มหกรรมกีฬาปี 2016 บอลยูโร...เข้ม–โอลิมปิก เข้มข้น

02 มกราคม 2559

ณ ตอนนี้ หลังการเฉลิมฉลองเคาต์ดาวน์เมื่อคืนวันที่ 31 ธ.ค. 2015 สิ้นสุดลงก็ก้าวเข้าสู่ปีใหม่อีกครั้ง

ณ ตอนนี้ หลังการเฉลิมฉลองเคาต์ดาวน์เมื่อคืนวันที่ 31 ธ.ค. 2015 สิ้นสุดลงก็ก้าวเข้าสู่ปีใหม่อีกครั้ง ซึ่งไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นไม่ว่าใครจะสมหวัง ผิดหวัง ใครจะสุขจะทุกข์ โลกยังคงหมุนต่อไป

แน่นอน วงการกีฬาก็เช่นกัน ในปีใหม่ 2016 จะมีอีเวนต์กีฬาที่น่าสนใจมากมาย แต่ที่ถือเป็นไฮไลต์ประจำปี ซึ่งทุกคนทั่วโลกเฝ้าจับตามองและติดตามมากที่สุด เพราะต้องรอถึง 4 ปี ถึงจะจัดมหกรรมกีฬานี้
นั่นคือ ศึกฟุตบอล ยูโร 2016 ที่ฝรั่งเศส (10 มิ.ย.-10 ก.ค.) และโอลิมปิก 2016 หรือรีโอเกมส์ ที่รีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล (5-21 ส.ค.)

ฟุตบอล ยูโร เมืองน้ำหอม

ยูโร 2016 หรือฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 15 ที่จะแข่งขันกัน ณ ดินแดนเมืองน้ำหอม ช่วงกลางปีนี้ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ศึกบอลยูโรที่เพิ่มทีมเข้ารอบสุดท้ายจากเดิม 16 ทีม เป็น 24 ทีม จาก 53 ชาติสมาชิกของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ทำให้มีทีมชาติหน้าใหม่สามารถผ่านเข้ามาชิงชัยที่ฝรั่งเศสได้ถึง 5 ทีม คือ เวลส์ ไอร์แลนด์เหนือ ไอซ์แลนด์ แอลเบเนีย สโลวาเกีย

การเพิ่มทีมเข้าร่วมโม่แข้งกันในรอบสุดท้ายนี้ แน่นอนว่าทางยูฟ่าก็ต้องเตรียมเงินรางวัลไว้มากขึ้น โดยมีเงินรางวัลรวมถึง 301 ล้านยูโร (ราว 12,040 ล้านบาท) จากเดิม 196 ล้านยูโร (ราว 7,840 ล้านบาท)โดยแชมป์จะได้รับ 8 ล้านยูโร (ราว 320 ล้านบาท) ส่วนรองแชมป์ได้ 5 ล้านยูโร (ราว 200 ล้านบาท)

เอาเป็นว่าหากทีมแชมป์ชนะมาทุกนัดตั้งแต่รอบแรก จะกวาดเงินรางวัลไปถึง  27 ล้านยูโร (ราว 1,080 ล้านบาท) เลยทีเดียว เนื่องจากมีโบนัสให้ตั้งแต่รอบแรกด้วย(ชนะได้ 1 ล้านยูโร เสมอได้ 5 แสนยูโร) ส่วนรอบ 2 (16 ทีม) ถึงรอบรองชนะเลิศจะมีเงินรางวัลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่มีโบนัส เพราะเล่นแบบน็อกเอาต์

ทั้งนี้ อยากให้จับตามอง 5 ทีม เริ่มจาก “แชมป์เก่า” สเปน กับ เยอรมนี ซึ่งต่างมีดีกรีแชมป์ 3 สมัยเท่ากัน โดย “กระทิงดุ” สเปน หวังล้างอายที่เสียฟอร์มร่วงแค่รอบแรก“เวิลด์คัพ 2014” ที่บราซิล ทั้งที่ไปป้องกันแชมป์ และหากทำได้จะเป็นชาติแรกที่ชูถ้วย3 สมัยติด และทีมแรกที่ครองแชมป์สมัยที่ 4(ต่อจากปี 1964 2008 2012) ส่วน “อินทรีเหล็ก”เยอรมนี นั้น ด้วยมาตรฐานแกร่งทั่วแผ่น ทำให้เป็นหนึ่งในตัวเต็งทุกครั้งสำหรับรายการใหญ่ๆ แบบนี้ จึงมีลุ้นแย่งแชมป์ 4 สมัยด้วย (ต่อจากปี 1972 1980 1996 โดย 2 ครั้งแรกยังเป็นเยอรมนีตะวันตก)

ขณะที่อีก 3 ทีม คือ “สิงโตคำราม” อังกฤษ ที่คราวนี้ทำผลงานรอบคัดเลือกได้สุดยอดเหลือเกิน เป็นทีมเดียวที่ชนะ100% คว้าชัยรวดทั้ง 10 นัด แต่ยังไม่เคยเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศศึกยูโรได้เลยแม้แต่ครั้งเดียวโดยผลงานดีสุด อันดับ 3(ปี 1968)

ตามด้วย “ปีศาจแดง” เบลเยียม ที่ตอนนี้ผงาดรั้งทีมอันดับ 1 ของโลก ทั้งที่ยังไม่เคยเป็นแชมป์โลก ดังนั้นไม่จับตามองไม่ได้แน่ส่วนผลงานดีสุดในศึกยูโร รองแชมป์ (ปี 1980)และ “ตราไก่” ฝรั่งเศส ดีกรีแชมป์ 2 สมัย (ปี 1984 2000) ซึ่งการได้ลงเล่นในบ้านของทีมเมืองน้ำหอม ย่อมมีความได้เปรียบไม่น้อยเลยทีเดียว

นอกจากนี้ ฝรั่งเศสยังถูกจับตาอย่างมากถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย หลังเพิ่งเกิดเหตุก่อการร้ายที่กรุงปารีส  (13 พ.ย. 2015) โดยมีผู้เสียชีวิตกว่า 100 ราย บาดเจ็บอีกเกือบ 400 ราย และที่สำคัญคือ เกิดเหตุระเบิดที่หน้าสนามสตาด เดอ ฟรองซ์ ที่จะใช้เป็นสังเวียนเปิดสนามศึกยูโร 2016 ระหว่าง ฝรั่งเศส-โรมาเนีย วันที่ 10 มิ.ย.นี้ด้วย 

โอลิมปิก บราซิล

แม้ศึกบอลยูโร นักกีฬาไทยเป็นได้แค่ผู้ติดตามชมเท่านั้น แต่มหกรรมกีฬายิ่งใหญ่ที่สุดแห่งมวลมนุษยชาติอย่างโอลิมปิกทัพนักกีฬาไทยไปเข้าร่วมมาตลอด

สำหรับโอลิมปิกที่รีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล ในปีนี้นับเป็นครั้งที่ 31 โดยมีนักกีฬาจาก 204 ชาติ เข้าร่วมชิงชัย 306 เหรียญทองจาก 28 ชนิดกีฬา โดยนักกีฬาไทยได้โควตาบุกแดนแซมบ้าแน่นอนแล้ว 12 คน ได้แก่ สุธิยา จิวเฉลิมมิตร (ยิงเป้าบิน ประเภทสกีต หญิง) ธันยพร พฤกษากร (ปืนสั้น 25 เมตร หญิง) พิมพ์อร คล้ายสุบรรณ (ปืนสั้นอัดลม 10 เมตร หญิง) วุฒิชัย มาสุข (มวยสากลสมัครเล่น รุ่นไลต์เวลเตอร์เวต) ยกน้ำหนักได้8 คน (ชาย 4 หญิง 4) ซึ่งต้องคัดเอาคนพร้อมที่สุด และยังมีรอลุ้นตั๋วเพิ่มอีกจากมวยสากลสมัครเล่น เทควันโด แบดมินตัน จักรยาน เทนนิส กรีฑา มวยปล้ำ วินด์เซิร์ฟ เรือใบ เทเบิลเทนนิส ว่ายน้ำ ยูโด ฟันดาบ เรือพาย ยิงธนู วอลเลย์บอล ฟุตบอล กอล์ฟ

ทั้งนี้ รีโอเกมส์ ขอยกไฮไลต์ไปอยู่ที่กอล์ฟ เพราะเป็นกีฬาที่ห่างหายไปจากโอลิมปิกถึง 112 ปีเลยทีเดียว (เคยจัด 2 หนปี 1900 1904) ก่อนจะได้กลับมาบรรจุเข้าแข่งอีกครั้งปีนี้ ทำให้โปรดังระดับโลกต่างจ้องเหรียญกันตาเป็นมัน นำโดย จอร์แดน สปีธ (มือ 1 โลก/สหรัฐ) เจสัน เดย์(2/ออสเตรเลีย) รอรี แม็คอิลรอย (3/ไอร์แลนด์เหนือ) เนื่องจากครั้งหน้าก็ยังไม่รู้ว่าจะมีให้ดวลวงสวิงอีกหรือไม่

ที่สำคัญ ไทยเราน่าจะมีสิทธิได้โควตาชาย 2 คน “โปรช้าง” ธงชัย ใจดี (28) “โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์ (38) และหญิง 2 คน “โปรแหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ (43) “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล (63) แถมแต่ละคนกำลังฟอร์มดีมีลุ้นเหรียญกลับบ้านในฐานะฮีโร่โอลิมปิกเช่นกัน

Thailand Web Stat