09.00 น.-1ทุ่ม ในฤดูร้อนปิดประมาณ 2-3 ทุ่ม เวลาปิดขึ้นอยู่กับฤดูกาลด้วย

เมืองนีมส์มีชื่อเสียงเรื่องน้ำมันมะกอก ลองไปเดินตลาดสดที่นี่อยู่ใจกลางเมือง สุทธิพงษ์แนะนำจานเด็ดปรุงด้วยมะกอกสารพัดเมนู ยิ่งถ้านำมาปรุงกับวัตถุดิบพื้นบ้าน เช่น ซีฟู้ดต่างๆ ปลา ปลาหมึก กุ้ง แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร หลายๆ จานก็ยังไม่คุ้นรสชาติแต่ก็ต้องลองชิมดู แล้วยังมีคอร์สเรียนทำอาหารเพียง 40 ยูโร/1 จาน โดยเชฟฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงลองเสิร์ชในอินเทอร์เน็ตแล้วไปเรียนกัน ซึ่งก็ได้แรงบันดาลใจว่าเมืองท่องเที่ยวในบ้านเราก็น่าสนับสนุนเชฟท้องถิ่นแบบนี้บ้าง

ทริปนี้ ในเวลาสองอาทิตย์ สุทธิพงษ์ใช้เงินราว8 หมื่นบาท กินอยู่พักโรงแรมสามดาวสบายๆ อย่าพลาด! ...ควรเดินตลาดสด จะได้กินอาหารคุณภาพเยี่ยมในราคามิตรภาพ ขนมหวานอร่อยทุกชนิด ทั้งพาย ทาร์ต ส่วนการสื่อสารนอกจากไกด์บุ๊ก การสื่อสารด้วยภาพเมือง ภาพอาหาร กับชาวบ้านที่พูดภาษาฝรั่งเศส ก็จะง่ายขึ้น