‘หนุ่มตี๋ตาตี่’ ใครหล่อล้ำครองใจปี 2016

โดย...ปอย ภาพ : เสกสรร โรจนเมธากุล (พชร) / วิศิษฐ์ แถมเงิน (ไอซ์ ณัฐรัตน์)

ปีนี้ 2016 หนุ่มหน้าตี๋ ใครจะมาบ้าง? แต่ละค่ายละครส่งรายชื่อมาดังนี้… ที่สำคัญขอบอกว่าพวกเขาไม่ได้มีดีแค่ตี๋ๆ ใสๆ แต่ความคิดทุกคนมาแบบเข้มๆ เร้าใจยิ่งกว่าหน้าตา

มากกว่า...คำว่า ตี๋หล่อ!

กลายเป็นอีกหนึ่งความทรงจำของหญิงสาวไปแล้ว กับซีรี่ส์ดัง “ฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น” ยิ่งถ้าใครชอบหนุ่มโจ๋ๆ เลือดร้อน ก็เป็นต้องกรี๊ดกร๊าดกับ “ไผ่” หนุ่มน้อยแบดบอยวัยมัธยมสวมบทบาทโดย “ต่อ” ธนภพ ลีรัตนขจร ซึ่งปีที่แล้วทางค่ายก็ได้ป้อนงานให้ทั้งหนัง ละคร ไปจนให้โอกาสขึ้นเวทีคอนเสิร์ตอย่างต่อเนื่อง

ปีนี้งานก็ยังรุม ต่อ ธนภพ หนุ่มตี๋คนแรกบอกน้ำเสียงสดใสว่า มีทั้งงานละครแนวโรแมนติกคอมเมดี้ รับรองปัง! พระนางประกบกันถึงสองคู่ ณเดชน์ คูกิมิยะ เล่นคู่กับ ญาญ่า อุรัสยา ส่วนต่อคู่กับ ไอซ์ ปรีชญา ละครเรื่องนี้มีผู้ใหญ่ที่ชื่อ ธิติมา สังขพิทักษ์ ให้โอกาสเล่นละครทางช่อง 3 เร็วๆ นี้

ซีรี่ส์เรื่องใหม่ I See You ของค่ายใหม่เอี่ยม GDH 559 ชื่อล่าสุดอย่างเป็นทางการของค่ายจีทีเอช แล้วยังมีผู้ใหญ่อีกคนให้โอกาส “พี่ฉอด สายทิพย์” กำลังปั้นโปรเจกต์ซีรี่ส์ใหม่ O-Negative ธนภพจะได้กลับมาเจอกับคู่ขวัญ เก้า สุภัสสรา อีกครั้ง 

ต่อ - ธนภพ ลีรัตนขจร

“ช่วงต้นปีก็มี 3 งานแล้วครับ ก็ต้องจัดตารางงานให้ดีๆ ปีนี้ต่างจากปีที่แล้วที่ผมรู้ตารางแล้วว่ามีงานตลอดทั้ง 12 เดือนแน่นอน พอรู้ว่างานหลักๆ ทั้งปีจะต้องทำอะไรบ้าง ชอบนะ (ยิ้ม) ดีตรงนี้ที่ทำงานได้โดยไม่เบียดการเรียน (กำลังเรียนปีที่ 4 คณะอุตสาหกรรมเกษตร ภาควิชาเทคโนโลยีการบรรจุและวัสดุ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) ละครช่อง 3 ผมได้บทตำรวจรุ่นน้องณเดชน์ ดีใจครับ ได้เล่นเป็นตำรวจอาชีพที่ผมใฝ่ฝันเมื่อวัยเด็ก” พระเอกหนุ่มตี๋ ธนภพ บอกย้ำในวันนี้ว่า “ชื่อเสียงเป็นสิ่งไม่แน่นอนเลยครับ...” คือประโยคที่เขาใช้ท่องไว้เตือนใจในวันที่ใครๆ ก็รัก

“ดี ชอบ รัก มาได้ก็ไปได้ ผมบอกตัวเองเสมอครับว่าวันแรกที่ผมเข้ามาทำงานตรงนี้ ไม่มีใครรู้จักเราเลย เริ่มเล่นละครบทไผ่ ก็ไม่เคยคิดว่าจะมีชื่อเสียง เรื่องนี้เป็นสิ่งที่คาดการณ์ไม่ได้หรอกนะครับ มันผันผวนไปกับ 3 ปัจจัย คือ จังหวะในผลงานของเรา กระแสข่าวที่เข้ามา ข่าวดี-ไม่ดี เดาไม่ได้เลย สุดท้ายคือคนดูครับที่เป็นสิ่งชี้วัดว่าเขาจะชอบ-ไม่ชอบ หน้าที่ของนักแสดงก็แค่ทำงานให้ดีที่สุดแค่นี้จริงๆ ผมเต็มที่ทุกๆ งาน

“แต่ถ้าให้เลือกงานที่พอใจที่สุด ผมยกให้หนังเรื่อง เมย์ไหน...ไฟแรงเฟร่อ ผมชอบหนังที่ทะลุกำแพงคนดูได้จากที่ตอนแรกๆ ก็มีคำวิจารณ์ว่าไม่รู้ว่าหนังสื่ออะไร แต่ที่สุดถ้าใครได้ดู ก็บอกว่าสนุกกันทุกคน อีกงานคือการเรียนรู้จากคอนเสิร์ตที่ผมได้ขึ้นถึง 2 เวที คือ คอนเสิร์ต GTH Star Theque และคอนเสิร์ตหล่อมากๆ หลายซีนบนเวทีผมได้เรียนรู้กับการทำงานใหม่ๆ มันยากมากเลยครับ กับการยืนอยู่บนเวทีคนเดียวแล้วต้องเอาคนดูให้อยู่ ก่อนขึ้นผมก็สั่น...ไหวไหมวะเนี่ย? (หัวเราะ) มันคืองานที่เราต้องใช้ความเป็นตัวของตัวเองได้ชัดเจนที่สุด ทั้งโชว์ศักยภาพมากที่สุด ซึ่งมีโจทย์คือต้องหามิติใหม่ๆ ในการแสดงออกมา ดึงมู้ดต่างๆ ให้คนเห็นได้มากที่สุด การตีโจทย์นี้จึงทำให้เราได้พูดคุยกับผู้กำกับเวทีได้เข้าใกล้โปรดักชั่นไปอีกก้าวหนึ่งด้วยครับ” ธนภพ บอกชัดเจน

จากเด็กบุคลิกสบายๆ ไม่ชอบเรื่องเครียดๆ แต่ความจริงจังกับสิ่งที่ตั้งใจทำส่งให้เขากลายเป็นพระเอกตี๋ดูมาดมั่น

“ผมขี้อาย แต่ก่อนไม่ชอบอยู่กับคนแปลกหน้าเลยนะครับ เกร็งๆ พอทำงานแสดงทำให้กล้าแสดงออก รู้จักการสร้างมู้ดดีๆ ทำงานเสร็จกลับบ้าน ยิ้มกับตัวเองได้เต็มที่ งานบันเทิงเปลี่ยนแปลงผมไปโดยสิ้นเชิง” ธนภพ บอกตบท้ายหล่อในแบบมีความคิด

“อาโป” ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์

“อาโป” ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์ ดาราหน้าตี๋นักแสดงหน้าใหม่วิกช่อง 3 ประเดิมผลงานละครฟอร์มยักษ์เรื่องแรก เลือดมังกร ก็เปรี้ยงเข้าตาผู้หลักผู้ใหญ่ป้อนละคร สุดแค้นแสนรัก ให้ในบท “ธนา” พระเอกรุ่นลูก และต่อเนื่องทันทีในปีนี้ ละครพีเรียด ชาติพยัคฆ์ ในบท “อาเหวิน” โล้สำเภามาจากเมืองจีนคอนเฟิร์มความตี๋ร้อยเปอร์เซ็นต์

“ละครออนแอร์ปลายเดือน ก.พ.นี้ครับ หลังจากละครเรื่องนี้ผมก็ได้เล่นอีกเรื่อง เป็นคนจีนโพ้นทะเลอีกแล้ว (หัวเราะ) เรื่อง ไข่มุกมังกร เป็นละครเทิดพระเกียรติ เดือน ส.ค. 2559

“หลักในการทำงานของผม ก็คือทำให้งานเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต แล้วความโชคดีคือผมได้ทำงานกับผู้ใหญ่มีฝีมือในวงการ ทั้ง พี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ (วชิรบรรจง) พี่นก ฉัตรชัย (เปล่งพานิช) ซึ่งมีวิธีสอนนักแสดงใหม่ที่พออ่านบทก็ใส่ซะเลย 150% (หัวเราะ) พี่นกก็สอนให้ค่อยๆ ปรับลงมา แต่ก็บอกนะครับว่ามีมาก เล่นเกิน ก็ดีกว่าไม่มีอะไรออกมาเลย ผมมาจากเวทีนายแบบสำหรับการเริ่มงานนี้จึงต้องถ่อมตัวครับ ใช้ธรรมะกล่อมเกลาตัวเองตั้งใจทำงานให้เต็มที่ บวกกับความสดใสทุกอย่างแสดงออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ” ณัฐวิญญ์ บอกน้ำเสียงแจ่มใสฉะฉาน

ใครได้รู้จักเขาก็จะรักในความยิ้มเก่ง พูดเก่ง ของหนุ่มตาเม็ดกวยจี๊คนนี้ อาโป ณัฐวิญญ์ บอกย้ำว่านั่นเป็นธรรมชาติของเขาแท้จริง

“ผมยึดหลักธรรมะคือธรรมชาติ จะพูดจาอะไรกับใคร ก็รู้ตัวว่าเราพูดอะไรออกไป ซึ่งนำไปใช้ในการสวมบทบาทได้ด้วยนะครับ จะเดิน ก็รู้ตัวทุกย่างก้าว เวลาว่างๆ ผมชอบอ่านหนังสือธรรมะ ชอบจริงๆ ครับ (หัวเราะ) ทำงานเสร็จเหนื่อยๆ ก่อนนอนผมก็ต้องให้เวลาอ่านหนังสือ ‘คู่มือมนุษย์’ ของท่านพุทธทาส โดยเฉพาะหลังจากเราปฏิบัติธรรมแล้วอ่านหนังสือพวกนี้ เราจะเข้าใจและยิ่งสนุกขึ้นด้วย เช่น เราจะรู้ว่าคำว่า อานาปานสติ คือ สติที่ระลึกรู้เป็นไปในลมหายใจทำให้การใช้ชีวิตที่มีสติทุกๆ ครั้งที่เรานึกได้จะง่ายขึ้นมากๆ ครับ” ณัฐวิญญ์ บอกและย้ำว่าใครสนใจคุยเรื่องพวกนี้กับเขา รับรองยาว

“อีกเรื่องสำคัญในงานแสดง พี่นกสอนว่าเราไม่ได้เกิดเป็นพระเอก แต่เราเกิดมาเป็นนักแสดง ถ้าคิดแบบนี้นะครับจะแสดงได้ทุกๆ บท และจะรู้สึกดีทุกครั้งแม้อนาคตเราจะไม่ได้เป็นพระเอก ผมก็ยังภูมิใจกับงานตัวเอง” ณัฐวิญญ์ บอกย้ำได้หล่อที่สุด

“ไอซ์” ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์

ถอดรหัสหนุ่มตี๋ลุคอินเตอร์ฯ

โกอินเตอร์ฯ ไกลไปถึงเเดนกิมจิ “ไอซ์” ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ หนุ่มไทยวัย 24 ปี นายเเบบไทยเพียงคนเดียวในสังกัดค่าย Garten ของเกาหลี เอเยนซีที่มีนายแบบในสังกัดเพียง 15 คน จากเส้นทางนายแบบตอนนี้ ณัฐรัตน์ กลับมาทำงานไทย และค่าย GDH 559 ก็ป้อนซีรี่ส์เรื่องแก๊สโซฮัก รักเต็มถัง ทางช่องไลน์ทีวี 13 ก.พ.นี้ ถือเป็นงานที่ก้าวเป็นนักแสดงเต็มตัว

หนุ่มตาตี่ตี๋ร้อยเปอร์เซ็นต์ เล่าพื้นฐานครอบครัวขายเสื้อผ้าย่านโบ๊เบ๊ ด้วยผิวใสๆ หน้าขาวๆ พกความสูงถึง 183 ซม. จึงมีโอกาสได้ขึ้นรันเวย์เดินแบบ และเป็นงานที่ปะป๊ามาม้าปลาบปลื้มในตัวลูกชายคนเดียวมากที่สุด

“ผมได้เดินโซล แฟชั่น วีก สปริง/ซัมเมอร์ 2015 โดยการส่งพอร์ตโฟลิโอไปที่เอเยนซี รอบแรกเขาจะคัด 100 คน เพื่อไปฝึกเดินแบบถ่ายแบบ และคัดเข้าเอเยนซี่ 15 คนเท่านั้น ผมก็ถามบอสว่าทำไมรับผม?
คำตอบก็คือคุณมีบางสิ่งที่แตกต่างจากโมเดลเกาหลี บุคลิกครับไม่ใช่หน้าตา (ยิ้ม) เพราะหน้าตาผมก็ไม่แตกต่างจากเพื่อนๆ นายแบบเกาหลี ตาตี่ๆ ผิวใสๆ ก็ดูคล้ายกันนะครับ (ว่าแล้วก็ยิ้มอีกรอบ) บุคลิกอ่อนน้อมแบบคนไทยนี่แหละครับน่าจะเข้าตา การแข่งขันกดดันมากครับ แต่ผมกลับชอบมากเพราะทำให้ผมพัฒนาตัวเองตลอดเวลา เกาหลีชาตินิยมครับ ขึ้นรันเวย์มีนายแบบฝรั่งแค่คนเดียว นอกนั้นสไตล์เอเชียทั้งหมด

“ผมได้เล่นเอ็มวี เพลง White Shoulder ของศิลปินวง Monni พอดูตัวเองในหน้ารู้สึกว่างานนี้น่าสนใจ เราเป็นฝ่ายเล่าเรื่อง เพลงนี้ต้องร้องไห้ ยังใช้น้ำตาเทียมหยอดอยู่เลย (หัวเราะ) พอมาเรียนการแสดงกับครูเงาะ รสสุคนธ์ ยิ่งเปิดโลกใหม่...การแสดงคือการอยู่กับปัจจุบัน รู้สึกกับสิ่งต่างๆ ฟังคนอื่น มองเห็นสิ่งรอบตัวเราอย่างจริงจัง ผมว่าการได้อยู่โมเมนต์นี้ทำให้ชีวิตเราพัฒนาได้ เพราะเราได้เห็นอะไรๆ รู้จักการใช้ชีวิตของเราและคนรอบข้างมากขึ้น ครูเงาะบอกการแสดงคือทำให้จริงที่สุด ไม่แอ็กติ้ง ตอนนี้ก็ร้องไห้ง่ายขึ้นแล้วนะครับ” ณัฐรัตน์ บอกพร้อมเสียงหัวเราะร่วน

ตบท้ายหนุ่มตี๋หน้าฝรั่ง หลังเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงสังกัดช่อง 3 เป็นเวลา 5 ปี ผู้ใหญ่ป้อนงานละครให้ทันที เร็วๆ นี้ “พีช” พชร จิราธิวัฒน์ จะมีผลงานละครแนวโรแมนติก-ดราม่า เรื่อง แรงตะวัน พชร เล่นคู่กับสาวหมวย ออม สุชาร์

พชร จิราธิวัฒน์

แน่นอนว่าวงการบันเทิงไม่ใช่เส้นทางหลักของทายาทตระกูลเจ้าสัวร่ำรวยอันดับต้นๆ ของเมืองไทย หลานปู่ของ สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ เพิ่งสำเร็จการศึกษาจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รับปริญญาไปเมื่อเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว และในวัย 23 ปี พชร ก็บอกว่ามีเรื่องอยากทำงานในวงการบันเทิงอีกเยอะ ทั้งการแสดงหนัง ละคร และงานเพลง วง White Rose แนวอิเล็กทรอนิกส์ร็อก ก็นับว่าได้ทำครบเกือบทุกอย่างในวงการบันเทิง

“ตกใจนะครับ ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นตัวเองบนจอหนัง นอกจากความรู้สึกประหลาดตัวเองดี (หัวเราะ) ก็รู้สึกตกใจครับ เพราะเคยคิดแต่ว่าเราคงเป็นฝ่ายที่ต้องซื้อตั๋วหนังไปดูเท่านั้น พอเห็น โหว...เจ๋งอ่ะ! แล้วสิ่งนี้ก็ Motivate เป็นแรงกระตุ้น ให้แรงบันดาลใจ จูงใจให้เราทำในสิ่งใหม่ๆ ในทุกๆ วัน ทุกครั้งที่ผมรับโอกาสงานใหม่ๆ ปล่อยผ่านไม่ได้ เพราะในวันที่เราไม่ได้ทำงานตรงนี้ คนก็ยังดาวน์โหลดหนัง ละคร มาดูกันได้ ถ้าทำไม่ดีคนก็ด่าตามได้

“ผมว่าตัวเองเป็นคนบ้า (บอกยิ้มๆ) ชอบทำในสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ ไม่ชอบทำอะไรๆ ที่เป็นแพตเทิร์น น่าเบื่อครับ อย่างละครเรื่องล่าสุดผมต้องเล่นบทโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น บทขรึมๆ ผมใส่ความกวนประสาทๆ ไปเลย เรื่องนี้ผมไม่ถูกกับพี่อั้ม อธิชาติ (ชุมนานนท์) ผมว่าไม่เวิร์กนะครับถ้ามาจ้องกันตาแข็ง ไม่เชื่อนะครับว่าจะมีในชีวิตจริงๆ ใส่ความน่าจะเป็นกวนๆ เกรียนไปเลยดีกว่า

“ผมชอบดูผลงานคนอื่น ศึกษาดูว่าเวลาโกรธเขาทำหน้าอย่างไร แล้วทำไมเรื่องนี้กับเรื่องที่แล้วเขาทำหน้าโกรธได้แค่หน้าเดียว ความไม่มีแพตเทิร์น ผมไม่กลัว มั่วๆ ซั่วๆ กล้าลุยทำไปเลยอย่างเรื่อง Top Secret วัยรุ่นพันล้านก็ลุยเลยตีโจทย์หลังอ่านบท ผมซีเรียสกับการอ่านบทนะครับ เห็นอะไรจากมันแล้วผสมในความเป็นตัวของตัวเองเข้าไป อ่านบทแล้วต้องเชื่อว่าบทนี้คือตัวเรา เป็นใครแสดงไม่ได้ ผมชอบการแสดงที่เรียกว่า Method Acting อย่างเรื่อง The Pianist เอเดรียน โบรดี้ เป็นนักเปียโนทั้งที่เขาเล่นไม่ได้เลย แต่ด้วยศาสตร์นี้เขาเริ่มเชื่อว่าเขาคือนักเปียโนที่เก่งมาก แล้วที่สุดก็ฝึกจนไม่ใช้สแตนด์อิน และได้ออสการ์จากบทนี้ ผมชอบศึกษาการแสดงในศาสตร์นี้นำมาพัฒนาตัวเอง” พชร หนุ่มตี๋จมูกโด่งหน้าฝรั่ง บอกจริงจัง

งานบันเทิงคงทำไปเรื่อยๆ และไม่อยากนับเวลาว่าจะทำงานอยู่ตรงนี้อีกกี่ปี เมื่อถึงเวลา พชร บอกว่าเราก็จะรู้ตัวเองได้ว่าต้องเปลี่ยนงานไปทำอะไรอื่นๆ และนักธุรกิจก็อยู่ในลิสต์ ก็น่าจะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอาหารฟาสต์ฟู้ด เพราะชอบกิน การทำอะไรที่มีความสุขเราก็ควรเลือกทำสิ่งนั้น

“ตอนเด็กผมอ้วนมาก กินเก่งมาก คุณแม่ไม่ให้กินจังก์ฟู้ด ก็แอบกิน จนมีพุงสามชั้นแบบมิชิลิน เป็นเด็กผู้ชายที่มีนมนำพุง” พชร บอกพร้อมหัวเราะหึหึ สไตล์เกรียนที่คุณแม่ส้ม ชนัดดา ที่มาด้วยวันนี้ให้นิยาม