คนเราควบคุม ‘ความฝัน’ ตอนหลับได้ไหม?

20 ธันวาคม 2558

เป็นคำถามที่คนชอบถามหนูดีค่อนข้างบ่อยเลยทีเดียวกับเรื่องของความฝัน ทั้งเรื่องความฝันแบบนอนหลับ

โดย...หนูดี-วนิษา เรซ

เป็นคำถามที่คนชอบถามหนูดีค่อนข้างบ่อยเลยทีเดียวกับเรื่องของความฝัน ทั้งเรื่องความฝันแบบนอนหลับฝันไปหรือความฝันตอนที่เราตื่นๆ นี่ละที่เป็นเรื่องของการตั้งเป้าหมายและทำความฝันให้เป็นความจริง

เราเองก็พูดคุยกันเรื่องทำฝันให้เป็นจริงมาเยอะแล้วในคอลัมน์นี้ วันนี้มาพูดกันเรื่อง “ฝันแบบหลับตอนกลางคืน” ​กันดีกว่านะคะ เพื่อเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ

คนเราสามารถควบคุมความฝันแบบที่เป็นเป้าหมายได้ระดับหนึ่ง (แม้บางครั้งเราก็ควบคุมความฝันตอนตื่นไม่ค่อยได้เหมือนกัน เพราะตัวแปรสู่ความสำเร็จดังที่ตั้งใจไว้นั้นช่างมากมาย) แต่เจ้าความฝันตอนหลับนี่สิคะที่หลายๆ คนไม่ทราบด้วยว่าเราสามารถเรียนรู้ที่จะควบคุมเขาได้อย่างน่าทึ่งและน่าทดลองทีเดียว

ใครสนใจอยากลองฝึกดู เราฝึกกันเองได้ค่ะ สิ่งนี้เรียกว่า Lucid Dreams โดยตัวหนูดีเองเคยได้ยินและเรียนเรื่องการฝึกคอนโทรลความฝันมาบ้างสมัยอยู่บอสตัน แต่เราก็เรียนกันแค่ไม่กี่คลาส แถมยังเป็นเรื่องที่หนูดีไม่ค่อยเชื่อถือเสียด้วย แต่อาจารย์ก็สอนได้น่าสนใจ ทั้งยกตัวอย่างถึงหลายๆ สมาคมที่มีคนรวมตัวกันในอเมริกาเพื่อฝึกสอนตัวเองให้ควบคุมความฝันยามหลับได้ ทั้งนี้หนูดีเองไม่เห็นประโยชน์อะไรสักเท่าไหร่ ฟังไว้เพราะเป็นเรื่องที่ต้องเรียนและอ่านเปเปอร์เพิ่มเติมบ้าง แต่ก็จบเท่านั้น

แต่สิ่งที่น่าประหลาดก็เกิดขึ้นเมื่อเราฟังข้อมูลหนึ่งแม้ไม่ได้ฝึกปฏิบัติอย่างหนักหน่วงนั่นก็คือ จู่ๆ หนูดีก็เริ่มรู้ตัวในความฝัน และเริ่มบอกตัวเองได้ว่า “ฉันฝันอยู่นี่” และจากนั้นหากความฝันนั้นน่ากลัว เช่น โดนไล่ตามฆ่า โดนทำร้าย ตกจากที่สูง มีเลือดท่วมตัว (ซึ่งในบางช่วงจะฝันซ้ำๆ ติดกันหลายคืน) ซึ่งเมื่อก่อนจะหวาดผวา ตื่นมาตัวสั่นเหงื่อออก ก่อนจะค่อยๆ บอกตัวเองได้ว่า “อย่ากลัว เมื่อกี้ฝันไป” แต่ตอนนี้เหรอคะ สบายมาก พอเริ่มรู้ตัวว่ามีใครไล่ตามเราด้วยปืนอยู่และกำลังกลัวสุดขีด จากนั้นก็จะมีเสียงในหัวบอกว่า “เธอฝัน” จากนั้นฝันก็ดำเนินต่อไป แต่ความตกใจลดลงหลายเลเวลจนเหมือนเราดูหนังสามมิติที่มีเราร่วมแสดงด้วยเท่านั้น พอตื่นก็แค่เดินไปบอกแม่ว่า “เมื่อคืนหนูดีฝันร้าย” ก็เท่านั้น โลกแห่งความฝันที่เคยสยดสยองปีละเฉลี่ยสิบกว่าครั้งก็เริ่มน่ากลัวน้อยลง

จริงๆ แล้วการฝันนั้นมีประโยชน์นักหนาค่ะ โดยหลักแล้วฝันทำหลายหน้าที่ หนูดีขอเลือกมาส่วนหนึ่งนะคะ

ฝันช่วยจัดระเบียบความจำให้เรา สิ่งที่เราต้องเจอในชีวิตประจำวันเมื่อเราหลับสมองก็จะจัดระเบียบว่าอะไรบันทึก อะไรปล่อยผ่าน และเราจะฝันก็เมื่อมันเริ่มเข้าสู่กระบวนการบันทึกนี่ล่ะค่ะฝันร้ายช่วยเตรียมตัวเราให้เจอเรื่องที่เราต้องกลัว เหมือนการซักซ้อมใหญ่ไว้ก่อน เช่น พรุ่งนี้จะสอบ มะรืนต้องพรีเซนต์งาน อีกวันต้องออกเดินทางไกลไปรับตำแหน่งใหม่ ฯลฯ ​ฝันร้ายก็มีข้อดีนะคะ

สำหรับตัวหนูดีเองแล้วเรื่องราวของสมองไม่อยากให้เรามองว่า “ดีหรือไม่ดี” เช่น ฝันดีๆ คือเรื่องดี ฝันร้ายๆ คือเรื่องแย่ เพราะแท้จริงแล้วสมองของเราวิวัฒนาการมานับแสนปีก็เพื่อเก็บตัวเราให้อยู่รอดปลอดภัย ดังนั้นอะไรๆ ที่สมองทำมักมีเป้าหมายที่มีประโยชน์กับการอยู่รอดของเราเสมอ แม้บางเรื่องเราจะไม่เข้าใจสมองก็ตามที (เช่นเรื่อง อยากลืมกลับจำ อยากจำกลับลืม ...สมองชอบให้เราจำเรื่องแย่ๆ จะได้ไม่ทำซ้ำอีกนั่นเองค่ะ)

ส่วนการฝึกควบคุมความฝัน หรือ Lucid Dreams นั้นให้ประโยชน์คือ ช่วยให้เราสามารถเป็นคนช่างสังเกตและช่วยให้เราคิดและตัดสินใจเก่งขึ้นในยามตื่นอีกด้วย ดังนั้นมาดูวิธีฝึกกันดีกว่านักวิทยาศาสตร์ได้ทดลองและศึกษาพบว่า เราสามารถฝึกฝนตัวเองให้บังคับฝันได้ด้วยวิธีการที่เริ่มต้นไม่ยากจนเกินไป ลองดูนะคะ

พยายามจำรายละเอียดในฝันให้ได้มากที่สุด หากคุณจำฝันไม่เก่ง ขอให้มี “ไดอารี่ฝัน” วางไว้เบาๆ ข้างหัวนอน พอตื่นมาให้รีบจดฝันของเมื่อคืนไว้ จะได้เห็นแพตเทิร์นของสิ่งที่เราฝัน เมื่อพบสิ่งนั้นในฝันอีกครั้งจะได้รู้ว่าเราฝันอยู่

ก่อนเข้านอนให้เตือนตัวเองให้คอยเฝ้าสังเกตสิ่งที่บ่งชี้ว่าเราอยู่ในฝัน เช่น จู่ๆ ก็บินได้ก่อนนอนหลับไปให้บอกตัวเองว่าในความฝันที่จะเกิดต่อไปนี้ฉันจะรู้ตัว ให้เท่าทันให้ได้ว่าฉันฝันอยู่ (เชื่อไหมคะ แล้วมันจะเกิดขึ้นอย่างธรรมชาติมาก อย่าไปบังคับหรือกดดันตัวเอง ขอแค่เรารู้ตัวและมันจะ “ปิ๊ง” ขึ้นมาเองในฝัน)

สำหรับเหล่าฮาร์ดคอร์ สิ่งนี้เลยค่ะ ตั้งนาฬิกาปลุกหลังเที่ยงคืน บังคับตัวเองให้ตื่นแต่พอรู้ตัว ไม่ต้องลุกไปไหนก็ได้นะคะ แล้วหลับต่อ วิธีนี้เชื่อกันว่าจะทำให้เส้นแบ่งระหว่างการหลับและตื่นพร่าเลือน มันจะช่วยให้เราจำฝันได้ดีขึ้น

ทั้งนี้ ความฝันเป็นสิ่งสวยงามและมีคุณค่าเสมอ ไม่ว่าฝันนั้นคือฝันแบบเป้าหมายที่เราอยากทำให้เป็นจริงในสักวัน หรือฝันแบบหลับไปที่เราสามารถทดลองฝึกควบคุมฝันให้ได้ ประโยชน์ของการฝึกนี้มีผลดีต่อสมองเราในยามตื่น ใครอยากทดลองบอกได้เลยว่าสนุกมาก หนูดีเองก็ยังทดลองทำเล่นๆ อยู่ทุกๆ วัน

หากใครต้องการอ่านเพิ่มเติมประเด็นเรื่องความฝันยามหลับ สามารถหาอ่านเป็นภาษาไทยในนิตยสาร Science Illustrated ฉบับแปลไทย ซึ่งหนูดีเพิ่งเห็นและสอยมาอ่านเล่นบนแผงวันนี้ ใครชอบวิทย์แต่เพลียกับภาษาอังกฤษหนูดีขอแชร์ว่าเขาแปลดีเชียวค่ะ แนะนำให้ลองหยิบดู ส่วนท่านที่ถามว่าหนูดีมีผลงานออกใหม่ปลายปีนี้ไหม มีแล้วหนึ่งเล่มใหญ่เป็น Organizer ขนาด A3 ชื่อ “ชีวิตที่ใช่สร้างได้ในหนึ่งปี Brilliant Year : Awesome Life” วางแผงแล้วในร้านหนังสือทั่วประเทศค่ะ หรือเข้าไปดูคลิปใน YouTube ได้นะคะในชื่อเดียวกัน ได้เวลาวางแผนความฝันและเป้าหมายแล้วในปีหน้า จะได้ฝันดีทั้งยามหลับและยามตื่นค่ะ

Thailand Web Stat