อุณหภูมิ 40 องศา ‘...ร้อนจนเพ้อ’

13 เมษายน 2559

โดย...ราตรีแต่ง

โดย...ราตรีแต่ง

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ลักษณะอากาศเดือน เม.ย. หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้เราต้องเผชิญกับอากาศร้อนถึงร้อนจัดอุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส ปีนี้อากาศร้อนจัดกว่าทุกปี ฟังแล้วช็อก!

อากาศร้อนกลายเป็นอันตรายใกล้ตัว ใครที่ต้องออกไปอยู่กลางแดดจ้าช่วงหน้าร้อนอาจช็อกยิ่งกว่า!!! เพราะเสี่ยงกับ “โรคฮีตสโตรก-Heat Stroke” หรือโรคลมแดด ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจะอันตรายมากอัตราการเสียชีวิตสูง  

- สัญญาณสำคัญของโรคฮีตสโตรก เริ่มที่ตัวแดง ตัวร้อนจัดขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกกระหายน้ำมาก ปวดศีรษะเนื่องจากร่างกายขาดน้ำและไข้ขึ้นเร็ว หายใจเร็วใจสั่น คลื่นไส้อาเจียน เป็นผลมาจากไข้ขึ้น มีอาการงง พูดช้าลง เลอะเลือน เพ้อ การเคลื่อนไหวช้าลงจนอาจหมดสติ โซเซ ระดับความรู้สึกตัวลดลง หรืออาจกระสับกระส่าย เอะอะ ก้าวร้าว หมดสติ เกร็ง หรือชักก็ได้ อาการนี้แตกต่างจากการเพลียจากแดดทั่วๆ ไป ที่มีเหงื่อออกด้วย แต่โรคฮีตสโตรกไม่มีเหงื่อออก แต่ผิวหนังแห้ง ตัวแดง และร้อนจัด หากเกิดอาการดังกล่าวจะต้องหยุดพักการเผชิญแสงแดดควรรีบหลบเข้าไปอยู่ในที่ร่มทันที

- อาการในช่วงนี้จะคืบหน้าไปสู่อาการแบบรุนแรงอย่างรวดเร็ว  เนื่องจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ชีพจรเต้นเร็วเนื่องจากร่างกายขาดน้ำ ความดันโลหิตสูง ความดันเลือดลดลง ช็อก มีโอกาสเสียชีวิตได้ ถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องให้การรักษาอย่างรีบด่วน

- ร่างกายเราจะทนกับอุณหภูมิสูงได้แค่ไหน...? ร่างกายเราสามารถทนกับอุณหภูมิที่ 42 องศา ได้ 45 นาที-8 ชั่วโมง คนป่วยโรคนี้เคยมีอุณหภูมิกายสูงกว่า 41.1 องศาเซลเซียส ต้องลดอุณหภูมิกายลงโดยค่อยๆ ลดลงมาที่ 39 องศาเซลเซียสก่อน วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นนำผู้มีอาการเข้าร่ม นอนราบ ยกเท้าสูงทั้งสองข้าง ถอดเสื้อผ้าออก เปิดแอร์คอนดิชั่นเนอร์ หรือเป่าพัดลมระบายความร้อน ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบตั้งแต่ศีรษะ ตามซอกลำตัว ลำคอ รักแร้ เชิงกราน ศีรษะ เทน้ำเย็นราดลงบนตัวเพื่อลดอุณหภูมิร่างกายให้ลดต่ำลงโดยเร็วที่สุด แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาล

- วิธีดีที่สุดคือ การป้องกันตัวการภัยแสงแดด ตัวเองก็ควรสวมเสื้อแขนยาว ใส่หมวก ใส่แว่นตากันแสงแดด และควรทาครีมกันแดดด้วย เพราะนอกจากแสงแดดจะเป็นสาเหตุของโรคลมแดดแล้ว ยังเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งผิวหนังอีกด้วย

- อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นทุกๆ ปี คนไทยเราจะต้องศึกษาหาข้อมูลเพื่อรับมือท่ามกลางแสงแดดแรงจ้ากันแล้ว ในวันที่อากาศร้อนจัดถ้าหลีกเลี่ยงการเผชิญแดดไม่ได้ ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีอ่อน ไม่หนา น้ำหนักเบา และสามารถระบายความร้อนได้ดี ควรดื่มน้ำ 1-2 แก้ว ก่อนออกจากบ้าน เมื่ออยู่กลางสภาพอากาศร้อนๆ ก็ควรดื่มน้ำให้ได้ชั่วโมงละ 1 ลิตร แม้จะไม่รู้สึกกระหายน้ำก็ตาม คนทำงานอยู่ในที่ร่มแต่อยู่ในห้องอุณหภูมิสูงก็ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว หรือประมาณ 2 ลิตร/วัน

- หากต้องออกไปทำงานท่ามกลางสภาพอากาศร้อนๆ ก็ควรเริ่มฝึกออกกำลังกายกลางแจ้งอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้ร่างกายชินกับสภาพอากาศร้อน หลายๆ คนแม้ร่างกายแข็งแรงแบบสปอร์ตแมน แต่ “วอร์มไม่ถึง” ยิ่งคืนที่ผ่านมาดื่มแอลกอฮอล์ พักผ่อนน้อย สำหรับกิจกรรมกลางแจ้งคราวต่อๆ ไปในอุณหภูมิ 40 กว่าองศา ก็ควรงดดีกว่า

- กลุ่มเสี่ยงเกิดอันตราย เด็ก คนชรา ซึ่งไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ คนป่วยที่ต้องรับประทานยาขับน้ำ โรคผิวหนัง หรือเกิดได้ในคนอ้วน เนื่องจากมีไขมันที่ผิวหนังมาก ทำให้มีต่อมเหงื่อน้อย ทำให้การระบายน้อยลงด้วย ดังนั้นคนอ้วนจึงมีโอกาสเกิดปัญหาได้ง่าย

Thailand Web Stat