posttoday

ซ่อมได้

08 สิงหาคม 2553

Q: ถาม : ผนังและพื้นคอนกรีตเกิดการแตกร้าวมีสาเหตุจากอะไรบ้างและมีวิธีป้องกันไม่ให้คอนกรีตแตกร้าวหรือไม่? (คุณประสิทธิ์ สมุทรสาคร)

A:ปัญหาของพื้นและผนังอาคารที่เกิดการแตกร้าว มีสาเหตุใหญ่ๆ อยู่ 6 ประการด้วยกัน คือ

1.การออกแบบไม่ดีพอสำหรับงานชิ้นนั้น เช่น การออกแบบช่องบันไดในพื้นคอนกรีต การออกแบบช่องหน้าต่าง ถ้าไม่มีการเตรียมเหล็กไว้รับรอยร้าวที่อาจเกิดขึ้นตามมุมตามช่องโหว่ๆ นั้น ก็จะประสบปัญหารอยร้าวเกิดขึ้นที่มุมเหล่านี้ได้

2.วัตถุดิบที่ใช้ในการก่อสร้างไม่ดีพอ ในที่นี้หมายถึงวัตถุที่เป็นเนื้อคอนกรีต เช่น ปูนซีเมนต์เผาไม่สุก ทรายสกปรก น้ำมีค่าความเป็นด่างสูงหรือเหล็กเป็นสนิม

3.การผสมไม่ดี เช่น ผสมวัตถุดิบไม่เข้ากันจนทั่ว หรือส่วนผสมไม่ถูกต้อง

4.การขน การเทไม่ดี เช่น ใช้เวลาการขนนาน หรืออาจมีสิ่งสกปรกปะปน หรือหินปูนทรายเกิดการแยกตัว

5.การหล่อหรือการถอดแบบไม่ดี เช่น กระทุ้งไม่แน่นทำให้คอนกรีตเป็นรูเป็นโพรง หรือการหล่อที่ทำให้รอยต่อไม่ติดกันดี หรือการถอดแบบอาจทำเร็วเกินไป หรือถอดแบบก่อนกำหนด คอนกรีตยังพัฒนากำลังไม่เต็มที่

6.การบ่มที่ไม่ดี ทำให้คอนกรีตมีกำลังไม่ถึงตามที่ออกแบบไว้เมื่อต้องรับน้ำหนัก อาจเกิดรอยแตกร้าวได้ หรือเมื่อเกิดความร้อนในคอนกรีตขณะก่อตัวแล้วไม่มีน้ำไปช่วยบ่ม คอนกรีตจะหดตัวและเกิดแรงดึงตามผิว จะเกิดรอยแตกได้ง่าย เพราะกำลังของคอนกรีตต่ำ

ทั้ง 6 ประการข้างต้น ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้คอนกรีตเกิดการแตกร้าวได้ทั้งสิ้น การป้องกันที่ดีคือ การทำตรงข้ามกับทั้ง 6 ข้อที่กล่าวมาแล้ว นอกจากนี้ ยังมีวิธีป้องกันการแตกร้าวอีกวิธี คือ ถ้าหากคอนกรีตที่หล่อเป็นแผ่นขนาดใหญ่ มักจะทำรอยต่อเป็นการบังคับให้แตกในแนวที่ต้องการ ด้วยการตัดคอนกรีตเป็นแนว ร่องที่ตัดมีความลึก 1/3 ของความหนาคอนกรีต โดยอาจใช้ไม้ฝังไว้ขณะที่คอนกรีตยังเหลวอยู่ แล้วจึงดึงออกเมื่อคอนกรีตเริ่มแข็งตัว หรือโดยการเลื่อยคอนกรีตให้เป็นช่องด้วยใบเลื่อย นอกจากนี้ การที่จะให้ได้คอนกรีตที่ดีนั้น ไม่เพียงแต่ต้องใช้ปูนซีเมนต์ที่มีคุณภาพดีเท่านั้น ยังมีส่วนประกอบอื่นๆ ที่ต้องสนใจอีก คือ

ควรเลือกใช้ปูนซีเมนต์ให้ถูกประเภท เหมาะสมกับงานเช่น ไม่ควรใช้ปูนซีเมนต์ที่มีทรายผสมในงานโครงสร้างที่ต้องการการรับแรง รับกำลัง

ส่วนผสมอื่นๆ ของคอนกรีต เช่น หิน กรวด ทรายและน้ำ ต้องสะอาด ซึ่งถ้าเป็นไปได้ ควรใช้น้ำให้น้อยที่สุด เพื่อให้ได้คอนกรีตที่มีแรงดี แต่ปริมาณน้ำก็ไม่ควรน้อยกว่า 0.35 เท่าของน้ำหนักปูนซีเมนต์ เพื่อให้มีน้ำเพียงพอในการทำปฏิกิริยากับปูนซีเมนต์

การเทคอนกรีตเข้าแบบและทำให้แน่น ให้ถูกต้อง และต้องบ่มคอนกรีตให้ดี มีน้ำอยู่เสมอ เพื่อให้เกิดแรงตามที่ออกแบบไว้ ที่สำคัญ ห้ามถอดแบบออกก่อนกำหนด มิฉะนั้นคอนกรีตที่หล่อไว้ อาจทรุดและแตกร้าวได้

ไม่ควรมีสารเจือปนที่ไม่เหมาะสม เช่น หินบด หินฝุ่น หรือแม้แต่การใส่แม่สีที่มากเกินไป เพราะจะทำให้กำลังของคอนกรีตตกลง

สำหรับปูนฉาบ ต้องทำการหมักปูนขาวกับทรายทิ้งไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมง ก่อนนำไปใช้งาน ถ้าใช้น้ำยาผสมปูนฉาบ ควรอ่านคำแนะนำการใช้งานของน้ำยาก่อนทุกครั้งครับ