ตกทอง… ระวังให้ดีกับของเก๊
โดย...บีเซลบับ ภาพ คลังภาพโพสต์ทูเดย์
โดย...บีเซลบับ ภาพ คลังภาพโพสต์ทูเดย์
เรื่องของการตกทองในสังคมไทยมีให้ได้ยินและได้ตกใจ (ว่าเกิดขึ้นได้ไงเนี่ย...เชื่อเข้าไปได้ไงเนี่ย!) เกิดขึ้นที่โน่นที่นี่บ่อยครั้ง หายไปบ้างแต่ไม่นาน ทำท่าว่าจะลืมๆ อ้าว ก็มีเรื่องตกทองให้เป็นข่าวเป็นคราวให้ได้ยินอยู่นั่นเอง จะเปลี่ยนก็แต่เรื่องราวและตัวละคร ส่วนแพตเทิร์นยังคงเดิมไม่เคยเปลี่ยน ว่าแต่ว่าตัวคุณเองเคยตกเป็นเหยื่อของแก๊งตกทองบ้างแล้วหรือไม่ อ่านไว้สอนใจตัวเอง อนาคตไม่แน่นอน บางทีวันพรุ่งนี้อาจเป็นคุณ!
รวมมุขตกทองเขียนให้ตายก็ไม่หมด เพราะมีมาใหม่ๆ รวมทั้งเรื่องเก่าเล่าใหม่หลอก (ลวง) ใหม่ก็ทำได้เนียนๆ กระทั่งคนมากมายตกเป็นเหยื่อ เช่น มุขขายที่ดิน มุขตกรถหรืออยากกลับบ้านที่ต่างจังหวัด แต่ไม่มีเงินค่ารถ คุณย่าคุณยายใบหน้าใสซื่อ ทำท่าควักสายสร้อยเก่าคร่ำคร่า ประหนึ่งสมบัติประจำตระกูลขึ้นมา สายสร้อยเต็มไปด้วยพระเครื่องโบราณดูเก่าและขลังอย่างมาก มีกระทั่งหลอกว่าเป็นพระสมเด็จแท้ ก็มีคนเคยเชื่อควักเงินให้ค่ารถไป เพื่อแลกกับสร้อยพระเครื่อง (เก๊) มาแล้ว
มุขคลาสสิกของชาวต่างชาติ ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง แต่ไม่อาจไปขึ้นเงินได้เพราะเป็นต่างด้าว ก็ขอแลกลอตเตอรี่กับเงินค่ารางวัลในอนาคตที่จะยกลอตเตอรี่ถูกรางวัลให้ทั้งใบ (หรือหลายใบ) เพื่อเอาไปขึ้นเงินได้สบายๆ แลกแล้วไม่สบายอย่างที่ฝัน เพราะเมื่อนำไปขึ้นเงินจึงรู้ว่าเป็นลอตเตอรี่ปลอม แถมนกต่อที่มาร่วมซื้อร่วมจูงใจให้หุ้นซื้อลอตเตอรี่ด้วยกันเป็นคุ้งเป็นแควนั้น ก็หายต๋อมไป หาตัวไม่เจอและเงินก็สูญไปตามระเบียบ
ล่าสุด คือข่าวที่แก๊งมิจฉาชีพออกอาละวาดกลางเมือง บนสถานีรถไฟฟ้า พบบ่อยทั้งที่สถานีตั้งต้นหมอชิตและสถานีใหญ่ๆ เช่น อนุสาวรีย์ชัยฯ เริ่มจากตัวละครประมาณว่าหญิงวัยกลางคนโดนเหยื่อชนล้ม ต่อจากนั้นก็จะล้มลงโอดโอย หน้าม้าจะเข้ามารุมล้อมในช่วงนี้ เช่น ถามอาการ หว่านล้อมให้เหยื่อต้องพาหญิงกลางคนไปโรงพยาบาล รักษาพยาบาลให้หายขาด เป็นต้น มุงดูและพูดให้น่าเชื่อถือ ขณะที่คนเจ็บก็จะชิงจังหวะในช่วงนี้แบไต๋ว่าไม่มีตังค์ ไม่มีเงินเลย ข้าวของกล่องกระดาษและถุงที่ตกกระจัดกระจายอยู่นี้ก็เสียหาย ขอให้เหยื่อชดใช้ค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาล
วิธีเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อแก๊งตกทอง...
1.ไม่โลภ
อย่าโลภ กลไกการสร้างเรื่องของนักตกทองมีเพียงอย่างเดียวคือ การใช้ความโลภของเหยื่อเป็นเหยื่อล่อให้เหยื่อนั้นเองติดกับดัก ถามตัวเองว่า ขณะนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น จากนั้นจะค่อยๆ รู้สึกตัวและได้สติจากเรื่องราวที่ไม่เมกเซนส์ ไม่เป็นเหตุเป็นผล ถามตัวเองว่าถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง คนพวกนี้ทำไมถึงจะยอมให้เราได้รับเงินทองหรือส่วนแบ่งที่มีค่าอย่างง่ายๆ เหยื่อของแก๊งตกทองมักพูดตรงกันว่า พวกนี้พูดเก่ง หว่านล้อมเก่ง แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะความโลภของเหยื่อที่ผสมโรงให้เรื่องราวเกิดขึ้น
2.ระวังตัว
ระวังตัวไว้ก่อนดีกว่า หมายถึงความไม่ประมาท พึงตั้งตนอยู่ในโหมดของการระวังภัย ซึ่งก็จะทำให้เราตั้งหลัก ตั้งรับหรือแม้กระทั่งพาตัวเองออกจากสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัยได้เร็วที่สุด เช่น แก๊งมือถือหล่นที่ระบาดหนักในย่านชุมชน พวกนี้จะแกล้งเดินมาชนแล้วต่อว่าเหยื่อว่าทำให้มือถือตกหรือกระเป๋าตังค์ตกหาย หาไม่เจอ เป็นต้น เรียกร้องเงินทองจากเหยื่อ กรณีอย่างนี้ให้รีบพาตัวเองออกจากสถานการณ์โดยเร็ว มองหาตำรวจ หรือตะโกนเรียกตำรวจ
3.อย่าขี้สงสารจนไร้เหตุผล
นักตกทองบางกลุ่มใช้กลวิธีเป็นเหยื่อเอง เพื่อล่อเป้าให้เข้ามาแล้วจัดการ เช่น หญิงอุ้มลูก หรือคนป่วยเจ็บนอนอยู่กับพื้นถนนเพราะประสบอุบัติเหตุ เคยมีเหตุการณ์พระโบกรถแถวชายแดนไทย-ลาว จะมีพระภิกษุสองรูปเดินอยู่ริมถนนทำทีโบกรถขออาศัยไปด้วย จากนั้นก็จะแกล้งบอกให้ไปส่งในที่เปลี่ยว อ้างว่ามีลูกศิษย์รออยู่ ปลายทางคือลูกศิษย์เก๊ที่คือโจรคอยอยู่
เมื่อเหยื่อมาถึงก็ตบทรัพย์ ชิงเงินทองของมีค่า ถ้าเป็นผู้หญิงจะข่มขืนด้วย เจ้าหน้าที่ชายแดนเล่าว่าพวกนี้ปล้นข่มขืนแล้วแยกย้ายหนีข้ามชายแดน ยากที่จะติดตาม ถ้าเจอแบบนี้ให้ขับรถผ่านเลยไปก่อน
จากนั้นประสานงานกับหน่วยงานราชการหรือตำรวจในภายหลังจะดีกว่า ปลอดภัยกว่า
4.อย่าใส่เครื่องประดับมีค่า
พฤติการณ์ของแก๊งตกทองบางกลุ่มจะเลือกเหยื่อที่สวมใส่สร้อยทอง หรือเครื่องประดับ เนื่องจากติดตัวและถอดง่าย (ไม่ต้องกลับไปบ้าน หรือจำกัดตัวเหยื่อไว้ได้โดยไม่ต้องกลับไปเอาเงินที่บ้าน เมื่อเจอกับญาติพี่น้องอาจตาสว่างได้คิด) เคยมีกรณีของนักตกทองที่ทำทีเข้ามาสอบถามเส้นทาง จากนั้นจะนำพระเครื่องเลี่ยมกรอบทองมาเสนอขาย อ้างเป็นพระดัง ช่วงนี้มักมีหน้าม้าเข้ามายืนยันความแท้ของพระ (ปลอม) ว่ามีราคาสูง ปล่อยขายได้ง่าย เป็นต้น
เหยื่อหลงเชื่อแล้วก็จะเรียกรถแท็กซี่ ซึ่งก็เป็นสมาชิกแก๊งนักตกทองด้วยกันเข้ามา ทั้งหมดพูดโน้มน้าวก่อนจะเรียกตัวหน้าม้าอีกคน ที่ระบุตัวให้เป็นเจ้าของร้านทอง นัดมาตีราคาทองแล้วยอมรับซื้อในราคาสูงลิ่ว การันตีว่าถ้าต่อมาขายให้ร้านหน้าม้านี้แล้วจะต้องนำเงินมาแบ่งเท่ากันทุกคน จากนั้นทุกคนจะถอดสร้อยทองคำให้เป็นประกัน เหยื่อก็ถอดสร้อยทองแท้วางเข้าในกองกลาง ขณะที่คนอื่นถอดสร้อยเก๊ เมื่อนั่งรถไปขายพระเครื่องยังร้านทองหลอกๆ นั้น ก็เพื่อจะพบว่าทุกอย่างเป็นเรื่องโกหก และทุกคนหนีหายหลบเร้นไปหมดแล้ว
เรื่องตกทองนี้มีการตระเวนทำในหลายพื้นที่ ถือเป็นภัยใกล้ตัวในสังคมที่นำมาเตือน ระวังและรู้เท่าทันทั้งต่อแก๊งมิจฉาชีพ ระวังและรู้เท่าทันต่อความโลภของตนเอง ครั้งหน้าอาจเป็นคุณ อย่าตกเป็นเหยื่อเสียเองในเรื่องที่เคยหัวเราะเยาะ (เหยื่อ) คนอื่นๆ ก็แล้วกัน!